ความคืบหน้ากรณีที่วานนี้ (3 ต.ค.) มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียน ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความเป็นธรรม ว่า ถูกธนาคารยึดบ้าน แต่เป็นการยึดผิดหลัง ที่สำคัญทรัพย์สินภายในบ้าน ถูกทำลายหลายรายการ ผู้เสียหายจึงเตรียมยื่นฟ้องร้องต่อธนาคารแห่งนี้ 4 ข้อหา พร้อมประเมินมูลค่าความเสียหาย 2.2 ล้านบาท ซึ่งต่อมาธนาคารออมสิน ได้ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น ยอมรับเข้ายึดบ้านผิดหลังและทำข้าวของเสียหายจริง โดยวันนี้ (4 ต.ค.) ได้นัดคู่กรณีเข้าเจรจาข้อเรียกร้องตามค่าเสียหายจริงอีกครั้ง (อ่านข่าว)
ล่าสุดวันนี้ที่ธนาคารออมสิน สาขาติวานนท์ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้พานายสมเกียรติ อายุ 53 ปี และ นางกาญจนา อายุ 45 ปี ผู้เสียหาย มาหารือกับธนาคาร เพื่อพิจารณาข้อเรียกร้อง และประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง โดยนายวุฒิพงษ์ ภิรมยาภรณ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ทางธนาคารยินดีรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด ตามที่ผู้เสียหายเรียกร้องตามราคาทรัพย์สิน จำนวน 2.2 ล้านบาท
นายวุฒิพงษ์ ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากความผิดพลาดของผู้รับเหมาที่ธนาคารจ้างมา ซึ่งเป็นผู้รับเหมาภายนอก โดยกระบวนการคือ ธนาคารเข้าซื้อบ้านหลังดังกล่าว คือบ้านเลขที่ 99/44 จากกรมบังคับคดี และวันเกิดเหตุ คือวันที่ธนาคารให้ช่างผู้รับเหมาเข้าไปปรับปรุงบ้าน เพื่อจะขายต่อ โดยช่างได้ลงพื้นที่ไปตามบ้านในภาพ ที่ธนาคารส่งให้ ซึ่งตามกระบวนการแล้ว จะต้องมีเจ้าหน้าที่ธนาคารลงพื้นที่ ไปยืนยันบ้านพร้อมกับผู้รับเหมาด้วย
แต่กรณีนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ธนาคารลงพื้นที่ไปด้วย โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้รับเหมาเข้าปรับปรุงบ้านผิดหลัง เนื่องจากบ้านทั้งสองหลังมีความคล้ายกัน และผู้รับเหมาแจ้งว่าไม่มีบ้านเลขที่ ทั้งนี้หลังจากผู้รับเหมานำป้ายที่มีข้อความห้ามบุกรุก เป็นทรัพย์สินของธนาคาร ไปติดไว้ และได้เข้าปรับปรุงบ้าน ตลอดระยะเวลา 4 - 5 วัน ไม่พบเจ้าของบ้านหรือหรือใครมาทักท้วงแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารได้ลงโทษโดยการพักงานผู้รับเหมาเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อให้ไปทบทวนการทำงานและสิ่งที่เกิดขึ้น และหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันว่า ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยธนาคารถือเป็นบทเรียน และจะเพิ่มความรอบคอบมากขึ้น พร้อมให้คำมั่นว่า จะไม่ให้มีเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นอีก
ด้านนางกาญจนา ผู้เสียหาย กล่าวว่า การเจรจาวันนี้เป็นที่พอใจ หากทางธนาคารให้การรับผิดชอบ ตามที่พูด และชี้แจงเหตุผลในความผิดพลาด ตนก็ยินดีจบคดี และไม่มีการฟ้องร้อง