จากกรณีมีดาบตำรวจอ้างเป็นตำรวจส่วนกลาง ไปเก็บส่วยร้านนวดแผนโบราณและสปาในจังหวัดหนองคาย โดยมีกลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถยนต์มา 3 คัน แต่มีผู้ชายสวมเสื้อกั๊กคล้ายตำรวจและผู้หญิงลงมาพูดคุยกับเจ้าของร้าน โดยอ้างว่านายให้เก็บค่าคุ้มครอง ให้ดูแลนาย 4 ร้าน แล้วจะมาเก็บรายเดือนละ 500-1,000 บาท ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน โดยผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองหนองคายระบุว่า ชายที่มาเก็บส่วยเป็นตำรวจ ยศดาบตำรวจ สังกัด สภ.เมืองอุดรธานี ตามที่เสนอไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานีว่าเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ความคืบหน้าคดีดังกล่าวทาง พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งอยู่ระหว่างลาพักร้อนเดินทางไปกรุงเทพฯ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ทราบเรื่องดังกล่าวมา 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งคนในคลิปวีดีโอ คือ ด.ต.ชัยยันต์ มหาโยธี ผบ.หมู่งานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ตำแหน่งพลขับพนักงานสอบสวน ทำหน้าที่นำผู้ต้องหาไปส่งศาล ส่วนผู้หญิงในภาพคือภรรยา ด.ต.ชัยยันต์ ส่วนบุคคลอื่นไม่ทราบว่าเป็นตำรวจหน่วยใด ซึ่งได้เรียก ด.ต.ชัยยันต์มาสอบถามและให้เขียนรายงานชี้แจงแล้ว แต่ดาบตำรวจคนดังกล่าวอ้างว่าไปเที่ยวกับภรรยา จึงสั่งให้เขียนรายงานชี้แจงทางวินัยได้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง หากต้องคดีอาญาก็พร้อมที่จะส่งตัวไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ จ.หนองคาย
พ.ต.อ.จามร เปิดเผยต่อว่า ด.ต.ชัยยันต์ ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ไปเก็บส่วยร้านนวดตามที่ถูกกล่าวหา แต่ไปเที่ยวกับภรรยา โดยในทางความผิดอาญา สภ.เมืองหนองคายได้รับเป็นคดีแล้ว จึงต้องรอต้นเรื่องหรือสำนวนคดีจาก สภ.หนองคาย ส่งมาที่ สภ.เมืองอุดรธานี และก็จะได้ส่งตัว ด.ต.ชัยยันต์ไปรับทราบข้อกล่าวหา เมื่อต้องโทษคดีอาญา ทางต้นสังกัดต้องดำเนินการทางวินัย ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งในภาพวีดีโอวงจรปิดที่เป็นข่าวเห็น ด.ต.ชัยยันต์ และภรรยานั่งพูดคุยกับเจ้าของร้านอยู่บริเวณหน้าร้านไม่เห็นการรับเงิน แต่ในสำนวนคดีอาจมีหลักฐานมากกว่านี้ จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา แต่ถ้าสืบสวนว่ากระทำผิดจริงก็ต้องถูกดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด
ภาพ/ข่าว: เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์ สำนักข่าวเนชั่น จ.อุดรธานี