เตือน รับมืออากาศแปรปรวน ไทยตอนบน ลมกระโชกแรง มีลูกเห็บตกบางแห่ง  

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ ฉบับที่ 10  (56/2566) เตือนสภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน

คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง

สำหรับเกษตรกร ควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย และดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้

 

โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบดังนี้

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 

ภาคเหนือ:     จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา สุโขทัย และตาก 

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 

ภาคเหนือ:     จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์    

ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 17.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 05.00 น.

(ลงชื่อ)    ชมภารี ชมภูรัตน์  

(นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) รายงานข้อมูลคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย ประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 

พื้นที่เฝ้าระวังอากาศหนาวถึงหนาวจัด

ภาคเหนือ จ.เชียงราย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครพนม
ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ทำร่างกายให้อบอุ่นตลอดเวลา และระวังอันตรายจากอัคคีภัยในการก่อไฟให้ความอบอุ่น

พื้นที่เฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง

ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา และตาก
ขอให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง

พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง

ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส
ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง ชาวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง นักท่องเที่ยวควรงดเล่นน้ำทะเล ส่วนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่บริเวณชายทะเล ระมัดระวังผลกระทบจากคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง

พื้นที่เฝ้าระวังคุณภาพอากาศ (PM 2.5)

(ข้อมูลกรมควบคุมมลพิษ เวลา 06.00 น.)

ระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน (อ.ปาย) เชียงราย (อ.แม่สาย เชียงของ) เชียงใหม่ (อ.เมืองฯ ฮอด เชียงดาว แม่แจ่ม) ลำปาง (อ.เมืองฯ แม่เมาะ) ลำพูน (อ.เมืองฯ ลี้) พะเยา (อ.เมืองฯ) และตาก (อ.แม่สอด)

ระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองฯ) เชียงราย (อ.เมืองฯ) น่าน (อ.เมืองฯ เฉลิมพระเกียรติ) แพร่ (อ.เมืองฯ) อุตรดิตถ์ (อ.เมืองฯ) สุโขทัย (อ.เมืองฯ) พิษณุโลก (อ.เมืองฯ) กำแพงเพชร (อ.เมืองฯ) และตาก (อ.เมืองฯ)
ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร (เขตบางขุนเทียน บึงกุ่ม คลองสามวา วังทองหลาง สาทร บางนา สายไหม มีนบุรี ประเวศ คลองสาน บางเขน)

ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางที่โล่งแจ้ง และสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

ปภ. แนะรับมือ...ลดเสี่ยงอันตรายช่วงสภาพอากาศแปรปรวน-ฝนฟ้าคะนอง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะประชาชนรับมือช่วงสภาพอากาศแปรปรวน ติดตามพยากรณ์อากาศ ประกาศเตือนและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งตรวจสอบอาคารบ้านเรือนให้อยู่ในสภาพแข็งแรง จัดเก็บสิ่งของที่ปลิวลมได้ในที่มิดชิด เมื่อเกิดฝนฟ้าคะนองให้หลีกเลี่ยงประกอบกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่สวมใส่เครื่องประดับที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า รวมถึงงดใช้เครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด เพื่อป้องกันอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและฟ้าผ่า

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า

จากการติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 16 – 17 ก.พ. 2566 มีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือของประเทศไทย ทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย มีสภาพอากาศแปรปรวน ในลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่งรวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและความเสียหายต่อทรัพย์สิน เพื่อความปลอดภัย

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะประชาชนเตรียมรับมือและปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยในช่วงที่เกิดฝนฟ้าคะนอง โดยขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนจากหน่วยงานทางราชการ ตรวจสอบอาคารบ้านเรือนให้แข็งแรง โดยเฉพาะประตู หน้าต่าง และหลังคา อีกทั้ง จัดเก็บสิ่งของที่ปลิวลมได้ในที่มิดชิด เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกสิ่งของพัดกระแทก พร้อมสำรวจรอบบ้านให้ปลอดภัยทั้ง เสาไฟฟ้า ต้นไม้ กิ่งไม้ ป้ายโฆษณาต่างๆ เพื่อป้องกันการล้มทับหรืออันตรายจากแรงลม หากพบความเสี่ยงควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงแก้ไขให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย

ในช่วงที่เกิดฝนฟ้าคะนอง ไม่ควรอยู่บริเวณระเบียงหรือดาดฟ้าหรือกลางแจ้ง อยู่ให้ห่างจากสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรงหรือเสี่ยงต่อการแตกหัก เช่น ประตู หน้าต่าง หลังคา กระจก รวมทั้งไม่ประกอบกิจกรรมต่างๆ กลางแจ้ง หลีกเลี่ยงการพกพาและสวมใส่เครื่องประดับที่เป็นสื่อนำไฟ เช่น เงิน ทอง นาก ทองแดง และงดใช้เครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดเพราะจะเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้า เพื่อป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรขอให้ดูแลพืชผลทางการเกษตร โดยจัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบังปกคลุมผลผลิตทางการเกษตร ส่วนประชาชนที่อยู่ริมชายฝั่งทะเล ควรงดกิจกรรมทางทะเลในช่วงนี้

ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุบัติภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID 1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง 

ขอขอบคุณที่มา : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM

ขอขอบคุณที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา 

 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 18:00 น. วันนี้ ถึง 18:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

• อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ 
• โดยมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน 
• เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา สุโขทัย และตาก
• อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส 
• บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-14 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

• อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิต่ำสุด 13-20 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
• บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส 
• ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง

• อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ 
• ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี และราชบุรี 
• โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส 
• ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก

• อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง 
• โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
• ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ 
• ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
• อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
• ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
• ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
• ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
• ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ 
• ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
• อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส 
• ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
• ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

• อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง 
• โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส 
• ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 

ตรวจสอบสภาพอากาศ 7 วันข้างหน้า >> คลิกที่นี่