อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ Donald J. Trump ประกาศผ่านสื่อ Truth Social เมื่อเสาร์ที่ 18 มีนาคม ว่าตนเองจะโดนจับกุมแน่ในวันอังคารที่ 21 มีนาคมนี้ เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกมาประท้วงทั่วประเทศ ใช้พลังยึดประเทศกลับมาคืน อ้างว่าเป็นการรังแกทางการเมืองโดยอัยการที่มีหัวรุนแรงและลำเอียง ขณะที่ตนเองเชื่อมั่นว่าไม่ได้ทำอะไรผิด
ทีมงานของTrump ตั้งหน่วยบัญชาการเตรียมทีมกฎหมาย หาทางเลือกและยุทธวิธีรับมือกับวิกฤตินี้ ที่คฤหาสน์ริมทะเลทางใต้ของรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นที่พำนักปัจจุบันของTrump ถือโอกาสนี้ระดมเรี่ยรายออนไลน์ เพื่อหาทุนเติมคลังในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในปีค.ศ. 2024 นักการเมืองฝ่ายรีพับลิกันหลายคน รวมทั้งประธานสภาผู้แทนในปัจจุบัน ประกาศว่า เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง และจะตั้งกรรมการดำเนินการสืบสวนว่า อัยการในคดีนี้เอาเงินของรัฐบาลกลางไปใช้หรือไม่
ขณะที่อัยการเขตแมนฮัตตันในนิวยอร์ก Alvin Bragg ซึ่งเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 มกราคมปีค.ศ. 2022 ได้นำคดีนี้มารื้อฟื้นอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมาทำคดีนี้ต่อจากอัยการคนเดิม ซึ่งทำเรื่องนี้มาหลายปี และนำหลักฐานข้อมูลเสนอต่อคณะลูกขุนใหญ่ grand jury ซึ่งถึงวันนี้คณะลูกขุนใหญ่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดของคดีความ ที่เสนอโดยอัยการและจากพยานสำคัญหลายคน ในวันจันทร์ที่ 20 มีนาคมก็ยังมีกำหนดการรับฟังจากพยานอีกคนหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นพยานคนสุดท้าย
หากคณะลูกขุนใหญ่มีมติว่าคดีนี้มีมูลชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินคดีในขั้นศาล จะแนะนำให้อัยการดำเนินการต่อไป แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของอัยการว่าจะทำหรือไม่และเมื่อใด
ถึงวันนี้ 19 มีนาคม ยังไม่มีการสรุปเป็นทางการ แต่ข่าวที่รั่วไหลออกมาจากหลายฝ่ายก็พอคาดได้ว่า คดีนี้คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจะกลายเป็นคดีใหญ่มาก เพราะไม่เคยมีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนใดถูกดำเนินคดีอาญา
เหตุที่หลายฝ่ายคาดว่าจะมีการดำเนินคดีและออกหมายจับภายในสัปดาห์หน้านี้ เนื่องจากการประสานงานกันระหว่างผู้รักษากฎหมายด้านความมั่นคงสี่กลุ่มคือ สำนักงานตำรวจในนครนิวยอร์ก กลุ่มอารักขาอดีตประธานาธิบดี (secret service) เอฟบีไอ และคณะตำรวจในรัฐฟลอริดาซึ่งเป็นภูมิลำเนาของผู้ถูกกล่าวหา เพื่อเตรียมตัวการเดินทางจากฟลอริดาไปมอบตัวที่รัฐนิวยอร์กและเดินทางกลับ ซึ่งการประสานงานกันโดยรอบคอบล่วงหน้า เพื่อเลี่ยงความโกลาหล
หากมีการสั่งดำเนินคดีและออกหมายจับ แม้ว่าคดีนี้คงจะให้โอกาสการมอบตัวเพื่อเลี่ยงการจับกุม พิมพ์ลายมือ ถ่ายภาพผู้ต้องหา และนำขึ้นศาลเพื่อขอประกันตัวนั้น คงทำได้อย่างรวดเร็ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ประมาท เนื่องจากเรื่องนี้เป็นความอ่อนไหวของการเมือง แบ่งเป็นสองฝ่าย ทั้งที่สนับสนุนและต่อต้าน จำนวนใกล้เคียงกัน คล้ายกับการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมาหลายครั้ง
คดีนี้เป็นเรื่องการใช้เงิน 130,000 เหรียญเพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้งในปี 2016 เงินจำนวนนี้มีจุดประสงค์จะปิดบังข่าวอื้อฉาวเรื่องความสัมพันธ์ของทรัมป์กับดาราโป๊ Stormy Daniels เมื่อปีค.ศ. 2006 และเพื่อปกปิดเป็นความลับ ทรัมป์สั่งให้ทนายความส่วนตัวเอาเงินของเขาจ่ายไปก่อน แลกเปลี่ยนกับสัญญาที่สตรีผู้นั้นจะไม่เปิดเผยเรื่องราว ซึ่งหากควบคุมข่าวไม่ได้จะทำให้เกิดผลเสียต่อการเลือกตั้ง และมีหลักฐานต่อมาว่าทรัมป์เขียนเช็คหลายฉบับ จ่ายเงินคืนให้ทนายความคนนั้น โดยบันทึกว่าเป็นค่าปรึกษากฎหมาย
กฎหมายการเลือกตั้งของอเมริกา campaign finance laws บังคับให้ผู้สมัครทุกคนต้องรายงานรายรับรายจ่ายของการหาเสียงโดยละเอียด กรณีนี้ถูกกล่าวหาว่าปกปิด และเรื่องนี้อาจถูกดำเนินคดีเพิ่มหรือเปลี่ยนเป็นความผิดเรื่องการละเมิดกฎหมายภาษี เพราะเป็นการอำพรางจุดประสงค์
หากคดีนี้สิ้นสุด โดยคณะลูกขุน trial jury 12 คนลงมติเป็นเอกฉันท์ 12-0 ว่าผิดจริง โทษจะเป็นการภาคทัณฑ์ถึงจำคุกสี่ปี ซึ่งผู้ออกคำสั่งเรื่องการลงโทษนั้นคือผู้พิพากษาซึ่งควบคุมคดีนี้ ลูกขุนมีหน้าที่ตัดสินว่าผิดหรือไม่ แต่ไม่มีอำนาจในการกำหนดโทษ
กฎหมายอเมริกันที่ใช้ลูกขุนตัดสินนั้น เป็นประเพณีที่ทำกันมาเป็นเวลานาน หากมีลูกขุนเพียงแค่หนึ่งคน ยังคลางแคลงใจอยู่และไม่ยอมลงคะแนนร่วมกับทุกคนในกลุ่ม ก็ถือว่าคดีนี้ค้างไว้ อัยการจะต้องคดีเริ่มใหม่ หรือตัดสินใจยกเลิกคดี ในกรณีนี้เปรียบเสมือนจำเลยมีชัยชนะ เพราะฉะนั้นคดีนี้จะต้องมีการต่อสู้กันอย่างหนักในชั้นศาล และลูกขุนทุกคนซึ่งต้องสาบานการปฏิบัติตนระหว่างคดีอย่างเข้มงวด รวมทั้งการไม่ติดต่อสื่อสารอ่านข่าวเกี่ยวกับคดีนี้ แต่อาจมีการใช้กลยุทธ์ผ่านสื่อมวลชน เพื่อหวังผลโน้มน้าวลูกขุนหนึ่งคนขึ้นไป ให้มีความลังเล
สิ่งสำคัญอีกอย่าง หากทรัมป์ถูกตัดสินว่าผิดจริง คืออาจทำให้สูญเสียคะแนนนิยมต่อการเลือกตั้งสมัยหน้า การถูกดำเนินคดีอาญาอาจมีผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนมากกว่าคดีแพ่งที่ทรัมป์ผ่านมาแล้วหลายครั้ง
ด้านอัยการ Bragg ก็มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะแรงกดดันจากทุกฝ่าย หากไม่ชนะคดีนี้ (ลูกขุน 12-0) ก็จะทำให้เกิดคะแนนสงสารต่อTrump เงินช่วยเหลือในการหาเสียงก็จะเพิ่มเติมมากขึ้น และโอกาสหวนกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งหนึ่งก็จะเพิ่มขึ้นโดยปริยาย
กฏหมายในรัฐนิวยอร์กมีความยุติธรรมและรัดกุม ไม่ให้อำนาจอัยการตัดสินเรื่องการดำเนินคดี แต่จะทำได้ก็ต่อเมื่อคณะลูกขุนใหญ่รับฟังคดีความและตรวจสอบหลักฐานรวมทั้งการแถลงจากพยาน และคณะลูกขุนใหญ่จะสรุปว่าคดีมีมูลชัดเจนเพียงพอหรือไม่ที่อัยการจะดำเนินคดีในขั้นศาล
คณะลูกขุนใหญ่เลือกโดยสุ่มมาจากประชาชนทั่วไป จำนวนครั้งละ 16 ถึง 23 คน และมติของกลุ่มจะต้องมาจากสามในสี่ หรือ 75% ของจำนวนลูกขุน
วันนี้อัยการ Bragg ได้ออกมาแถลงผ่านสื่อว่าจะไม่อดทนต่อการข่มขู่และคุกคาม ไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเรื่องสรุปผลคณะลูกขุนใหญ่หรือการออกหมายจับ
ชาวอเมริกันกำลังจับตามองว่าจะมีการดำเนินคดีในชั้นศาลอาญาหรือไม่ เมื่อใด จะมีการมอบตัวหรือจับกุมตัวในเร็ววันนี้อย่างที่คาดไว้จริงหรือ การประท้วงหรือจลาจลจะมากน้อยแค่ใด ต่างๆเหล่านี้จะเป็นสิ่งแสดงถึงอิทธิพลของอดีตประธานาธิบดีและความเลื่อมใสในหมู่ฐานเสียงว่ายังมีอยู่มากน้อยเพียงใด
หากการดำเนินคดีเป็นไปได้โดยปกติพอควร ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาเป็นอย่างไร ก็จะเป็นสัญญาณถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายซึ่งไม่เลือกปฏิบัติ และจะมีความหวังว่าการเมืองอเมริกันที่แบ่งเป็นสองขั้วในปัจจุบันนั้น ยังมีโอกาสที่จะหาทางอยู่ด้วยกันอย่างสันติและยอมรับกติกาแห่งรัฐธรรมนูญครับ