svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เปิดความรู้ ดรามาลิขสิทธิ์"ปังชา" ขอบเขตแค่ไหน อะไรทำได้ อันไหนเข้าข่ายผิด

เปิดความรู้ ปมร้อน ดรามาลิขสิทธิ์"ปังชา" หลังเจ้าของร้านดัง ส่งทนายยื่นโนติสเรียกค่าเสียหายนับร้อยล้าน ขอบเขตลิขสิทธิ์กว้างแค่ไหน อะไรทำได้ อะไรเข้าข่ายละเมิด

31 สิงหาคม 2566 จากกรณีดรามาร้อน "ปังชา" ร้านดังในกรุงเทพฯ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ทางร้านได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "ปังชา" เอาไว้ พร้อมสงวนสิทธิ์ห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข และสงวนสิทธิ์ห้ามนำชื่อแบรนด์ "ปังชา" และ "Pang Cha" ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ไปใช้เป็นชื่อร้าน หรือใช้เป็นชื่อสินค้า เพื่อจำหน่าย หรือส่งเสริมการขาย

ต่อมา ทนายความของร้านยังส่งหนังสือโนติสเกี่ยวกับการละเมิดเครื่องหมายการค้า และเรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท กับร้านขนมหวานที่พบว่ามีการใช้ชื่อ "ปังชา" ใน จ.เชียงราย และล่าสุดพบร้านชาที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับหนังสือโนติสเรียกค่าเสียหายจากการใช้คำว่า "ปังชา" ที่ป้ายไฟของร้าน และมีการเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 7 แสนบาท ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

เปิดความรู้ ดรามาลิขสิทธิ์"ปังชา" ขอบเขตแค่ไหน อะไรทำได้ อันไหนเข้าข่ายผิด

ล่าสุด ดร.พีรภัทร ฝอยทอง ทนายความและนักวางแผนการเงินส่วนบุคคล โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก "Dr. Pete Peerapat" อธิบายรายละเอียดในปมดรามา "ปังชา" ในหัวข้อ "ร้านไม่ได้สละคำว่า #ปังชา จริงหรือ ?" มีรายละเอียดดังนี้..

เห็นโพสต์ที่พี่ หมายจับกับบรรจง โทรศัพท์ไปสัมภาษณ์ทนายเมื่อวานแล้วบอกว่า ทะเบียนเครื่องหมายการค้าตัวใหม่นั้น ร้านไม่ได้สละคำว่า “ปังชา”

รวมถึงร้านสามารถพิสูจน์ได้ว่าปังชานี้เขาใช้จนกรมยอมรับแล้ว เหมือนกับ โออิชิ และ กระทิงแดง
มาลองตรวจสอบข้อมูลกันครับ

ลองดูทะเบียนเครื่องหมายการค้า ที่ทางร้านโพสต์ไว้ ซึ่งดูแล้วตรงกับเลขที่สำนักงานทนายส่งถึงร้านที่เชียงราย (ทะเบียนเลขที่ 231112742)
คำหรือข้อความที่จดเป็นเครื่องหมาย มีเพียง The Best Thai Tea ;G ;Pang Cha
ไม่มีคำว่า #ปังชา (ภาษาไทย)
แปลว่า คำว่า “ปังชา” ใคร ๆ ก็ยังใช้ได้นะครับ ที่ออกหนังสือ Notice ไปนั้นไม่ถูกต้อง ❌
เปิดความรู้ ดรามาลิขสิทธิ์"ปังชา" ขอบเขตแค่ไหน อะไรทำได้ อันไหนเข้าข่ายผิด

ส่วน “Pang Cha” ภาษาอังกฤษ สิ่งที่กรมให้ คือ ภาพวงรีสีดำด้านล่าง แล้วมีคำว่า Pang Cha อยู่ด้านใน
เวลาการใช้เครื่องหมายการค้า/บริการ คุณต้องใช้อย่างเครื่องหมาย คือใช้ทั้งภาพ จะดึงคำออกมา แล้วบอกว่า “Pang Cha” (ภาษาอังกฤษ) เป็นคำที่ร้านคุณใช้ได้คนเดียวนั้น ไม่ถูกต้อง ❌

สรุปคำว่า “ปังชา” หรือ “Pang Cha” คนอื่นยังใช้ได้ สิ่งที่หัามคือ การใช้เครื่องหมายแล้วมีคำว่า Pang Cha แบบในรูปของคุณ

ส่วนเรื่องการอ้างแบรนด์ โออิชิ หรือ กระทิงแดง ว่าเป็นคำสามัญ ก็จดได้เช่นกันนั้น ก็คนละเรื่องอีกครับ
สองแบรนด์นั้นที่จดได้ เพราะ เป็นการ #ใช้อย่างเครื่องหมาย จนเป็นที่แพร่หลาย ใคร ๆ ก็รู้จัก (Well known marks) 

ส่วนคำว่า ปังชา หรือ Pang Cha เป็นเพียง เมนู หรือ รายการขนมหวานเท่านั้น
คนไม่ได้รู้จักในตัวของเครื่องหมาย หรือ โลโก้แบรนด์ ปังชา หรือ Pang Cha เลย

สรุป สิ่งที่ร้านคุณจดทะเบียน คือ เครื่องหมายการค้า/บริการ ตามรูป เวลาจะใช้ ก็ใช้ตามรูปเท่านั้น
ส่วนคำว่า “ปังชา” จะภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษ “Pang Cha” ไม่ใช่ของร้านคุณแต่เพียงผู้เดียว ใครจะเขียนเมนูในร้านว่า ปังชา หรือ ตั้งชื่อร้านว่าปังชา ก็ไม่ได้ละเมิดเครื่องหมายการค้าคุณแต่อย่างใดครับ 😇
เปิดความรู้ ดรามาลิขสิทธิ์"ปังชา" ขอบเขตแค่ไหน อะไรทำได้ อันไหนเข้าข่ายผิด
ภายหลังจากโพสตฺ์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ได้มีคนเข้ามาแสดงความเห็นเห็นอย่างกล้าวขวาง รวมทั้งเข้ามาสอบถามปัญหาต่างๆ อาทิเช่น

  • อย่างนี้เราฟ้องกลับได้ไหมครับ
  • แล้วไม่มีสิทธิ์ยื่นภาษาไทยด้วยค่ะ ถ้ายื่น ภาษาอังกฤษ ไม่ติด
  • แค่แผนการตลาด ทึ่ต้องการสร้างชื่อให้คนทั่วไปรู้จัก แต่ไม่ได้นึกถึงผลทางด้านลบ ที่จะตามมา
  • นี่อ่าน3รอบก็เข้าใจตามนี้ ทำไมทนายกล้าส่งโนติส งงในงงในงง..🥴 ไล่ไปเรียนทนายใหม่หรือต้องเรียนภาษาไทยใหม่ ยังไงดี
  • แบบนี้ร้านค้าที่ถูกฟ้องสามารถฟ้องกลับได้ไหมครับ
  • โออิชิเขาไม่ได้ห้ามใครทำชาเขียวใส่ขวดแข่ง มีกันเต็มตลาดไปหมด แต่แค่ห้ามใครใช้โลโก้กับยี่ห้อโออิชิแค่นั้น กระทิงแดงก็ไม่ได้ห้ามใครทำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังแข่ง ก็มีกันเต็มตลาดไปหมด แต่ห้ามคนใช้ชื่อกระทิงแดงแข่งแค่นั้น แต่ปังชามันเป็นทั้งชื่อสินค้าและยี่ห้อ คุณจะบอกว่าห้ามคนอื่นทำสินค้าชื่อปังชามาแข่งมันไม่ได้ ตกลงทนายงง เจ้าของร้านงง หรืองงทั้งคู่ หรือยังไง

เปิดความรู้ ดรามาลิขสิทธิ์"ปังชา" ขอบเขตแค่ไหน อะไรทำได้ อันไหนเข้าข่ายผิด
เปิดความรู้ ดรามาลิขสิทธิ์"ปังชา" ขอบเขตแค่ไหน อะไรทำได้ อันไหนเข้าข่ายผิด
เปิดความรู้ ดรามาลิขสิทธิ์"ปังชา" ขอบเขตแค่ไหน อะไรทำได้ อันไหนเข้าข่ายผิด
ที่มา : เพจเฟซบุ๊ก "Dr. Pete Peerapat"