“ไชยา” รมช.เกษตรฯ พร้อมลุยงาน เตรียมยกระดับหน่วยงานดูแลเกษตรกรไทย

3 กันยายน 2566 นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าในฐานะ รมช.เกษตรฯ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ว่า จะให้ตนกำกับดูแลกรมไหน และยังไม่ได้มีการแบ่งงาน กันอย่างเป็นทางการ 

แต่อย่างไรตาม ตนพร้อมทำหน้าที่ทันที เพราะปัญหาเกษตรกรขณะนี้ มีมากมาย ไม่ว่า ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ภัยแล้ง โรคระบาด ที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน

อีกทั้งพรรคเพื่อไทย จะเร่งขับเคลื่อน นโยบายพักหนี้เกษตรกร โดยจะพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยทันที เพื่อลดภาระในการทำมาหากินของเกษตรกร โดยจะทำควบคู่ไปกับ การสร้างรายได้ให้พี่น้องเกษตรกร เพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปี ด้วยหลักตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ด้วยการสร้างทางเลือกให้เกษตรกร เพื่อผลิตสิ่งที่ตลาดต้องการ เปิดตลาดใหม่เพิ่มโอกาส ในการส่งออกสินค้า ให้เกษตรกรใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ 

 

เบื้องต้นเตรียมปรึกษา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรื่องการทำงานคู่ขนาน ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ ธกส. เรื่องการพักชำระหนี้ กับเสริมสร้างองค์ความรู้ สู่เกษตรกรอีกด้วย
 

ธ.ก.ส. ควรเป็นมากกว่าธนาคาร ไม่ใช่เป็นธนาคาร ที่ปล่อยกู้อย่างเดียว แล้วก็ไปตามเก็บหนี้ ตนอยากเห็น ธ.ก.ส. เป็นธนาคารที่สร้างงาน สร้างอาชีพให้กับเกษตรกรครบวงจร

นายไชยา ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตนมีแนวคิด พัฒนาความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร โดยแนวทาง “เอาน้ำไว้ในนา เอาป่าไว้ในบ้าน” คือ เกษตรกรต้องมีน้ำไว้ทำการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นน้ำบนดิน หรือน้ำใต้ดิน  ภาวะน้ำแล้งต้องหมดไป การชลประทานต้องดีขึ้น

ส่วนการเอาป่าไว้ในบ้าน ตนอยากส่งเสริม การปลูกพืชเศรษฐกิจ หรือพืชพลังงาน วันนี้มีการส่งเสริมพืช ที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน เป็นพืชเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นยางนา หรือไม้ต่าง ๆ ที่มีมูลค่า มีความต้องการของตลาด 

นายไชยา ย้ำว่า ส่วนเรื่องการแบ่งกรมกันดูแล ตนอยากเสนอให้มีการแบ่งหน่วยงาน ที่มีความเชื่อมโยงกัน อาทิ กรมปศุสัตว์ กับ กรมเสริมสหกรณ์ และ กรมวิชาการเกษตร กับ กรมการข้าว กรมเหล่านี้จะเป็น กรมคู่ขนาน สามารถทำงานสอดรับกับนโยบายต่าง ๆ ได้  

ซึ่งหากตนได้ดูแล จะยกระดับการทำงาน ในหน่วยงานที่ดูแล เช่น เรื่องของปศุสัตว์ วันนี้ความขาดแคลน และการป้องกันโรค ไม่ว่าจะเป็น โค สุกร วันนี้ก็ต้องหาวิธีการในการป้องกัน เพื่อที่จะให้มีความเพียงพอ กับการบริโภคและการส่งออก 

เรื่องข้าว มีกรมการข้าว วันนี้เราเจอประเทศคู่แข่ง ที่พัฒนาสายพันธุ์ข้าว ที่มีการทนน้ำ ทนแล้ง เป็นคู่แข่งในตลาดข้าวของเราแล้ว ตนจึงอยากจะเห็นงานวิชาการ การพัฒนาพันธุ์ข้าว เพื่อที่จะหาข้าวใหม่ ๆ สามารถที่จะแข่งขันได้ และนำไปปลูก เพื่อทนกับสภาวะอากาศ ที่เกิดความเปลี่ยนแปลง จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับเกษตรกร และถ้าทำสำเร็จ และถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลอีกด้วย