
กรมอุตุนิยมวิทยา เผยรายงาน พยากรณ์อากาศ ในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 เตือนให้เฝ้าระวัง ‘พายุหมุนเขตร้อน’ เคลื่อนตัวบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาไว้ด้วย
สำหรับพยากรณ์อากาศเดือนสิงหาคม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่า
ประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่นเพิ่มขึ้นอีก โดยส่วนใหญ่จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60–80
ของพื้นที่ กับจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง ซึ่งก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งในบางแห่ง
สำหรับคลื่นลมทั้งบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยจะมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร เนื่องจาก มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยยังคงมีกำลังแรงเป็นระยะ ๆ และต่อเนื่อง ประกอบกับในบางช่วงจะมีร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นอกจากนี้จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวบริเวณทะเลจีนใต้ แล้วมีโอกาสสูงที่จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้หรือเคลื่อนผ่านประเทศไทยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
สรุปเดือนนี้ คาดว่า
ปริมาณฝนรวมส่วนใหญ่จะน้อยกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ 5 – 10
เว้นแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะใกล้เคียงค่าปกติ
ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยจะสูงกว่าค่าปกติเล็กน้อย
โดยสรุปในเดือน ก.ค. 2566 นี้ คาดการณ์ว่า
ปริมาณฝนรวมส่วนใหญ่จะน้อยกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ 5 – 10 เว้นแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะใกล้เคียงค่าปกติ ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยจะสูงกว่าค่าปกติเล็กน้อย
เกาะติดรายงานสภาพอากาศ 7 วัน ข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 4 - 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2566
การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 4 – 5 ก.ค. 2566 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทยตอนบน และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยตอนบน ทำให้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร โดยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 6 - 10 ก.ค. 2566 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
ข้อควรระวัง
เดือนนี้ (สิงหาคม 2566) มักจะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาไว้ด้วย
ออกประกาศ 01 สิงหาคม 2566
เตือนอีสานอ่วม มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ฝนตกหนักบางแห่ง
กรมอุตุฯ เเจ้งเตือน เมื่อ17.00 น. วันนี้ (4 ก.ค. 2566 ) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รับมือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม
ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานี กรุงเทพและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน เมื่อ17.00 น. วันนี้ รายงานพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนภาคใต้มีฝนน้อยในระยะนี้ ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน และประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยตอนบน ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน
สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้
ออกประกาศ 04 กรกฎาคม 2566
เกาะติดพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย
18:00 น. วันนี้ ถึง 18:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง น่าน อุตรดิตถ์ และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม
ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดระนองขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดพังงาลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
เช็กที่นี่ >> พื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย
กราฟิกแสดงพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย
ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานปริมาณฝนสะสมปี 2566 ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566 - 2 กรกฎาคม 2566 คาดหมายปริมาณฝนเดือนกรกฎาคม 2566
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานปริมาณฝนสะสมปี 2566 ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566 - 2 กรกฎาคม 2566
ปริมาณฝนทั่วประเทศต่ำกว่าค่าปกติ การคาดหมายปริมาณฝนเดือนกรกฎาคม 2566
พื้นที่ส่วนใหญ่จะมีปริมาณฝนรวม "ต่ำกว่า" ค่าปกติ
ยกเว้น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีปริมาณฝนรวม "ใกล้เคียง" ค่าปกติ
คาดหมายอากาศทั่วไปเดือนกรกฎาคม 2566
คาดหมายอากาศทั่วไปเดือนกรกฎาคม 2566 ประมาณครึ่งแรกของเดือน ปริมาณและการกระจายของฝนบริเวณประเทศไทยยังคงมีน้อย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยยังคงมีกำลังอ่อน
จากนั้น ปริมาณและการกระจายของฝนจะกลับมาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก กับจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง
ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะกลับมามีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในบางช่วงจะมีร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณตอนบนของทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สรุปเดือนนี้ คาดว่า ปริมาณฝนรวมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงจะมากกว่าค่าปกติร้อยละ 5 – 10
ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะใกล้เคียงค่าปกติ สำหรับภาคใต้และกรุงเทพฯ จะน้อยกว่าค่าปกติร้อยละ 5 ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยยังคงใกล้เคียงค่าปกติ
ข้อควรระวัง เดือนนี้เดือนนี้ มักจะมีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตก และเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ ซึ่งจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาไว้ด้วย
ข้อมูลจาก: กรมอุตุนิยมวิทยา
ออกประกาศ 04 กรกฎาคม 2566