"รมว.เกษตรฯ"เร่งสูบน้ำฝนช่วยกทม. ย้ำน้ำเหนือไม่เข้าพื้นที่กทม.

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 65 "ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน" รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าในการระบายน้ำของกรมชลประทานที่สถานีสูบน้ำท่าถั่ว จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ซึ่งสถานีดังกล่าวกรมชลประทานได้มีการตั้งเครื่องสูบน้ำเสริม 8 ตัวรวมกับของเดิมเป็น 14 ตัวสามารถสูบน้ำจากคลองประเวศน์บุรีรมย์ได้วันละ 5.98 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)

เมื่อรวมกับการระบายน้ำในกทม.ผ่านระบบระบายของกรมชลประทานไปออกแม่น้ำเจ้าพระยาและบางปะกงซึ่งแต่ละจุดจะตั้งเครื่องสูบน้ำเสริม ปัจจุบันสามารถช่วยระบายน้ำฝนออกจากระบบของกทม.ได้มากกว่า  63 ล้านลบ.ม.ต่อวัน จากเดิมของการระบายปกติ 52 ล้านลบ.ม.ต่อวัน

"ขอย้ำว่าไม่มีน้ำเหนือ น้ำฝนล้วนๆ เพราะกรมชลฯยังไม่ผันน้ำเหนือเข้าระบบ ดังนั้นหากไม่มีฝนมาเติมภายใน 2-3วันคาดว่าสถานการณ์ในกทม.จะดีขึ้น อย่างไรก็ตามในการบริหารน้ำได้ให้นโยบายกับกรมชลฯว่าต้องไม่กระทบต่อเกษตรกรในพื้นที่ฉะเชิงเทราซึ่งกำลังจะเก็บเกี่ยวเกือบ5พันไร่ในพื้นที่คลองสวน คลองบางขนากในปลายเดือนก.ย.นี้ กระทรวงเกษตรฯช่วยทั้งกทม.และก็ต้องดูแลเกษตรกรด้วย ทั้งนี้ให้เตรียมพร้อมทั้งเครื่องมือ เครื่องจักรและกำลังคนพร้อม 24ชั่วโมง"  รมว.เกษตรฯกล่าว

"นายประพิศ จันทร์มา" อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลฯได้บริหารน้ำในพื้นที่เจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบระบายน้ำโดยรอบของกทม. ทั้งนี้กรมได้บริหารจัดการร่วมกับกทม.อีกทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่อเสริมศักยภาพในทุกประตูระบายน้ำ(ปตร.)และสถานีสูบน้ำ  

สำหรับคลองทางแนวขวางนั้นจะระบายน้ำฝนในกทม.ออกทางคลองรังสิตประยูรศักดิ์ไปออกแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านสถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิต และอีกด้านไปออกแม่น้ำนครนายกผ่านปตร.เสาวภาผ่องศรี และคลองหกวาสายล่าง จะระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกง ผ่านสถานีสูบน้ำสมบูรณ์  

ส่วนคลองบางขนาก จะระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกงเป็นต้น   และให้สถานีสูบน้ำนางหงส์ ซึ่งเป็นจุดใกล้ทะเลมากที่สุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 2 ลบ ม.ต่อวินาทีเพิ่มอีก2 ตัวจากเดิมที่มีขนาด 3 ลบ.ม.ต่อวินาที 3 ตัวสูบน้ำได้ 1.7 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ทั้งนี้เพื่อช่วยพื้นที่อำเภอบางบ่อและบางพลี 

"คลองประเวศน์ฯ เป็นคลองหลักที่ใช้ระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่กทม.ทางกรมชลฯจึงระดมเครื่องสูบน้ำมาระบายน้ำในคลองลงสู่คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ก่อนจะสูบออกทางแม่น้ำบางปะกง ผ่านทางสถานีสูบน้ำท่าถั่ว ที่มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมอีก 8 เครื่อง ทำให้น้ำที่ท่วมขังอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำเขตลาดกระบังและพื้นที่ใกล้เคียง ไหลลงสู่คลองประเวศฯ ได้สะดวกมากขึ้น ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาว กทม. ฝั่งตะวันออก อย่างไรกรมชลฯจะดูแลพี่น้องชาวนาในฉะเชิงเทราให้เกี่ยวข้าวได้ ทั้งกทม.น้ำก็จะลดเร็วขึ้นและเกษตรกรข้าวจะไม่ให้เสียหาย" นายประพิศ กล่าว

"นายสมคิด จั่นพา"  ผู้ใหญ่บ้านบ้านคลองสวน จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีนากำลังจะเกี่ยวข้าวประมาณ 2 พันไร่จากทั้งหมด 3 พันกว่าไร่ จึงขอให้ช่วยดูแลเกษตรกรในพื้นที่ด้วยเพราะขณะนี้บางแปลงน้ำที่ระบายมาทำให้ท่วมพื้นที่นาข้าวที่รอเกี่ยวหากไม่น้ำไม่มากกว่านี้และน้ำยุบลงเร็วจะสามารถเกี่ยวได้ปลายเดือนนี้

"นายบุญลือ ธีรตระกูล" ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำคลองบางขนาก-ท่าไข่ กล่าวว่า กลุ่มนี้มีพื้นที่เกษตรแสนกว่าไร่ ทำนา 7 หมื่นไร่ ทำนาได้ปีละ 2ครั้ง ที่ผ่านมาแล้งทำนาได้ผลไม่ดี แต่ปีนี้ฝนดีทำให้ที่เกี่ยวกันแล้วได้ข้าวมากกว่า 1 เกวียนต่อไร่ ดังนั้นขอให้ดูแลชาวนาอีก 3  พันไร่ที่รอเกี่ยวด้วย เพราะทุกคนรอผลผลิตที่กำลังจะออกมา