svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ย้อนรอย "เณรแอ" ตัวตึงมนตร์ดำ ผู้ถูก "นารีพิฆาต"

ย้อนรอยอดีต "เณรแอ" ผู้ตั้งตนเป็น ผู้ทรงอาคม มนตร์ดำ และไสยเวทย์ แต่กลับถูก"นารีพิฆาต"มาโดยตลอด ล่าสุดตกเป็นข่าวอีกครั้งในปมล่วงละเมิดสาว 25 ปี อาจซ้ำรอยคดีในอดีตที่ต้องติดคุก เพราะ "ผู้หญิง"

1 พฤศจิกายน 2566 หากเอ่ยชื่อ นายหาญ รักษาจิตต์ หลายคนอาจจะไม่รู้จัก แต่หากบอกว่าเขาคือ "เณรแอ" หรือ "เณรแอ จอมขมังเวทย์" แทบทุกคนต้องรู้จักในฐานะของผู้มีวิชาอาคม เป็นจอมขมังเวทย์ ปลุกเสกกุมารทอง ทำเสน่ห์ยาแฝด เป็นที่รู้จักด้านไสยศาสตร์มนตร์ดำ 

แต่สุดท้าย "เณรแอ" จอมขมังเวทย์ กลับต้องติดคุกหลายครั้ง ถูกกล่าวหาความผิดเกี่ยวกับเรื่องเพศอยู่เสมอ ล่าสุด หญิงสาว อายุ 25 ปี นำหลักฐานข้อความการสนทนา มาขอความช่วยเหลือกับ เพจสายไหมต้องรอด โดยระบุว่า ไปหาเณรแอร์ที่สำนักหลายครั้ง เพราะต้องการให้ถอนของคุณไสยและมนตร์ดำออกจากตัวเธอ

แต่เจ้าสำนักจอมขมังเวทย์รายนี้ บอกให้เธอถอดเสื้อเพื่อลงเสน่ห์ จากนั้นก็เอาอวัยวะเพศสอดใส่ไปที่ตัวเธอ ซึ่งตัวเธอก็ไม่ยอม แต่จอมขมังเวทย์รายนี้บอกว่าเป็นวิชาทางไสยศาสตร์ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ดีขึ้น จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก 

อย่างไรก็ตาม เณรแอ ยืนยันว่า ไม่ได้ทำอย่างที่เป็นข่าว ไม่มีพฤติกรรมทำพิธีถอนของ หรือกระทำการมีเพศสัมพันธ์ตามที่ถูกกล่าวหา ทำเพียงพิธีอาบน้ำมนต์ในที่โล่งแจ้งเท่านั้น เรื่องที่เกิดขึ้นตนคิดว่าเป็นการใส่ร้ายให้เสียชื่อเสียง

  "เณรแอ" จอมขมังเวทย์ หรือ จอมลวงโลก?  
ย้อนไปปี 2538 "เณรแอ" เป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ เมื่อตกเป็นข่าวการถูกจับ เมื่อ กรกฎาคม 2538 เณรแอ ได้กระทำเรื่องอันน่าตกใจ เมื่อร่วมกับลูกศิษย์ 3 คน วมกันทำพิธีไสยศาสตร์ ย่างศพเด็กทารก เพื่อปลุกเสก "กุมารทอง" ภายในวัดหนอง ระกำ อ.หนองโดน จ.สระบุรี

เณรแอ ถูกดำเนินคดีฐานซ่อนเร้นและทำลายซากศพ ต่อมาศาลจังหวัดสระบุรีพิพากษาจำคุกเณรแอ กับพวกอีก 3 คน คนละ 1 ปี และสั่งห้ามจำเลยทั้งหมดดำเนินการ หรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมใดๆ เกี่ยวกับไสยศาสตร์และเวทมนตร์คาถาต่างๆ มีกำหนด 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษ

หลังจากพ้นโทษออกมา เณรแอ ยังคงไม่เข็ดหลาบ จัดตั้งสำนัก “เณรแอจอมขมังเวท” ที่บ้านพักหลังหนึ่งใน ต.หนองโดน จ.สระบุรี พร้อมโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ อวดอ้างว่า มีอาคม สามารถทำเสน่ห์ให้ผัวรักผัวหลงได้

กระทั่งกลับมาเป็นข่าวฉาว อีกครั้งเมื่อปี 2548 เมื่อ นางชไมพร รักษาจิตร์ ภรรยาของ เณรแอ เข้าร้องทุกข์ กับ มูลนิธิปวีณา หงสกุล และแจ้งความกับ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส. เพื่อดำเนินคดีอดีตเณรแอ ฐานหลอกลวงทรัพย์สินของผู้หญิงที่มีปัญหาครอบครัว

ภรรยาของเณรแอ กล่าวถึงสาเหตุว่า ต้องการขอหย่า เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น โฆษณาตามหนังสือต่างๆ ว่ามีอาคม ทำเสน่ห์ให้คนหลงรักได้ และมีหญิงสาวหลายคนตกเป็นเหยื่อ แต่ เณรแอ ก็ไม่ยอมหย่า 
 

การบุกค้นสำนักเณรแอ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2548 ปรากฏว่ากำลังทำเสน่ห์ให้กับสาวบาร์ญี่ปุ่น ย่านสีลม อายุ 19 ปี ซึ่งยอมรับว่า ได้ร่วมหลับนอนกับ เณรแอ 2 คืน เนื่องจากอยากมาทำเสน่ห์ แต่ไม่มีเงิน เณรแอจึงยื่นข้อเสนอดังกล่าว รวมทั้งพบอาวุธปืนลูกซอง มีดดาบ วิดีโอเทปแอบถ่าย ยาไวอากร้า สื่อลามก และถุงยางอนามัย

เรื่องราวถูกขยายผลจนพบว่า ยังมีเหยื่ออีกหลายราย ที่ถูก เณรแอ ล่วงละเมิดทางเพศ มีการแอบบันทึกวิดีโอขณะมีเพศสัมพันธ์เอาไว้ใช้แบล็กเมล์ 

  ศาลพิพากษาจำคุก "เณรแอ" 100 ปี  
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ จับกุม เณรแอ ดำเนินคดีในข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน" ส่วนเรื่องวิดีโอ ตำรวจตรวจสอบพบว่า มีเจตนาจงใจแอบถ่าย มีทั้งภาพผู้หญิงเปลื้องผ้าและร่วมเพศ หญิงสาวบางรายมีสภาพคล้ายโดนมอมยา

ขณะเดียวกัน ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ก็เดินหน้าอายัดทรัพย์ นายหาญ ซึ่งพบว่ามีทรัพย์สินที่อายัดได้กว่า 30 ล้านบาท 

กระทั่งวันที่ 26 ส.ค.2548 นายหาญ หรือ เณแอ ถูกส่งฟ้องฐานกระทำการหลอกลวงประชาชน ได้ทรัพย์สินผู้เสียหายทั้งหมด 33 คน รวมเป็นเงิน 910,000 บาท ส่วนในคดีข่มขืนนั้น ไม่สามารถนำมาเล่นงานอดีตเณรแอได้ เพราะเข้าข่ายการสมยอม นอกจากนี้ อย. ตรวจสอบน้ำมันพราย ก็ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด

วันที่ 29 ธ.ค.2549 ศาลได้อ่านคำพิพากษา ว่า โจทก์อดีตภรรยาเณรแอ เบิกความว่า ได้แต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยา ระหว่างที่อยู่กินกันได้ติดเชื้อกามโรค ขณะที่ นายหาญ ยอมรับได้ร่วมประเวณีกับลูกค้าหญิงขายบริการ จึงฟ้องหย่าขาดจากกัน

นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหาย 25 คน เข้าเบิกความนำสืบสอดคล้องกันว่า นายหาญ จำเลย เป็นผู้มีเวทมนตร์ไสยศาสตร์ จึงเข้าร่วมพิธีด้วย ระหว่างที่บริกรรมคาถา นายหาญ ได้ล่วงเกินทางเพศ ด้วยการนำน้ำมันทาชโลมลูบบนตัวผู้เสียหาย เมื่อสบโอกาสก็จะกระทำการชำเราผู้เสียหายทันที โดยอ้างว่าเป็นการลง "นะเสพสม"

พยานหลักฐานดังกล่าว รับฟังได้ว่า จำเลย อาศัยโอกาสที่ผู้เสียหายมีความทุกข์ในปัญหาครอบครัวมากระทำการหลอกลวง อ้างว่าเป็นผู้มีความรู้วิชาไสยศาสตร์ช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตได้ จึงเห็นควรให้ลงโทษสถานหนัก 

กระทำผิดหลายกรรมต่างวาระกัน โดยให้เรียงกระทงลงโทษจำคุกทั้งสิ้น กระทงละ 4 ปี รวม 25 กระทง รวมลงโทษจำคุก 100 ปี แต่คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง จึงลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือจำคุก 75 ปี 

ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2) ให้ลงโทษจำคุกจำเลยสูงสุด 20 ปี ตามกำหนดโทษสูงสุด พร้อมกับให้ชดใช้ค่าเสียหาย 

ศาลยังได้ชี้ถึง พฤติกรรมไม่มีอิทธิฤทธิ์ทำเสน่ห์จริงตามที่อวดอ้าง เพราะเคยโดนเมียเอาปืนไล่ยิงต้องเผ่นหนีออกทางหน้าต่างจนขาหัก อีกทั้งฉวยโอกาสล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อบางราย หลังสิ้นคำพิพากษา ส่งตัวขังคุกคลองเปรม

  "เณรแอ" พ้นโทษ ยังเดินสายไสยเวทย์  
เณรแอ หรือ นายหาญ ได้รับอิสรภาพและถูกปล่อยจากเรือนจำบางขวาง เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2558 โดยได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุครบ 5 รอบ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 

ภายหลังพ้นโทษ "เณรแอ" ประกาศว่าจะไม่ยุ่งกับ "มนตร์ดำ" แต่จะขอเดินทางสายขาว โดยได้ให้สัมภาษณ์สื่อฯ ไว้ว่า..

“อยู่ในคุกมันมืด ยิ่งมืด ยิ่งอับ มันยิ่งขลัง แต่ผมไม่เอาแล้วนะเรื่องผิดกฎหมาย จากนี้จะเป็นภาคใหม่ของเณรแอ คือเน้นไปทางพุทธคุณเพียงอย่างเดียว จะตัดขาดสายดำเปลี่ยนมาเดินในสายขาว” 

ในเวลาต่อมา 15 ธันวาคม 2564 เณรแอ ตกเป็นข่าวอีกครั้ง ถูกชาวโซเชียลใน จ.สุรินทร์ วิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด หลังจาก นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ในขณะนั้น ทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด หรือ “พิธีเปิดเมือง” ก่อนจะเปิดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ครั้งที่ 61

ไฮไลท์ ของงานดังกล่าว เป็นพิธีปลุกเสกของบรรดา “หมอผี-ร่างทรง” หรือ “ฤาษีผู้ขมังเวทย์” นำโดย “เณรแอร์” ที่เข้าร่วมพิธี จนสร้างความแปลกใจให้ชาวสุรินทร์อย่างมาก เพราะเกรงว่าการนำบุคคลเหล่านี้ เข้ามาร่วมพิธีเสริมสิริมงคลแก่บ้านเมือง จะเป็นเรื่องไม่เหมาะสม

"เณรแอร์" ออกมาตอบโต้ทันที อัดคลิปผ่านแอปพลิเคชัน TikTok ยืนยันถูกเชิญไปงานทำพิธี ถามกลับ "ผมชั่วร้ายตรงไหน?" พร้อมกลับสอนโซเชียลต้องมองโลก 2 มุม ระบุทำได้ทั้ง "มนต์ดำ-มนต์ขาว" ฝีมือไม่เป็นสองรองใครในประเทศ

เรื่องราวของ "เณรแอ" กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกรอบในปี 2566 คงต้องรอดูว่า สุดท้ายแล้ว จะถูก "นารีพิฆาต" อีกหรือไม่??