เฝ้าระวังน้ำท่วมภาคใต้ "กรมชลฯ" เตรียมพร้อม 8-11 ธ.ค. ตลอด 24 ชั่วโมง
คาดสภาพอากาศฝนตกหนัก8-9 ธันวานี้ "อธิบดีกรมชลฯ"กำชับเจ้าหน้าที่กรมชลฯในพื้นที่ ให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยตลอด 24 ชั่วโมง
6 ธันวาคม 2565 "นายประพิศ จันทร์มา" อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) และดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นห่วงสถานการณ์ฝนตกหลักในพื้นที่ภาคใต้ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์นั้น
"กรมชลประทาน" ได้เตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด ภายหลังที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์สภาพอากาศ ว่าจะมีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 8 - 9 ธันวาคม 2565 ทั้งนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่กรมชลฯในพื้นที่ให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยตามการประเมินของ กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ในช่วงวันที่ 8-11 ธ.ค.2565
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกรมชลฯได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งกำลังคน กำลังเครื่องมือ เครื่องจักรไว้ในพื้นที่เป็นการล่วงหน้าแล้ว และพร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงอุทกภัย เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วม ประกอบด้วย จ.ชุมพร ในพื้นที่ อ.ละแม จ.ภูเก็ต ในพื้นที่อ.ถลาง และเมืองภูเก็ต จ.สุราษฎร์ธานี พื้นที่อ.กาญจนดิษฐ์ ท่าชนะ ไชยา ท่าฉาง พุนพิน ดอนสัก และเมืองสุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช ในพื้นที่อ.เมืองนครศรีธรรมราช ขนอม สิชล ท่าศาลา พรหมคีรี ปากพนัง นบพิตำ และพระพรหม จ.พัทลุงในพื้นที่อ.เขาชัยสน ควนขนุน บางแก้ว ปากพะยูน ป่าบอน และกงหรา จ.สงขลา ในพื้นที่อ.กระแสสินธุ์ ระโนด เทพา รัตภูมิ ควนเนียง หาดใหญ่ สทิงพระ และจะนะ
จ.ตรัง ในพื้นที่ อ.กันตัง จ.สตูลที่ อ.เมืองสตูล จ.ปัตตานี ในพื้นที่อ.ไม้แก่น หนองจิก โคกโพธิ์ สายบุรี กะพ้อ ยะหริ่ง ทุ่งยางแดง และมายอ จ.ยะลา ในพื้นที่เมืองยะลา อ.รามัน และยะหา จ.นราธิวาส ในพื้นที่อำเภอเมืองนราธิวาส ตากใบ เจาะไอร้อง บาเจาะ ยี่งอ แว้ง สุไหงโก-ลก สุคิริน และรือเสาะ
ทั้งนี้ได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่ภาคใต้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังระดับน้ำทั้งแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาตลอด 24 ชั่วโมง และปฏิบัติตามมาตรการรับมือฤดูฝน 13 มาตรการ ตรวจสอบอาคารชลประทาน
ตลอดจนแนวคันกั้นน้ำต่าง ๆ ให้มีความมั่นคงแข็งแรงพร้อมใช้งานอย่างเต็มศักยภาพ บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก บุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ บริเวณพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมเป็นประจำ ให้สามารถนำไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที เมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วม รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานแจ้งเตือนประชาชน เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น