svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ประกาศกรมอุตุฯ ฉ.7 เตือน ภาคใต้ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

22 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ประกาศกรมอุตุฯ ฉบับที่ 7 เตือน 8 จังหวัดภาคใต้ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ส่วนพยากรณ์อากาศวันนี้ ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศา

22 มกราคม 2566 นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ลงนามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 7(28/2566) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 22 - 25 มกราคม 2566 ระบุว่า

ในช่วงวันที่ 22-25 มกราคม 2566 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้

วันที่ 22 มกราคม 2566

ภาคใต้:

             จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล

ช่วงวันที่ 23 - 25 มกราคม 2566

ภาคใต้:              

             จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าว

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 17.00 น.

ประกาศกรมอุตุฯ

สำหลับ ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่าง และภาคใต้ ยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็น ที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ลมตะวันตกในระดับบนยังคงปกคลุมภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นในตอนเช้า

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งในระยะนี้

พยากรณ์อากาศ สำหรับประเทศไทย  06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

กรุงเทพและปริมณฑล

  • อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคเหนือ

  • อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า
  • อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
  • บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง
  • อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออก ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
  • บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

  • อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

  • อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

  • อากาศเย็นในตอนเช้า ทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
  • บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
  • อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส
  • ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
  • ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่
  • บริเวณจังหวัดพังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
  • อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสุง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศวันนี้ 22 ม.ค.2566

 

 

logoline