svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เตือนภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก-ฝนตกสะสม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน 

06 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เตือนภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน ฉบับที่ 6 (6/2566) เรื่อง ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 6-8 มกราคม นี้  
                                              
ตรวจสอบสภาพอากาศ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างเริ่มอ่อนกำลังลง แต่ยังคงมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ปลายแหลมญวณ ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส  สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

 

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 17.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 05.00 น.         
(ลงชื่อ)    ชมภารี ชมภูรัตน์                  
(นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์)
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

เตือนภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก-ฝนตกสะสม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน 

ตรวจสอบสภาพอากาศ 7 วันข้างหน้า คลิกที่นี่ 

เตือนภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก-ฝนตกสะสม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน 

เตือนภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก-ฝนตกสะสม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน 

ตรวจสอบสภาพอากาศ คลิกที่นี่ 

เตือนภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก-ฝนตกสะสม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน 

คาดหมายอากาศทั่วไป
ระหว่างวันที่ 6 – 12 มกราคม พ.ศ. 2566

ในช่วงวันที่ 6 - 8 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะบอร์เนียวจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ปลายบริเวณแหลมญวณ ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวและมีฝนเล็กน้อยบางแห่งเกิดขึ้นได้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

เตือนภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก-ฝนตกสะสม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน 

ข้อควรระวัง : ในช่วงวันที่ 6 – 8 ม.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกให้ระวังคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 9 – 12 ม.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงรวมถึงระวังอันตรายการสัญจร ในบริเวณที่มีหมอก
ออกประกาศ 06 มกราคม 2566 11:00 น.

คาดหมายอากาศรายภาค
ระหว่างวันที่ 6 – 12 มกราคม พ.ศ. 2566

ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 7 – 8 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 10 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 30 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 3 – 11 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ในช่วงวันที่ 10 – 11 ม.ค. 66
อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4 – 12 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 7 – 8 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 30 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8 – 12 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 ม.ค. 66 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 - 4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 10 – 14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 7 – 8 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง จะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 28 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 ม.ค. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 2 องศาเซลเซียส กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.


ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 7 – 8 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 28 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 ม.ค. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 2 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 31 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 7 – 8 ม.ค. 66 ตอนบนของภาคอากาศเย็นในตอนเช้า
ส่วนทางตอนล่างของภาค มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 31 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 ม.ค. 66 ตอนบนของภาคอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 7 – 8 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 33 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร

กรุงเทพฯและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 7 - 8 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 20– 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 – 29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 ม.ค. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 2 องศาเซลเซียส กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.

ออกประกาศ 06 มกราคม 2566 11:00 น.

เตือนภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก-ฝนตกสะสม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน 

ขอขอบคุณที่มา :  กรมอุตุนิยมวิทยา 


 

logoline