กกต.ออกประกาศให้ "พรรคเพื่อแผ่นดิน"สิ้นสภาพความเป็น"พรรคการเมือง"

14 มีนาคม 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา"ราชกิจจาฯ" เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง "พรรคเพื่อแผ่นดิน"สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง

ตามที่นายทะเบียนพรรคการเมืองโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีประกาศ นายทะเบียนพรรคการเมือง ลงวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๐ เรื่อง รับจดแจ้งการจัดตั้งพรรคเพื่อแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ นั้น

"พรรคเพื่อแผ่นดิน"ไม่มีการประชุมใหญ่พรรคการเมืองหรือไม่มีการดำ เนินกิจกรรมใดทางการเมือง เป็นระยะเวลาติดต่อกันหนึ่งปีโดยมิได้มีเหตุอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย เนื่องจากกรรมการบริหาร พรรคเพื่อแผ่นดินได้ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินทั้งคณะ

ทำให้กรรมการบริหาร"พรรคเพื่อแผ่นดิน" พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะตามข้อบังคับพรรคเพื่อแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑ (ฉบับที่ ๑/๒๕๖๑) ข้อ ๒๕ วรรคหนี่ง (๒) และ (๓) ประกอบข้อ ๒๔ วรรคหนึ่ง (๓) เป็นเหตุให้กรรมการบริหาร พรรคเพื่อแผ่นดินพ้นจากสมาชิกภาพพรรคเพื่อแผ่นดินทั้งหมด จึงไม่สามารถอยู่ปฏิบัติหน้าที่ได้ตามข้อบังคับ พรรคเพื่อแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑ (ฉบับที่ ๑/๒๕๖๑) ข้อ ๒๕ กรณีจึงเป็นเหตุให้พรรคเพื่อแผ่นดิน สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองตามมาตรา ๙๑ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐

คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงประกาศให้พรรคเพื่อแผ่นดินสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา ๙๑ วรรคหนึ่ง (4) และวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย พรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖

อิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง

สำหรับพรรคเพื่อแผ่นดิน ถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีความผูกพันทางการเมืองมานาน โดยมีนักการเมืองคนสำคัญระดับตำนาน  ทั้งนี้ พรรคเพื่อแผ่นดินได้ก่อตั้งในกลางปี พ.ศ. 2550 มี"นายสุวิทย์ คุณกิตติ" เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก เป็นพรรคการเมืองที่เคยได้รับเลือกตั้งมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสภาผู้แทนราษฎร 1 สมัย

ในช่วงก่อตั้ง "นายสุวิทย์ คุณกิตติ" เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก ยุทธศาสตร์หาเสียงของพรรคคือ "นำรอยยิ้มกลับสู่สังคมไทย" มีอดีต ส.ส.ภาคอีสานเป็นสมาชิก เช่น กลุ่มของพินิจ จารุสมบัติ ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ วัฒนา อัศวเหม โสภณ เพชรสว่าง กลุ่มอดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร ในกลุ่มกรุงเทพ 50 ของ"สุรนันท์ เวชชาชีวะ" รวมทั้งกลุ่มบ้านริมน้ำของสุชาติ ตันเจริญ และกลุ่มทางภาคเหนือของกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ อีกด้วย ในส่วนของกลุ่มบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นนักการเมืองมาก่อน แต่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคด้วยก็ได้แก่ นายสุระ แสนคำ หรือ เขาทราย แกแล็คซี่ อดีตแชมป์โลกชาวไทย และ นาวาอากาศตรีปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นต้น

ต่อมาในเดือนเมษายน พ.ศ. 2554 ผู้บริหารของ"พรรครวมชาติพัฒนา" และ"พรรคเพื่อแผ่นดิน" ได้ประกาศรวมตัวกันและตั้งพรรคใหม่ขึ้น ชื่อว่า "พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน" โดยสมาชิกของพรรคเพื่อแผ่นดินจำนวนมาก โดยเฉพาะอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ลาออกจากพรรคเพื่อแผ่นดินและสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมชาติพัฒนา

กลางเดือนธันวาคม2556 กรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดินมีมติให้ ศาสตราจารย์ ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เป็นหัวหน้าพรรค และนำสมาชิกพรรคสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ในนามพรรคเพื่อแผ่นดิน เบอร์ 53

ต่อมาในวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 พรรคเพื่อแผ่นดินได้จัดการประชุมใหญ่สามัญพรรคเพื่อแผ่นดิน ครั้งที่ 1/2563 ที่โรงแรมเชียงใหม่ออร์คิด จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหมจำนวน 12 คนพร้อมกับเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์พรรคซึ่งที่ประชุมมีมติเลือก"นายประมวล เอมเปีย" อดีตรองโฆษก พรรคประชาธิปัตย์ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ พร้อมกรรมการบริหารพรรคอีก 11 คน (ขอบคุณข้อมูลจาก:วิกีพีเดีย) 

กระทั่งในปี 2566 นายทะเบียนพรรคได้ตรวจสอบพบว่า "พรรคเพื่อแผนดิน" ไม่มีการดำเนินกิจกรรมใดทางการเมือง เป็นระยะเวลาติดต่อกันหนึ่งปีโดยมิได้มีเหตุอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย  จึงมีผลให้สิ้นสภาพความเป็น"พรรคการเมือง" 

คลิกอ่านฉบับเต็ม>>>

ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง พรรคเพื่อแผ่นดินสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง