svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"อ.เจษฎ์" โพสต์หลักฐานยืนยัน "บั้งไฟพญานาค" ที่แท้เป็นกระสุนส่องวิถี

05 พฤศจิกายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตามต่อ "อ.เจษฎ์" โพสต์หลักฐานยืนยัน "บั้งไฟพญานาค" ที่แท้เป็นกระสุนส่องวิถี ที่ยิงจากประเทศเพื่อนบ้าน งานนี้ชาวเน็ตเสียงแตกยับ

5 พฤศจิกายน 2566 ยังคงเป็นประเด็น "ดรามา" ให้ถกเถียงกันมายาวนาน สำหรับกรณีการเกิด "บั้งไฟพญานาค" ที่มีผู้คนจำนวนมากให้ความเชื่อเคารพศรัทธาว่า เป็นฝีมือของ "พญานาค" ในแม่น้ำโขง ขณะที่การพิสูจน์ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ มีการคาดว่า เกิดจากสะสมของก๊าซมีเทน ที่ก้นแม่น้ำ แต่ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าวเป็นชิ้นเป็นอัน  
\"อ.เจษฎ์\" โพสต์หลักฐานยืนยัน \"บั้งไฟพญานาค\" ที่แท้เป็นกระสุนส่องวิถี
\"อ.เจษฎ์\" โพสต์หลักฐานยืนยัน \"บั้งไฟพญานาค\" ที่แท้เป็นกระสุนส่องวิถี  

อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนเชื่อว่า "บั้งไฟพญานาค" เกิดจากฝีมือของมนุษย์ โดยเฉพาะ อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ อ.เจษฎ์ ที่ติดตามเรื่องของ "บั้งไฟพญานาค" มาอย่างยาวนาน

ที่ได้ยืนยันหนักแน่นว่า "บั้งไฟพญานาค" แท้จริงแล้ว เกิดจากฝีมือมนุษย์อย่างแน่นอน ไม่ใช่ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด จนตามด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา โดยเฉพะจากผู้ที่มีความเชื่อถือในเรื่องนี้ และดูเหมือนดรามานี้ จะไม่จบลงง่าย ๆ 
อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


 

ล่าสุด อ.เจษฎ์ ได้มีการโพสต์ เพจ Jessada Denduangboripant  และเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ระบุว่า 

"มีบั้งไฟพญานาค ยิงขึ้นจากเรือไฟ ในน้ำโขง" 

จริง ๆ หลักฐานเรื่อง บั้งไฟพญานาค เป็นกระสุนส่องวิถี (tracer round) ยิงขึ้นฟ้าจากฝั่งลาวนั้น มีออกมาเยอะมาก ตั้งแต่การลงพื้นที่พิสูจน์ของ คุณสมภพ ขำสวัสดิ์ และเพื่อน ๆ เพจ พิสูจน์บั้งไฟพญานาค ในปี พ.ศ. 2555 (หรือกว่า 11 ปีแล้ว)

ซึ่งครั้งนั้น มีทีมงานเพื่อนคนลาว ช่วยถ่ายภาพและคลิปวีดีโอจากฝั่งลาวด้วย ซึ่งได้หลักฐานชัดเจนว่า มีการยิงกระสุนส่องวิถีขึ้นฟ้า จากป่าในฝั่งลาว และเมื่อยิงขึ้นไปแล้ว คนไทยที่มานั่งชมในฝั่งไทย ก็ส่งเสียงเฮลั่นตามมา
 

ที่สำคัญคือ ได้รูปที่มีการยิงขึ้นจาก "เรือไฟ" ที่ไหลผ่านมาด้วย .. ซึ่งน่าจะทำให้ยิ่งหลอกสายตาผู้ชมได้เนียนขึ้นอีก ว่าลูกไฟมันพุ่งขึ้นจากน้ำ ในเวลากลางคืนอันมืดมิด ! (ดูภาพประกอบ)

ลองอ่านเรื่องราวที่ทีมงานคนลาวเล่าให้ฟัง ว่าไปเจออะไรมาบ้าง รวมทั้งเห็น "คนที่ยิงด้วย" ในโพสต์ด้านล่างนี้นะครับ

ป.ล. ในรูปประกอบ ฝั่งซ้ายคือฝั่งไทยที่มีคนมารอดูบั้งไฟพญานาคเต็มไปหมด ส่วนฝั่งขวาคือฝั่งลาว ที่ไม่ค่อยมีคนมากนัก ส่วนใหญ่ก็คือมาดูเรือไฟและลอยกระทง ในวันออกพรรษา 
-------

 

(บทความ) "ผลการพิสูจน์บั้งไฟพญานาค 30 ต.ค. 55" โดย คุณสมภพ

...... ผลงานจากเพื่อนฝั่งลาว

ก่อนไปได้ประชุมกันก่อน เพราะเรื่องมันมีอยู่ว่า ปีที่แล้ววันที่ 12 ต.ค. 54 ผมไปถ่ายรูปบั้งไฟพญานาคแบบเปิดหน้ากล้องนานๆที่ บ.ท่าม่วง อ.รัตนวาปี (พิกัด 18.21325,103.155608)
จึงไปหาใน google map ว่า หมู่บ้านลาวฝั่งตรงข้ามคือหมู่บ้านอะไร พบว่าคือ หมู่บ้าน Ban Houay Sophay, Bolikhamsai, ປະເທດລາວ
อ่านว่า บ้านห้วยโสไพ (พิกัด 18.217224,103.146214) 

และนั่น จึงเป็นที่ ๆ ผมนัดให้เพื่อนคนลาวไปดู ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในหมู่บ้านนั้น? ได้เรื่องราวพร้อมคำบอกเล่าดังต่อไปนี้

(ข้อความจากทีมคนลาว คุณ จาก Thanavorakit Kounthawatphinyo) "วันนี้พวกเราพากันไปพิสูจน์บั้งไฟพญานาคมา สถานที่ก็อยู่ฝั่งลาวเรานี่แหละ แต่ไม่ขอระบุสถานที่นะ เอาเป็นว่า อยู่ฝั่งเรา
ก็ไปกันตั้งแต่บ่าย ๒-๓ โมง เพื่อจะได้ไม่ต้องแย่งที่ใคร เพราะกลัวคนเยอะ ไปถึงแล้วก็ปรากฎว่าไม่ค่อยมีคน มีแต่ชาวบ้าน ก็เลยได้เลือกสถานที่ตามใจ แล้วก็นั่งรอจนถึงค่ำ

ฝั่งลาวเราไม่มีอะไรมาก เป็นงี้แหละ แต่ฝั่งไทยคนเยอะ เยอะพิลึกพิโล เยอะเอาจริงเอาจัง เขาก็ไปนั่งรอ นั่งจองสถานที่กันตั้งแต่กลางวันจนถึงค่ำ จนจนเดือนโผล่ดินขึ้นฟ้า

พวกเราก็นั่งดู นั่งสังเกตไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลาหนึ่ง ได้ยินเสียงเฮ จากฝั่งไทย แล้วก็เสียง โฮ ดังต่อมา เพราะว่า เขาเห็นบั้งไฟพญานาคปรากฎขึ้น พวกเราก็มองหาดู แต่ก็ไม่เห็น แล้วก็เงียบไปอีกระยะหนึ่ง จากนั้นฝั่งไทย ก็พากันร้องเฮโฮกันอีก เป็นแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง

ในขณะที่ทีมพวกเรากำลังสิ้นหวัง คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นบั้งไฟศักดิสิทธิ์ (!?) แล้วก็ปรากฎว่า มีเสียงโฮดังขึ้นอีกจากฝั่งไทย!!! แล้วในวินาทีนั้นเอง เป็นวินาที่แรกที่ข้าพเจ้าได้เห็นบั้งไฟพญานาค ลอยพ้นบริเวณขึ้นฟ้า!! สีของมันเป็นสีชมพูเข้ม อาจเข้าขั้นสีแดงเลยก็เป็นได้ มันเคลื่อนที่ไม่ไวนัก และไม่ช้านัก มันลอยขึ้นฟ้าแล้วก็ดับไป

นั่นเป็นวินาทีที่ตื่นเต้นมาก สำหรับคณะของพวกเรา ซึ่งบางคนก็เห็น บางคนก็ไม่เห็น แต่สำหรับข้าพเจ้าที่เห็นนั้น แปลกใจมาก เพราะมันเป็นอย่างที่เขาเล่ากันมา

หลังจากบั้งไฟลูกนั้นแล้ว พวกเราก็นั่งตั้งหน้าตั้งตารอคอยต่อไป และพยายามดูไปที่ผิวน้ำแต่ก็ไม่ปรากฎเห็น ได้ยินแต่เสียงโฮ่จากฝั่งไทย ไม่รู้เขาร้องโฮ่อะไร เห็นมีแต่พากันยิงพุไฟ แล้วก็จุดประทัด และอันที่ปวดหัวที่สุดนั่นคือ มีการลอยโคมไฟขึ้นฟ้า ทำให้สับสนว่าอันไหนเป็นบั้งไฟ อันไหนเป็นโคมไฟกันจริง ๆ !!

หลังจากผ่านไปร่วมชั่วโมง พวกเราก็เห็นบั้งไฟพญานาคปรากฎขึ้นอีก แต่ครั้งนี้กลับอยู่เลียบแม่น้ำทางขวามือ ซึ่งข้าพเจ้าก็มีโอกาสได้เห็นอีกครั้ง!!

นั่งดูไปพอสมควร ปรากฎว่า เราก็ได้ยินเสียงปืนยิงดังขึ้นจากทางซ้ายมือ พอเหลียวไปเท่านั้นแหละเห็นบั้งไฟพญานาคลอยขึ้นฟ้า!!! แล้วก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก แต่ไม่เห็นบั้งไฟขึ้น ส่วนฝั่งไทยนั้นหรือ? ก็โฮนั่นแหละครับพี่น้อง!!
\"อ.เจษฎ์\" โพสต์หลักฐานยืนยัน \"บั้งไฟพญานาค\" ที่แท้เป็นกระสุนส่องวิถี  

พวกเรานั่งสังเกตอยู่พอสมควร จึงรู้กันว่า บั้งไฟพญานาคมันชอบจะขึ้นอยู่ทางเลียบแม่น้ำฟากขวามือ ก็เลยพากันไปดู มันเป็นต้นโพธิ์ หรือต้นไทร หรือต้นอะไรซักอย่าง ขนาดใหญ่ ปกคลุมทั่วบริเวณนั้น 
ลองสอบถามเด็กชาวบ้านก็บอกว่า เป็นเขตที่ผู้ใหญ่ไม่ให้เข้า เพราะมันอันตราย โดยเฉพาะในยามกลางคืน บางคนก็ว่าเป็นเขตดินของวัด บางคนก็ว่า มีศาลเจ้า หรือศาลอะไรต่าง ๆ อยู่ในนั้น ซึ่งขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น!!!

มีลูกไฟลอยขึ้นมาจากในป่าแห่งนั้น ที่พวกเรากำลังดูอยู่!! มันเป็นลูกไฟสีแดงลอยขึ้นมา ความไวมันเป็นแบบลูกไฟที่พวกเราเห็น และเข้าใจว่าเป็น "บั้งไฟพญานาค" ในตอนแรกนั่นเอง

เด็กน้อยแถวนั้นบอกว่า อยู่นี้เห็นตลอด บางคนเห็นถึง ๑๗ ลูกแล้ว พวกเราจึงตั้งหลักกันสังเกตการณ์อยู่นั้น ซึ่งก็สังเกตเห็นคนอยู่ในป่านั้น (ซึ่งป่านั้นเป็นแหล่งที่มีน้ำล้อมรอบ ไม่สามารถข้ามไปได้หากไม่มีเรือ) เขาก็เดินไปเดินมา แล้วก็เหลียวมาดูคณะของพวกเรา จากนั้นก็หายไปในป่า แล้วก็ออกมาอีก เป็นแบบนี้อยู่สองสามรอบ จากนั้นก็มีลูกไฟปรากฎออกมาจากในป่าอีก และแน่นอน... ฝั่งไทยก็ร้องโฮขึ้น... (ดูภาพที่ลูกไฟขึ้นมาจากป่า) 

หลังจากนั้น หนึ่งในทีมงานที่ไปกับคณะของพวกเราเดินมาหา แต่ระหว่างทางปรากฎว่า พบกับใครก็ไม่รู้จัก เดินสวนทางมาแล้วบอกว่า "ระวังตัวให้ดี" แล้วก็เดินผ่านไป

พวกเรารู้แบบนั้นก็ไม่สบายใจ คิดว่าน่าจะมีอะไรแล้วล่ะ แต่ก็ยังอดรออยู่ต่อไป ซึ่งก็ไม่เห็นอะไรอีกเลย ฝั่งไทยก็เลิกโฮ ฝั่งลาวก็เงียบ เราก็งง จากนั้นก็เห็นคนพายเรือไปยังที่ป่านั้น แล้วก็มีคนในป่าเดินไปหาเรือแล้วก็หายไป

ยืนรออยู่นานพอสมควร แล้วก็คุยกันไปเรื่อยๆ ขณะที่กำลังคุยกันนั้นเอง เสียงปืนก็ดังขึ้นจำนวน ๑๐ ลูกติดต่อกัน พวกข้าพเจ้าเห็นลูกไฟสีแดงที่เรียกและเชื่อกันว่ามันคือ "บั้งไฟพญานาค" ลอยมาจากทางหลังของพวกเรา และเสียงนั้นก็เช่นกัน มันดังมาจากหลังของพวกเรา!!!

มีคนยิงปืนอยู่ทางหลังเรานี้เอง 
พอได้สติแล้ว ข้าพเจ้าก็เรียกให้สหายที่ไปด้วยกัน รีบออกจากที่นั้นทันที เพราะไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เมื่อคนที่ยิงบั้งไฟพญานาคนั้น อยู่ใกล้ขนาดนี้ ซึ่งก็แน่นอน สิ้นเสียงปืนลูกที่ ๑๐ แล้ว เสียงโฮจากฝั่งไทยก็ดังขึ้นตามมา

ถ้าเปรียบเป็นการแสดง นี้คงเป็นการแสดงที่เรียกได้ว่า The Best Performance!

ชมคลิปและฟังเสียงเอานะ
 

อีกภาพนิ่งจากฝั่งลาว
รูปนี้สังเกตให้ดีๆ จะเห็นว่ามีจุดกำเนิดบั้งไฟในภาพด้วยละ นี่ละมั้งที่เป็นเหตุผลว่าทำไมไม่เห็นมีบั้งไฟที่ว่าขึ้นจากฝั่งไทย หรือผิวน้ำเลย

อีกภาพจากฝั่งลาว
ก่อนอื่น ต้องขอบอกว่า ทีมผมไม่ได้มีเจตนาจะทำลายความเชื่อ หรือหนทางทำมาหากินอะไรก็แล้วแต่ที่มีมาแต่เก่าก่อนนะครับ เราแค่ต้องการพิสูจน์ว่า มีคนยิงขึ้นมาจากฝั่งลาวจริงไหมเท่านั้น นอกนั้นไม่สนใจ
และการพิสูจน์ก็จบลงไปแล้ว แต่ผมยังคงเชื่อว่ามันอาจจะมีที่ ที่ลูกไฟเหล่านี้ไม่ได้ออกมาจากปลายกระบอกปืนอยู่อีก แต่จะเป็นที่ใด อย่างไร และเมื่อไหร่นั้น คงต้องรอปีหน้า

ป.ล. ตอนแรกก็สงสัยอยู่ว่าถ้ามันขึ้นมาจากคนยิงในป่าจริง แล้วที่เราเห็นมันขึ้นอยู่ในน่านน้ำมันมาจากไหน ผมพยายามคิดอยู่นาน แต่ก็คิดไม่ออก จนกระทั่งมาเจอรูปที่คนในทีม ถ่ายได้" (ดูภาพลูกไฟที่ขึ้นมาจากเรือ) ...
 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ ได้มีชาวเน็ตจำนวนมาก เข้ามาแสดงความเห็นด้วย และเห็นต่าง และมีบางส่วนเห็นว่า ควรหยุดการพูดเรื่องของที่มา บั้งไฟพญานาค เพราะน่าจะมีคนจำนวนมาก เข้าใจเรื่องที่มา แต่ไม่พูด เพราะต้องการรักษาเรื่องการท่องเที่ยว
ตัวอย่างความคิดเห็นชาวเน็ต

 

logoline