เจออีกร้าน! ได้โนติสอ้างเลียนแบบถ้วยปังชา เผย ซื้อมาจากจตุจักร 10 ปีก่อน
ร้าน "ตั้งใจชง" หาดใหญ่ เผย ได้รับโนติสจากร้านดัง อ้างละเมิดสิทธิบัตรถ้วยไอศกรีม หากไม่หยุดใช้จะเรียกค่าเสียหาย 2 ล้านบาท ทั้งที่ซื้อถ้วยมาจากจตุจักร นานกว่า 10 ปี ตอนนี้เลิกใช้เพราะไม่อยากมีปัญหา
ความคืบหน้าร้านดังส่งโนติสถึงเจ้าของร้านชา 2 เจ้า ใน จ.เชียงราย และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อขอให้ยุติการละเมิดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า "ปังชา" พร้อมกับเรียกค่าเสียหายเป็นเงินมหาศาล จนกลายเป็นกระแสทัวร์ลงทั้งในโลกออนไลน์ และเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
1 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีอีก 1 ราย ที่ได้รับโนติสจากร้านดังกล่าว โดยเป็นเจ้าของร้าน "Tang Jai Chong-ตั้งใจชง" ตั้งอยู่บริเวณ ถ.จิระนคร เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยวันนี้เจ้าของร้านเพิ่งเดินทางไปกรุงเทพฯ หลังได้รับเชิญไปออกรายการดัง
สอบถามพนักงาน ทราบว่า ร้านนี้เปิดมาประมาณ 6 ปี หยุดขายช่วงโควิด ก่อนจะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 โดยร้านขาย ชา กาแฟ เบเกอร์รี่ ของหวาน นำแข็งไสต่าง ๆ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 เมษายน ทางร้านได้รับโนติสจากสำนักงานทนายความเจ้าของแบรนด์ "ปังชา" เอกสารลงวันที่ 28 เมษายน 2566
ให้ทางร้านยุติการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสิทธิบัตรของผู้อื่น พร้อมกับอ้างถึงสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ และรูปถ่ายผลิตภัณฑ์ถ้วยไอศกรีม หากไม่ทำตามจะมีการเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 2 ล้านบาท และดำเนินคดีตามกฎหมายเจ้าของร้าน
หลังได้รับจดหมายทางร้านก็ตกใจมาก และหยุดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นถ้วยไอศกรีมลักษณะคล้ายกับที่ทางเจ้าของแบรนด์ "ปังชา" ส่งมาอ้างถึงการเป็นเจ้าของสิทธิบัตรในตัวผลิตภัณฑ์ทันที เนื่องจากไม่แน่ใจว่า จะผิดกฎหมายหรือไม่ และไม่อยากมีปัญหาตามมาภายหลัง
สำหรับถ้วยไอศกรีมของทางร้านที่ถูกกล่าวถึงนั้น จะใช้สำหรับใส่ของหวานเมนูปังเย็นชาไทย ปังเย็นโกโก้ ปังเย็นชาเขียว และเมนูปังหนาว มีลักษณะคล้ายคลึงกันจริง แต่มีจุดแตกต่างกันที่ของทางร้านจะเป็นถ้วยแบบ 3 แฉก แต่ของแบรนด์ปังชาเป็นถ้วย 4 แฉก รวมทั้งที่ขาถ้วยก็แตกต่างกัน โดยของทางร้านขาถ้วยหุบเข้าด้านใน แต่ของแบรนด์ปังขาถ้วยจะผายออกนอก
ถ้วยแบบนี้เจ้าของร้านซื้อมาจากตลาดนัดจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อราว 10 ปีก่อน ซื้อมาราว 1 โหล และปัจจุบันได้หยุดใช้ไปแล้ว เพราะกลัวว่าจะมีปัญหากับเจ้าของแบรนด์ปังชา
เจ้าของร้าน ระบุว่า หลังได้รับโนติสก็ไม่รู้ว่าร้านของตนทำผิดกฎหมายหมายอะไรหรือไม่ แต่ได้หยุดใช้ถ้วยที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันไปก่อนแล้ว จึงอยากให้ทางภาครัฐ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายออกมาให้ความกระจ่างเรื่องนี้ด้วย เพื่อที่ทางร้านและผู้ประกอบการคนอื่น ๆ ได้มีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน และสามารถประกอบอาชีพต่อไปได้อย่างสบายใจ
