svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

ป.ป.ช.ฟัน"คุณหญิงพรทิพย์"ปม"GT200" เกม สะสางอดีตหรือ ใบสั่งแค้นส่วนตัว

15 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"GT200" ตำนานไม้ล้างป่าช้า ลามฟ้อง"คุณหญิงพรทิพย์"อดีตผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สุดแสนมึนงง การเมืองหรือไม่ ? หนึ่งเดียวในระดับบริหารถูกชี้มูลความผิด แต่ทหารกลับไม่โดน ข้อสงสัยเปลี่ยนตัว ปธ.สอบสวน (มีคลิป)

กลายเป็นประเด็นให้ชวนคิด ต่อกรณี "ป.ป.ช."ลงมติชี้มูลความผิด"แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์" สมาชิกวุฒิสภา อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์  ปมการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด หรือ GT 200 โดยมีข้อสังเกตถึงการขุดเรื่องเก่ามาชี้มูลหรือปมแค้นส่วนตัวทางการเมือง  "รายการคมชัดลึก" โดย วราวิทย์ ฉิมมณี จึงได้เชิญ "แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์" มาร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูล

ป.ป.ช.ฟัน\"คุณหญิงพรทิพย์\"ปม\"GT200\" เกม สะสางอดีตหรือ ใบสั่งแค้นส่วนตัว

ฟ้อง “หมอพรทิพย์” สั่งซื้อ GT200 ปมแค้นส่วนตัว?

"วราวิทย์" ถ้าย้อนกลับไปตอนนั้นรอให้มีผลทดสอบออกมามีข้อมูลมากขึ้นก่อนที่จะอนุมัติให้เจ้าหน้าที่เขาขอจัดซื้อได้มั้ย

"หมอพรทิพย์" เราอาจจะวางใจเพราะกองทัพบกซื้อไปแล้ว

"วราวิทย์" ถ้าเราเป็นหน่วยงานแรกจะอีกเรื่องนึง

"หมอพรทิพย์" อีกเรื่องนึงค่ะ จะซื้อตอนแรกคงคิดแล้วคิดอีก

"วราวิทย์" โดยรวมแล้ว GT200 จัดซื้อสามครั้งสำหรับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์รวมเป็น 6 เครื่อง ครั้งแรกปี 2550 1,120,000 บาท/เครื่อง ครั้งที่สองเพิ่มขึ้นเป็น 1,200,000 บาท/เครื่อง ครั้งที่สามเป็น 1,120,000 บาท/เครื่อง 4 เครื่อง มีข้อสงสัยว่าเครื่องแรกกับครั้งที่สองราคามันเพิ่มขึ้นมา 80,000 บาท เข้าใจว่าเป็นรายละเอียดที่ทำให้"คุณหมอ"ถูกชี้มูลความผิด สั่งฟ้องว่าทำไมไม่ตรวจสอบราคาในครั้งแรกกับครั้งที่สอง "คุณหมอ"จำความได้มั้ยทำไมถึงไม่ได้ตรวจสอบตอนนั้น

 

"หมอพรทิพย์" ตอนแรกจำไม่ได้หรอก พอป.ป.ช.ฟ้องถึงได้ไปหาข้อมูล ซึ่งเป็นช่วงตั้งสถาบันนิติปีนึงจะซื้อครุภัณฑ์เยอะมาก แล้วเวลาเรามอบหมายทุกคนก็ไปรับผิดชอบดูแล ที่สำคัญที่สุดคือเลขานุการกรมที่จะต้องเป็นตัวหลักที่ดูแล ในการเพิ่มครั้งที่สองเขาทำผ่านเลขานุการกรม แต่เลขานุการกรมกลับไม่แม่นระเบียบ แล้วก็ผ่านมาให้อธิบดีเผอิญคนที่ลงนามคือเป็นรักษาการ ตอนที่เขาฟ้องด้วยเหตุนี้ค่ะ

ป.ป.ช.ฟัน\"คุณหญิงพรทิพย์\"ปม\"GT200\" เกม สะสางอดีตหรือ ใบสั่งแค้นส่วนตัว

แต่เห็นชื่อก็ไม่ใช่เราไง คิดว่าเราไปไหนปรากฎว่าเราทำเรื่องขออนุมัติลงไปทำงานภาคใต้ เนื่องจากช่วงเวลานั้นเราจะอยู่ใต้ 3 วัน/อาทิตย์ หมายความว่าเราไม่ได้รับรู้จริงๆ พอไม่ได้รับรู้มันจะเลยเป็นประกาศสุดท้ายขออนุมัติจัดซื้อตัวนี้ เราก็ลงนามอนุมัติซึ่งตรงนี้มันจะไม่มีคำว่าราคาแพงขึ้น ถ้าดูจริงๆแล้วมันไม่ใช่ทุจริต ถ้าไล่จริงๆคือเลขานุการกรมค่ะ เพราะเลขาเป็นเหมือนอธิบดีน้อยคุณต้องแม่นพอดูอะไรที่ไม่ครบ

"วราวิทย์" แล้วคนอนุมัติก็เป็นรักษาการในจังหวะที่คุณหมอลงมาปฏิบัติหน้าที่

"หมอพรทิพย์" ใช่ค่ะ

 

"วราวิทย์" พอคุณหมอจะเซ็นต์สุดท้าย ผ่านกระบวนการการเทียบราคามาแล้วก็จะเห็นราคาสุดท้ายแล้ว

"หมอพรทิพย์" จะมีอีก 2 ข้อกล่าวหา ข้อกล่าวหาที่ทำไมไม่ตั้งผู้เชี่ยวชาญ คำตอบคือระเบียบไม่ได้บอกว่าต้องแต่งตั้ง แต่ว่าตอนที่จะจัดซื้อทางทีมงานเขาดูวิธีซื้อของกองทัพบก ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องตั้งผู้เชี่ยวชาญแล้วพวกนี้ก็เป็นตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้ว อันที่ 3 ที่โดนฟ้องซึ่งเป็นลักษณะที่ยิบย่อยมาก ในการจัดซื้อทำไมไม่ส่งสัญญาให้สตง.ดู ปรากฎเราก็นึกว่าปีนึงซื้อครุภัณฑ์รวมแล้วร้อยกว่ารายการ เราไม่เคยมานั่งมอนิเตอร์ว่าคุณส่งสัญญาหรือป่าว อันนี้เราถูกกล่าวหา

ป.ป.ช.ฟัน\"คุณหญิงพรทิพย์\"ปม\"GT200\" เกม สะสางอดีตหรือ ใบสั่งแค้นส่วนตัว

ส่วนข้อสุดท้ายมันยากที่จะตอบอธิบายเป็นชิ้นเป็นอันก็คือการกระทำของคุณหมอที่ทำให้มันซื้อแพง ทำให้รัฐเสียประโยชน์ทำไมซื้อเครื่องที่ไม่ได้เรื่อง อันนี้เราก็อธิบายว่า

ข้อที่ 1 คุณจะเอาความเห็นของนักวิชาการในปี 53 มาวิพากษ์ ปี 50-51 ไม่ได้ เพราะเวลานั้นไม่มีใครมีความเห็นเรื่องนี้

ข้อที่ 2 ในเรื่องของราคา กรมราชองครักษ์ซื้อเท่ากันเลยค่ะ แล้วทำไมคุณว่าเราซื้อแพง สิ่งนี้เราก็เอาให้ดู แล้วความเสียหายก็ไม่ได้เกิดนะ สุดท้ายก็ฟ้องโดยเฉพาะ Alpha6 ก็จ่ายแล้ว GT200 อยู่ในกระบวนการที่จ่าย

"วราวิทย์" เจ้าหน้าที่ที่จัดซื้อคล้ายไปลอกสัญญาจัดซื้อมาเลย

"หมอพรทิพย์" ใช่ค่ะ แล้วที่สำคัญคือว่าระเบียบพัสดุไม่ได้บอกว่าต้องตั้ง

ป.ป.ช.ฟัน\"คุณหญิงพรทิพย์\"ปม\"GT200\" เกม สะสางอดีตหรือ ใบสั่งแค้นส่วนตัว

"วราวิทย์" ช่วงเกิดเหตุปี 51-53 ที่เป็นประเด็นใหญ่ แล้วคุณหมอรับรู้ว่าตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องคือปี 64 แล้วสิบกว่าปีที่ผ่านมาทำไมมันหายว่างเปล่าไปละครับ

"หมอพรทิพย์" เมื่อไล่ย้อนหลังทราบว่าป.ป.ช.ได้ตั้ง คณะอนุขึ้นมาตรวจสอบตั้งแต่ปี 53-55 ประมาณนั้น แล้วก็มีสองอนุฯ  แล้วสองอนุฯก็ตั้งแล้วก็เขาก็บอกว่าไม่ใช่ความผิดของคนซื้อแต่ว่าเป็นการหลอกลวงของบริษัทที่ขาย แล้วประธานอนุฯก็เป็นอดีตผู้พิพากษาด้วย ประเด็นสำคัญคือสังคมต้องรู้เรื่องนี้ว่าป.ป.ช.ต้องชี้แจ้งให้ได้ว่าเื่องจากผู้ถูกกล่าวหามากที่สุดของประวัติศาสตร์ป.ป.ช.ไทยคือประมาณ 300 คน เขาทำมาตั้งแต่ 53 จนถึง 63 แล้วอยู่ๆก็มีการตั้งอนุไต่สวนขึ้นใหม่โดยพฤศจิกายน 63 ตั้งป.ป.ช.ที่ชื่อ"คุณสุชาติ"เป็นประธาน ป.ป.ช.คนนี้เพิ่งเข้าแล้วก็ใช้เวลา 4 เดือนชี้มูลแล้ว คุณเอาข้อมูลอะไรบ้างแล้วทำไมเปลี่ยนม้ากลางทาง แล้วคุณจะรู้ข้อมูลทั้งหมดของ 300 คนมั้ย ให้ความเป็นธรรมได้ครบจริงมั้ยนอกจากจะฟังลูกน้องเฉยๆ ตรงนี้มันเป็นความน่าแปลก แล้วเอาผลของสองอนุมาใช้มั้ย

"วราวิทย์" แล้วทำไมมันถึงไม่จบ พอมาปี 63 ตั้งอนุไต่สวนขึ้นมา คุณหมอต่อจิกซอว์ตรงนี้ได้ถูกหรือยัง ว่าเกิดอะไรขึ้น

"หมอพรทิพย์" ต่อไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าต่อได้เป๊ะแล้วว่า 2554 อนุที่ตั้งชื่อ"วิชัย วิชิตเสรี" ต่อมา 2557 ตั้งอนุขึ้นมาชื่อ"นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร" เห็นเหมือนกันก็คือ 300 คนไม่ผิดแต่ว่าบริษัทหลอก คำถามคือทำไม 63 ถึงเปลี่ยนประธานเป็น"คุณสุชาติ"ซึ่งเพิ่งเข้า แล้วพอเพิ่งเข้ามาคุณจะรู้หรอ 300 คน ใช้เวลาอยู่ 4 เดือนเป็นไปได้ยังไงชี้มูลว่าเราผิดอันนี้ คือเรากำลังพูดเรื่องกระบวนการยุติธรรมต้องเป็นธรรมเพราะไม่งั้นมันทำร้ายคน คือถ้ามันใช้ผลของอนุจะไม่ว่าเลย แต่ไม่ใช้ผลของอนุทั้งสองเลย มาเอาผลใหม่เลยได้ยังไงเหมือนเริ่มใหม่แล้วใช้เวลา 3-4 เดือน

ชมคลิป >>>  ชวนคิด ป.ป.ช.คุ้ยคดีฟ้อง"คุณหญิงพรทิพย์" 

logoline