27 กันยายน 2565 ฝนตกหนักมาก ประกอบกับ “พายุใต้ฝุ่นโนรู” ที่กำลังเคลื่อนเข้าไทย ส่งผลฝนตกหนักมากถล่มจังหวัดชัยภูมิ ขณะที่แม่น้ำชีล้นตลิ่งหนุนและมีน้ำป่าจากเทือกเขาภูแลนคาทะลักจากเขื่อนลำประทาว น้ำห้วยยางบ่า ทะลักท่วมเขตเศรษฐกิจ ศาลากลาง โรงเรียน และ โรงพยาบาล จมบาดาล น้ำท่วมสูงกว่า30-50 ซ.ม. เมื่อช่วง 22.00 น. (26 ก.ย.) ทางจังหวัดห่วงกระทบรพ.ชัยภูมิ ถนนหลายสายจมน้ำรถเล็กวิ่งผ่านยากลำบาก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ช่วงเมื่อคืนวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา น้ำป่าหลากจากเทือกเขาภูเขียว เทือกเขาพังเหย และเทือกเขาภูแลนคา ไหลลงสู่แม่น้ำชี และลำน้ำลำประทาว จนล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนแล้วใน 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.หนองบัวแดง, อ.เกษตรสมบูรณ์, อ.หนองบัวระเหว, อ.บ้านเขว้า, อ.จัตุรัส และ อ.เนินสง่าและอำเภอเมืองชัยภูมิ
ขณะที่พบความเสี่ยงกระทบการรับส่งผู้ป่วยเข้าออกโรงพยาบาล ถึงโซนศูนย์ราชการหน้าศาลากลาง สถานีตำรวจ โรงเรียนหลายแห่ง สำนักงานหน่วยงานราชการ ร้านค้าย่านกลางเมืองโซนเศรษฐกิจน้ำเริ่มทะลักเข้าท่วมขังสูงต่อเนื่องถึงหน้า รพ.ชัยภูมิ ต้องเร่งนำกระสอบทรายกั้นปิดประตูทางเข้าออก รพ.ไว้ก่อน น้ำจ่อหลากเข้าท่วมโซนเศรษฐกิจอีกต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จุดรอบอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแลกลางใจเมืองชัยภูมิ เกิดน้ำทะลักออกจากท่อระบายน้ำท่วมขังสูงต่อเนื่องสูงกว่า 30-50 ซม.และยังมีแนวโน้มที่ระดับน้ำท่วมยังมีระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง เสี่ยงเกิดน้ำท่วมหนักซ้ำรอยหนักสุดในรอบ กว่า 50 ปีที่ผ่านมา
จากการประเมินสถานการณ์ที่มี "พายุโนรู” จะเข้ามาสร้างผลกระทบทำให้เกิดฝนตกหนักมากที่สุด โดยจะเกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ยาวระหว่างช่วงวันที่ 27 ก.ย.ยาวไปถึง 1 ต.ค.65
ขณะที่ เทศบาลเมืองชัยภูมิ ได้เร่งประกาศแจ้งเตือนประชาชนในโซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมืองชัยภูมิทั้งหมด ให้เตรียมความพร้อมเร่งขนย้านสิ่งของมีค่าขึ้นสู่ที่สูงไว้ก่อนเป็นการด่วนแล้ว ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์การระบายน้ำออกจากตัวเมืองชัยภูมิ เป็นไปได้ยากหลังเกิดฝนตกหนัก รวมทั้งแม่น้ำชีหลากล้นตลิ่งยากต่อการระบายน้ำออกนอกเมือง
รวมทั้งในจุดที่ตัวเมืองชัยภูมิ ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่ทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากมีปริมาณน้ำหลากล้นสันเขื่อนลำปะทาวในระดับเกินความจุดในปีนี้ใกล้ถึงจุดวิกฤตอีกครั้งแล้ว จากปี 2564 ที่ผ่านมาเกินความจุดกว่า 62 ซม.
ในปีนี้ขณะนี้มีปริมาณฝนตกหนักบนเทือกเขาภูแลนคา เกิดน้ำล้นสันเขื่อนลำปะทาวสูงกว่า 56 ซม. ซึ่งหากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในขณะนี้อีกไม่เกิน 1-2 วัน ตามการแจ้งเตือนผลกระทบของพายุโนรู ที่ยังจะเกิดฝนตกหนักในปีนี้ยาวไปอีกหลายวันระหว่างช่วง 27 ก.ย.-1 ต.ค.65 นี้ ที่จะทำให้ พื้นที่โซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมืองยากที่จะเลี่ยงการเกิดน้ำท่วมในพื้นที่หนักซ้ำอีกในปีนี้อีกครั้งด้วย
ทั้งนี้ จังหวัดชัยภูมิ ได้เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งเตรียมความพร้อมรับมือพายุฝนตกหนักจากอิทธิพล “พายุโนรู” ปีนี้ มาตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมมีคำสั่งแจ้งด่วนที่สุดไปถึง นายก อปท. ทุกแห่ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกตำบล หมู่บ้าน ทั้งกว่า 1,600 หมู่บ้าน ขอให้เร่งดำเนินการในการรับสถานการณ์อุทกภัย จากอิทธิพลของพายุโนรู จากนี้ไปเป็นการด่วน โดยออกมาตรการดังนี้
ชมคลิป : น้ำทะลักเข้าท่วม โซนศก.ชัยภูมิ เร่งป้องโรงพยาบาล ก่อน"พายุโนรู"ถล่ม
ด้านโซนรอบนอกตัวเมืองชัยภูมิ ชาวบ้านอีกหลายร้อยครอบครัวในเขตหมู่บ้านชีลองใต้ ต.ห้วยต้อน อ.เมืองชัยภูมิ ยังเกิดน้ำป่าหลากทะลักลงมาจากเทือกเขาภูแลนคา รอยต่อพื้นที่เขื่อนลำปะทาวยังเกิดน้ำป่าหลากทะลักลงมาเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างเพิ่มอีกต่อเนื่อง และในหลายอำเภอที่เริ่มได้รับผลกระทบจากพายุโนรู ในวันนี้ทั้งที่เขต อ.บ้านเขว้า และจัตุรัส ก็เริ่มมีระดับน้ำชีหลากล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ขยายวงเพิ่มขึ้นด้วยอีกต่อเนื่อง
ข่าวและภาพ : สุทธิพงศ์ เสฎฐรังสี
สำนักข่าวเนชั่น จังหวัดชัยภูมิ