ตร.เอาผิด 2 ข้อหา คนขับสิบล้อบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำถนนยุบ เสนอริบรถของกลาง

9 พฤศจิกายน 2566 ความคืบหน้า กรณีเหตุรถบรรทุกขนดิน ตกบ่อการไฟฟ้า บริเวณถนนสุขุมวิท 64/1 จนถนนพังเสียหาย และพบว่า รถบรรทุกคันดังกล่าว มีสติกเกอร์รูปดาวสีเขียว อักษร B ติดอยู่ที่กระจกหน้ารถ จนมีการตั้งข้อสงสัยว่า เกี่ยวข้องกับ ส่วยสติกเกอร์ รวมถึงเบื้องต้นมีการคาดว่า รถบรรทุกคันเกิดเหตุบรรทุกน้ำหนักเกิน จนเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ โดยมีพิรุธมีการนำดิน ที่อยู่ท้ายกระบะบรรทุกไปทิ้ง และไม่ยอมให้มีการชั่งน้ำหนักในตอนแรก

ซึ่งเมื่อช่วงเย็นวันนี้ (9 พ.ย.) ทางตำรวจได้มีการอายัดรถของกลาง พร้อมนำมาชั่งน้ำหนัก พบมีการบรรทุกน้ำหนักเกินถึง 37 ตัน รวมถึงยังพบว่า รถคันก่อเหตุเคยถูกจับน้ำหนักเกิน เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา แต่มีการเปลี่บนสติกเกอร์ดาวหน้ารถ

ล่าสุด เมื่อ 18.30 น. ที่ สน.พระโขนง ภายหลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือกันร่วมประมาณ 1 ชั่วโมง นางสายทิพย์ สุคนธ์มณี ผู้อำนวยการเขตพระโขนง เปิดเผยว่า ในส่วนของสำนักงานเขตพระโขนง ได้อาศัยประกาศของผู้อำนวยการทางหลวงท้องถิ่น เรื่องการห้ามใช้รถบรรทุกที่มีน้ำหนักบรรทุกเกินกว่าที่ได้กำหนด หรือโดยที่ยานพาหนะนั้น หรือโดยที่ยานพาหนะนั้นอาจทำให้ทางหลวงเสียหาย 

ซึ่งทางหลวงท้องถิ่นนี้นั้น เป็นเขตรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร เป็นส่วนที่ 1 ของ ยานพาหนะชนิดรถเดี่ยว ข้อ 10 มีข้อกำหนดไว้ว่า “ยานพาหนะที่มี 3 เพลา 6 ล้อ 10 เส้น ชนิดเพลาท้ายใช่ยางคู่ จะต้องมีน้ำหนักลงเพลาคู่ท้ายไม่เกิน 20 ตัน หรือร่วมน้ำหนักยานพาหนะไม่เกิน 25 ตัน “ โดยทางกรมทางหลวงได้เเจ้งแล้วว่า เกินกว่าที่กำหนดไว้ 12.45 ตัน   


ดังนั้น จึงมีโทษตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 ตามมาตรา 73/2 ซึ่งผู้ใดฝ่าฝืนประกาศของผู้อำนวยการทางหลวงตาม ตามมาตรา 61 วรรค1 ต้องมีโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับ 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งการดำเนินการตามกฎหมายนี้ เป็นหน้าที่ของทาง สน.พระโขนง ต่อไป นางสายทิพย์ กล่าว 

 

ด้าน พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รรท.ผบก.น.5 กล่าวว่า คดีนี้ ทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ บก.น.5 ดำเนินการอย่างเคร่งครัด โดยมีการดำเนินการใน 2 ส่วน มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน ในคดีนี้โดยเฉพาะ และมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุที่เกิดขึ้น

เบื้องต้น จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา 2 คดี คือขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่น ได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับอันตรายสาหัส และ ขับรถบรรทุกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินคดีกับผู้ต้องหา และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจะมีการแจ้งข้อหา กับผู้ขับขี่ทั้ง 2 ข้อหา โดยพยานหลัก ๆ จะเป็นของกรมทางหลวง ซึ่งทางตำรวจจะเสนอให้ตรวจยึดรถของกลาง ที่ใช้ในการกระทำความผิด แต่อยู่ที่ดุลยพินิจของศาล
 

ส่วนกรณีที่มีการถ่ายเทน้ำมัน และดินออกนั้น เชื่อว่าไม่มีผลต่อการดำเนินคดี เนื่องจากสิ่งที่ต้องการ อยู่ที่น้ำหนักเกินหรือไม่ อย่างไรก็ตาม รถสิบล้อคันดังกล่าว หลังเกิดเหตุได้มีการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ซึ่งการที่จะทำอะไร ต้องมาขออนุญาตพนักงานสอบสวนก่อน ทั้งนี้จะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อตรวจสอบต่อไป
 

พ.ต.อ.วิทวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นอักษรตัว B หรือ ชื่อเล่น "นายบิ๊ก" นั้น เป็นชื่อของเจ้าของรถ จากการสอบถามนายบิ๊กแจ้งว่า เป็นสติกเกอร์ทำไว้ใช้ไซต์งาน เพื่อขนดินออกจากไซต์งาน จะต้องมีสติกเกอร์นี้เท่านั้น แต่ตนยังไม่ปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ จะมีการตรวจสอบว่า มีส่วยสติกเกอร์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ทั้งนี้หากพบว่า ผู้ใดมีส่วนร่วมจะถือว่าเป็นตัวการร่วม จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการต่อไป  
 

ด้าน เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากตำรวจ และทางกรุงเทพมหานคร เพื่อนำเครื่องชั่งน้ำหนักแบบอัตโนมัติ มาทำการช่างรถบรรทุกคันดังกล่าว หลังจากที่ได้ทำการชั่งแล้วปรากฎว่า  น้ำหนักของรถบรรทุกคันดังกล่าว อยู่ที่ 37,450 กิโลกรัมหรือ 37.450 ตัน เกินที่กำหนดไว้ประมาณ 12.45 ตัน ตอนนี้ให้ทางฝ่ายกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ดำเนินการต่อ ทางกรมทางหลวง มีหน้าที่เพียงแค่ชั่งน้ำหนักเพียงเท่านั้น