ล่าสุด หลักสูตร "การพัฒนาทักษะในการดำเนินคดีและการว่าความในคดีฟอกเงิน รุ่นที่ 1" หรือ "กลุ่มนกเค้าแมว" จัดขึ้นโดยสำนักงานอัยการสูงสุด สถาบันฝึกอบรมการว่าความชั้นสูง และสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ
ประกอบด้วยข้าราชการจากหลากหลายหน่วยงาน ทั้งอัยการ และ ปปง. ได้ช่วยกันออกมาเตือนภัยประชาชนคนไทยให้ตระหนักรู้ถึงภัยจากมิจฉาชีพในโลกออนไลน์
จุดเด่นของหลักสูตรคือ มีคนดัง คนมีชื่อเสียงจากวงการต่าง ๆ ที่ทุกคนรู้จัก มาช่วยกันพูดเตือนสติ แนะนำ ไม่ว่าจะเป็น "ท็อป Bitkub" "ตำรวจไซเบอร์" "โฆษกอัยการ" รวมไปถึง "เป้ อารักษ์" ดารานักแสดงชื่อดัง
สิ่งที่จะช่วยประชาชน มี 2 ส่วน คือ ส่วนแรก "ป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ" ด้วยคาถาง่าย ๆ "หลอกยังไง...ก็ไม่โอน ไม่เข้าแอป...ก็จะไม่สูญเงิน" หรือ ก่อนที่เราจะลงทุนในสินทรัพย์ ควรศึกษาข้อมูล ความรู้ ให้ดีเสียก่อนเพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว รวมไปถึงสินทรัพย์ดิจิทัล ควรมีความรู้ระดับพื้นฐานว่า พลับบลิกคีย์ คืออะไร ไพรเวทคีย์ คืออะไร รวมไปถึงอย่าไปคลิกลิ้งค์ปลอมแบบมั่ว ๆ ที่สำคัญหากจะซื้อขายกับผู้ประกอบการ ต้องตรวจสอบใบอนุญาตว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ก่อนทุกครั้ง
ส่วนที่สอง เมื่อเป็นเหยื่อไปแล้ว "ต้องทำอย่างไร โทรหาใคร เบอร์ไหนบ้าง" เพื่อสกัดไม่ให้สูญเงินที่โอนผ่านบัญชีม้าเป็นทอด ๆ เหยื่อสามารถแจ้งความออนไลน์ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทันที วันนี้สถาบันการเงินจริงจังกันมากขึ้น เพราะศาลฎีกาพิพากษาว่า "ธนาคาร" ต้องมีมาตรการมากกว่านี้
ถือเป็นความเคลื่อนไหวในทางที่ดี เพื่อสกัด "หลอกลวงออนไลน์" กล่าวว่าหากใครโดนหลอกลวงต้องรีบติดต่อธนาคารเพื่อทำการอายัดบัญชีทันที ขั้นตอนต่อไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์เพื่อเป็นหลักฐานป้องกันตนเอง (สามารถแจ้งความออนไลน์ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทันที)
ในส่วนการเยียวยา ผู้เสียหายปปง.จะช่วยติดตามทรัพย์สินคืนให้ได้มากที่สุด หรือประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อหากมีข้อสงสัยในการเยียวยา สามารถติดต่อไปที่สายด่วนปปง.โทร 1710
หลักสูตร "กลุ่มนกเค้าแมว" มีผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย ข้าราชการอัยการ ระดับชั้น 2 ถึงชั้น 5 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสำงานคดีเกี่ยวกับความผิดมูลฐานและการฟอกเงิน จำนวน 55 คน , ข้าราชการ สำนักงาน ปปง. ระดับผู้อำนวยการขึ้นไป จำนวน 5 คน , ข้าราชการตำรวจระดับตั้งแต่ พันตำรวจเอก ขึ้นไป
รวมถึงข้าราชการ จากกรมสอบสวนคดีพิเศษตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนขึ้นไป และข้าราชการจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่อัยการสูงสุดเห็นชอบให้เข้าร่วมอบรมจำนวน 10 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 120 คน
วัตถุประสงค์มุ่งเน้นสร้างความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และองค์ความรู้ต่าง ๆ เพิ่มทักษะและความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงาน และเพื่อให้การปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น