5 พฤศจิกายน 2565 ยังเป็น ดราม่าร้อน ในโซเชียล จากกรณีเกิดเหตุญาติผู้ป่วย และผู้ป่วยที่ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ได้มีการการถกเถียงกับแพทย์หญิงคนหนึ่งภายในห้องทำงานของโรงพยาบาล ระหว่างนั้นญาติผู้ป่วยได้ถ่ายคลิปไว้ มีเนื้อหาเป็นการต่อว่าแพทย์หญิงว่า ให้บริการไม่ดี บางครั้งพูดถึงเรื่องความโง่ของผู้ป่วย และบางช่วงถึงขั้นใช้สรรพนามว่า "กู" และ "มึง" จนมีการวิพากษณ์วิจารณ์อย่างหนักในโซเชียลมีเดีย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
๐ "ผอ.รพ.เชียงแสน" แถลงเสียใจ "หมอด่าคนไข้" เผย เป็นการสื่อสารไม่เข้าใจกัน
๐ "แพทยสภา" สั่งสอบแพทย์หญิง ด่าคนไข้ "โง่" พบทำพฤติกรรมแบบนี้หลายครั้ง
๐ เดือด! กลางห้องฉุกเฉิน หมอด่า "คนไข้โง่" ถูกสั่งพักงาน 1 สัปดาห์ (มีคลิป)
ดูคลิป
ล่าสุด แม้ก่อนหน้านี้ ทาง ต้นสังกัด จะมีการออกมาชี้แจงถึงพฤติกรรมของแพทย์รายดังกล่าว รวมถึงมีการพิจารณาบทลงโทษในเบื้องต้นแล้ว แต่ดูเหมือนว่าดราม่านี้ยังไม่จบลงง่าย ๆ เสียแล้ว หลังมีชาวทวิตรายหนึ่ง ขุดโพสต์ที่อ้างว่า เป็นของแพทย์หญิงคนดังกล่าว ที่พูดถึงกรณีดราม่าคลิป ที่เผยแพร่จนโด่งดังในโลกโซเชียลว่า
“เตรียมตัวอ่านดราม่าโรงพยาบาลชายแดนทางภาคเหนือ พร้อมคลิปวิดีโอหมอด่าญาติคนไข้ว่าโง่ เพราจะฉีดยาให้ก็ไม่ยอมฉีด จะเติมน้ำเกลือไปอย่างเดียว จนกว่าชีวิตจะหาไม่ จะสั่งหมอทุกอย่าง ไม่ปล่อยให้หมอรักษาตามแนวทางการแพทย์”
รวมถึง “ยอมรับว่า ไม่เสียใจที่ด่าคนไข้ สมน้ำหน้าไอ้โง่ กูไม่อยากเป็นหมอ กูไม่เคยเต็มใจช่วยคน แต่คนอย่างมึงควรเจอคนเหี้Xอย่างกูแล้ว สมน้ำหน้าไอ้เหี้X กูไม่เสียใจ ไม่ขอโทษ ไม่มีกระเช้า มึงเอาบิ๊กตู่ เสี่ยหนูมาขู่ ก็ไม่มีวันขอโทษ ส่วนคนที่รีทวีต ถ้าชอบใจก็อยู่เฉย ๆ ก็แล้วไป แต่ถ้าจะรออ่านดราม่า หรือดูคลิปไม่ต้อง เพราะทางต้นสังกัดสั่งลบคลิปไปแล้ว”
ทันทีที่ทวิตดังกล่าวถูกขุดออกมา งานนี้ทำเอาทั้งทวิตเตอร์ถึงกับระอุ มีผู้เข้ามารีทวิต รวมถึงแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ตำหนิทัศนะคติดังกล่าวของแพทย์หญิงอย่างรุนแรง แต่ก็มีบางส่วนเห็นด้วย และมีการตั้งข้อสังเกตว่า หากเป็นทวีตของแพทย์คนดังกล่าวจริง ต้นสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย กับคนไข้ตามมาในอนาคต จากการที่แพทย์มีทัศนคติกับคนไข้เช่นนี้
ขณะที่ในเฟซบุ๊ก ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่เป็นแพทย์ ได้วิเคราะห์ดราม่าร้อนครั้งนี้ที่เกิดขึ้น พร้อมให้คำแนะนำแพทย์ที่อาจจะเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ โดยระบุว่า
เรื่องหมอด่าคนไข้นี่ต้องแยกประเด็นหลายเรื่องมากนะ
1.โครงสร้างที่กดคนทำงานทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา
2.ตัวโรคทางจิตเวช ไม่ใช่ทุกโรคที่จะเกิดอารมณ์รุนแรง แล้ว project ใส่คนอื่นอย่างหยาบคายรุนแรง ซึ่งก็ต้องให้ได้ diagnosis ก่อนว่าป่วยหรือไม่ ถ้าป่วยเป็นอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซึมเศร้านั้น rarely มาก ๆ ที่จะไปใช้กำลังหรือหยาบคายใส่ใคร แต่กลายเป็นว่า ทุกวันนี้โยนความหยาบคาย การใช้กำลัง ความรุนแรง ว่านั่นไงเขาเป็นซึมเศร้า เลยรุนแรง ซึ่ง มัน “ไม่ใช่”
3.พื้นนิสัย และ personality คือบางคนก็นิสัยเสียจริง ยิ่งไม่ควรอ้างระบบกดขี่ หรือโรคทางจิตเวช การได้รับความกดดัน หรือโครงสร้างที่กดคน หมอเป็นพัน ๆ คนที่โดน แต่ไม่หยาบคาย สถุลใส่คนไข้ ทำงานด้วยความเป็น profestional
คือมันต้องมองทั้งสามมุมนี้ แยกเป็นประเด็นให้ชัดเจน ไม่งั้น มันคือการอุดม fallacy
#ซีวีโทซอรัส
เพิ่มเติม
คำแนะนำสำหรับแพทย์ที่เจอคนไข้แย่ ๆ คือ ช่างแม่งปล่อยผ่านไป จงถือคติอย่าสอนหมูร้องเพลง หมูมันร้องเพลงไม่ได้ เราจะเหนื่อยมาก หมูมันก็จะรำคาญและอาจะกัดเรา เปรียบเหมือนขับรถไปบนถนน เราเจอขี้หมา เราก็ไม่ต้องจอดรถไปโกยขี้หมา ไม่ต้องไปตามตีหัวหมา เราแค่ขับรถต่อไป ขอให้ขับรถอย่าง professional ก็พอ และไม่ว่าเราจะเจอคนไข้ห่วยขนาดไหน หยาบคายขนาดไหน ก็ไม่ใช่ข้ออ้างให้เราทำพฤติกรรมแย่ ๆ นิสัยไม่ดีใส่เขา เจอคนแย่ เราไม่จำเป็นต้องแย่ตาม เราแค่หลบออกมาซะก็พอแล้ว
ซึ่งภายหลังได้มีบรรดาแพทย์ในโซเชียล เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้จำนวนไม่น้อยเช่น กัน และมีบางส่วนที่เห็นด้วยกับเรื่องนี้