
จากเหตุการณ์สุดสลด สะเทือนใจ เยาวชนก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงกลางห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยในโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปจากกล้องวงจรปิด นาทีชีวิตที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเจรจากับผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเพียง 2 ราย และตัดสินใจเข้าไปหาคนร้าย แม้ไม่มีชุดป้องกัน ทั้งที่คนร้ายมีอาวุธปืนในมือ
เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวมือปืนรายนี้ได้ที่ บริเวณชั้น 3 พร้อมกับอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ กล็อก19 ที่ใช้ก่อเหตุ โดยในระหว่างการเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ได้บอกให้มือปืนวางอาวุธ พร้อมกับยกมือและคุกเข่าลง จากนั้นเจ้าหน้าที่ 2 นาย ได้เข้าไปล็อกตัว ส่วนอีกนายได้เข้าเคลียร์พื้นที่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ที่เข้าควบคุมผู้ก่อเหตุ คือ สิบตำรวจโท กร ศรีพรหม และ สิบตำรวจโท นันทนัช สุธรรม ผู้บังคับหมู่ สน.สำราญราษฎร์ ซึ่งทั้ง 2 นายเป็นคู่บัดดี้ที่คอยสนับสนุนผู้จับกุมและเข้าเคลียร์พื้นที่
ร.ต.อ.ธัญอมร หนูนารถ รอง สวป.สน.ปทุมวัน เปิดใจเล่าถึงวินาทีสุดระทึก ในการเข้าระงับเหตุ เยาวชนอายุเพียง 14 ปี กราดยิงในห้างสยามพารากอนเมื่อวานนี้ ระบุว่า
ด้วยความรู้สึกตนเองมองว่า พื้นที่ที่อยู่เป็นแหล่งชุมชนผู้คนพลุกพล่านจึงคาดว่า อาจจะมีการก่อเหตุได้ จึงคิดไว้ตลอดในการเตรียมการฝึกต่างๆและเตรียมพร้อมอุปกรณ์ไว้ให้พร้อม
ซึ่งตนเองผ่านการฝึกหลักสูตร Active Shooter การมาปีสองปีแล้วตั้งแต่เกิดเหตุกราดยิงใหญ่ๆ โดยเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ที่ได้เน้นย้ำมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เป็นรองผบ.ตร.
สถานการณ์สุดระทึกเมื่อวานนี้ ถือว่ามีความกดดันตนมากๆ ทีเดียว เพราะเป็นการเข้าไปในพื้นที่โล่ง และเป็นห้างสรรพสินค้า เมื่อเข้าไปมองดูไม่รู้ว่าหลบอยู่ตรงไหน แต่พยายามปฏิบัติตามขั้นตอนยุทธวิธี ซึ่งสถานการณ์จริงแตกต่างจากการฝึก เพราะตอนฝึก ฝึกในพื้นที่แคบ เล็กๆ แต่เมื่อมาเจอสถานการณ์จริง เป็นพื้นที่ใหญ่ การจะเคลียร์พื้นที่ยาก และเมื่อเข้าไปในห้างไม่รู้คนร้ายอยู่ตรงไหน กลัวว่าคนร้ายอาจจะยิงมาจากทางไหน แต่จากการฝึกฝน ใรนาทีนั้น ต้องหยุดคนร้ายในให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันการบาดเจ็บล้มตายที่อาจจะเพิ่มขึ้นได้อีก
ส่วนเหตุผลที่ใช้การเจรจา เพราะจากข้อมูลพบว่าเป็นเด็ก เป็นเยาวชน จึงไม่ต้องการใช้ความรุนแรง และเมื่อเจอตัวต้องใช้ยุทธวิธีในการหยุดยั้ง ทั้งนี้ การเจรจาแม้จะไม่ได้ฝึกอยู่ในหลักสูตรนี้แต่ประสบการณ์ทำงาน และหลักสูตรอื่นที่ตนเองเคยฝึก ก็ทำให้สามารถใช้ยุทธวิธีในการใช้มาตรการจากน้อยไปหามากก่อนจะใช้กำลัง
เมื่อเจอตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ในขณะนั้นพบว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้สายโทรศัพท์พูดคุยอยู่กับตำรวจ 191 เพื่อเจรจาให้วางอาวุธ ตอนนั้นผู้ก่อเหตุพูดว่า ไม่ได้แล้วคนถือปืนอยู่เยอะมาก ถ้าเขาไม่สู้เขาต้องตาย ดังนั้นเขาจะสู้ ทำให้ตนเองประเมินสถานการณ์ตอนนั้นก่อนเข้าระงับเหตุ ด้วยการอ่านเกม วัดศักยภาพ โดยตำรวจได้แสดงอาวุธว่า ห้ามสู้ ถ้าสู้ไม่มีวันชนะ และคาดว่าคนร้ายคงใช้ความคิดเลยปล่อยอาวุธทิ้ง
จุดที่ผู้ก่อเหตุยืนอยู่คืออยู่ห้องพื้นที่ด้านในสุด ตำรวจจึงให้กลับหลังหัน เอามือไว้บนหัว และแจ้งให้เขาคุกเข่าลง จากนั้นก็แบ่งหน้าที่คนไหนเข้าประกบตัวประกัน โคฟเวอร์ ตรวจค้นหาผู้ก่อเหตุรายอื่น และตรวจค้นหาผู้ได้รับบาดเจ็บอื่น
ร.ต.อ.ธัญอมร เล่าต่ออีกว่า
ที่เข้าไปยังบริเวณชั้น 3 เพราะตนเองจำได้ว่า เริ่มเคลียร์พื้นที่ชั้น 3 ที่แยกกับกำลัง และตนเองมาจับสัญญานการแจ้งพิกัดบริเวณโซนเซาว์ ร้านเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งตอนนั้นมีตำรวจเข้ามาสมบทอีก 2 นาย เลยให้เข้าโคฟเวอร์ประกอบกำลัง และเคลียร์พื้นที่ในแต่ห้องไป
โดยในขณะเข้าจับกุม หลังจากที่ได้เจรจา และคนร้ายยอมนั้น ตนเองทำหน้าที่ในการโคฟเวอร์ ส่วนอีกนายได้ใช้เครื่องพันธนาการเข้าคุมตัว ขณะนั้นคนร้ายไม่รับรู้และตอบรับอะไร ท่าทีนิ่งเฉย ครุ่นคิด ลักษณะเหมือนยอมจำนน และไม่ได้มีอาการต่อต้าน ซึ่งขณะนั้น ผู้ก่อเหตุมีสติดี แต่ไม่ค่อยพูด
ในมุมมองส่วนตัวเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุถนัดในการใช้อาวุธ เพราะมีการใช้เข็มขัดเส้นนอกมารัด ขณะที่อยู่หน้างานทางเจ้าหน้าที่ได้ประเมินแล้วว่า "พร้อมสู้" และ "ต้องมีความชำนาญ" เพราะไม่ใช่เรื่องง่าย ในการจะยิงคนสักคนได้ จะต้องมีจิตใจและมีความสามารถพอสมควร
ร.ต.อ.ธัญอมร เผยอีกว่า
ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่มุ่งหวังว่า ต้องปฏิบัติสำเร็จและมุ่งมั่นว่าต้องช่วยเหลือคนหยุดฆ่า หยุดยิงให้ได้ ไม่ได้มีอาการประหม่าหรือกลัวเพราะถูกฝึกมาแบบนี้ และตนเองรู้สึกภูมิใจที่สามารถยุติสถานการณ์ได้โดยไม่มีความสูญเสียเพิ่มขึ้น ตนเองและทีมงานไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ สายตรวจ สน.ปทุมวัน ถือว่าทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ
ร.ต.อ.ธัญอมร เป็นนายตำรวจมาแล้ว 30 ปี ผ่านการอบรมหลักสูตร Active Shooter Basic เมื่อเดือนกันยายนปี 2021 และได้รับใบประกาศรับรองการฝึกอบรม รวมถึงยังได้เป็นหัวหน้าชุดในการฝึกอบรมให้สถาบันการศึกษา และศูนย์การค้าในพื้นที่ย่านปทุมวันด้วย
อีกความเคลื่อนไหวล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุไว้ว่า
"ชื่นชม ส.ต.ต.กร ศรีพรหม ผบ.หมู่.ป.สน.สำราญราษฎร์ ส.ต.ต.นันทนัช สุธรรม ผบ.หมู่.ป.สน.สำราญราษฎร์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุไม่รอช้าบุกเข้าจับกุมคนร้ายกราดยิงภายในห้างพารากอนทันที นอกจากนี้ยังต้องชื่นชมทางห้างพารากอน ที่สามารถช่วยเหลืออพยพประชาชนออกจากพื้นที่ได้รวดเร็วเมื่อเกิดเหตุ ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต"