27 กันยายน 2565 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยภาพถ่ายดาวเทียม พบ "พายุโนรู" จ่อเข้าไทยด้วยความเร็ว ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)" โดยคาดว่า ส่งผลกระทบฝนตกหนักมาก ถล่มอีสานตั้งแต่คืนวันที่ 28 ก.ย.นี้ พร้อมเตือนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีรายละเอียดระบุว่า..
GISTDA เผยภาพจาก #ดาวเทียมฮิมาวาริ8 ของญี่ปุ่น วันที่ 27 กันยายน 2565
ภาพ พายุโนรู ที่กำลังเคลื่อนตัวจากตอนกลางของทะเลจีนใต้ มีทิศทางเคลื่อนที่กำลังจะขึ้นฝั่งเวียดนาม จากนั้นจะเคลื่อนผ่านประเทศลาว เข้าสู่ประเทศไทยประมาณช่วงค่ำวันที่ 28-29 กันยายน 65 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจะส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย มีฝนตกมาก
สำหรับการเคลื่อนตัวของพายุโนรูในครั้งนี้ คาดว่าพื้นที่น่าเป็นห่วงคือ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และอีกหลายพื้นที่บริเวณลุ่มน้ำชีและมูล เพราะปริมาณน้ำในลำน้ำขณะนี้หลายจุดเกินความจุ จนส่งผลให้บางพื้นที่มีน้ำท่วม และหากมีฝนจากพายุเข้ามาอีกจะทำให้มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ขนาดกลางในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนนี้ ส่วนใหญ่มีน้ำมากเกือบเต็มความจุที่แล้ว ขณะนี้มีพื้นที่เกษตรกรรมบริเวณลุ่มน้ำชีและมูล ได้รับผลกระทบแล้วประมาณ 3 แสนไร่ คาดว่าเมื่อพายุโนรู เคลื่อนตัวเข้ามาจะทำให้มีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น จนทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพราะการเคลื่อนตัวของพายุโนรู อาจมีการเปลี่ยนทิศทางหรือทวี-ลดความรุนแรงจากปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบได้ด้วยเช่นกัน
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์ "พายุโนรู" ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "กรมอุตุนิยมวิทยา" อัปเดตเส้นทางพายุ "โนรู (NORU)" เช้าวันนี้ (27/9/65) ระบุว่า
พายุไต้ฝุ่น “โนรู (NORU)” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง (เมืองดานัง) ในช่วงเช้าของวันที่ 28 กันยายน 2565 และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน เคลื่อนผ่าน สปป.ลาว และเข้าสู่ด้านตะวันออกของภาคอีสาน บริเวณตอนบนของ จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ ช่วงเย็นของวันที่ 29 ก.ย.65 และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ
จากนั้น จะเคลื่อนเข้าปกคลุม ภาคอีสานตอนกลาง ภาคกลาง และภาคเหนือ ต่อไป ซึ่งอาจทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณภาคอีสานตอนล่าง บริเวณ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ต้องเฝ้าระวังและติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด (ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าใหม่)
นอกจากนี้ กรมอุตุฯ ได้ออกประกาศเตือนฉบับที่ 8 เรื่อง "พายุ โนรู" ลงวันที่ 27 กันยายน 2565 มีรายละเอียดดังนี้
เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (27 ก.ย. 2565) พายุไต้ฝุ่น “โนรู” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางออกไปทางทิศตะวันออกประมาณ 490 กิโลเมตร จากเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 15.6 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 28 กันยายน 2565 และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชันตามลำดับ โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางของประเทศไทยในวันที่ 29 กันยายน 2565 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น
ลักษณะดังกล่าว ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม 2565 มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งให้ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย
จังหวัดที่คาดว่าจะมี ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้
วันที่ 28 กันยายน 2565
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดสกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
วันที่ 29 กันยายน 2565
ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
วันที่ 30 กันยายน 2565
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ ขอนแก่น และนครราชสีมา
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27 กันยายน - 1 ตุลาคม 2565
กรมอุตุนิยมวิทยา จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่ เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ประกาศ ณ วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 05.00 น.
ที่มา : เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา