พลันที่"ศาลรัฐธรรมนูญ" มีมติเอกฉันท์ ชี้ขาด คำว่า "ราษฎร" ไม่หมายรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย จึงส่งผลกระทบต่อการคำนวณจำนวน ส.ส.ในบางพื้นที่เพิ่มขึ้น และลดลง
ล่าสุด"คณะกรรมการการเลือกตั้ง" (กกต.) ออกประกาศการแบ่งเขตใหม่ โดยไม่นำราษฎรไม่ถือสัญชาติไทยมาคำนวณ ประกาศลงราชกิจจาฯนุเบกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากโฟกัสไปที่ผลกระทบจากการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ พบ 4 จังหวัดได้ส.ส.เพิ่มขึ้น ขณะที่อีก 4 จังหวัดมีส.ส.ลดลง
ที่น่าสนใจโซนภาคเหนือ "จังหวัดเชียงราย" และ"จังหวัดเชียงใหม่" ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งความหวังของพรรคการเมืองใหญ่ ติดกลุ่ม ส.ส.ลดลง โดย "เชียงราย" จาก 8 เหลือ 7 ที่นั่ง ขณะที่ "เชียงใหม่ " จาก 11 เหลือ 10 ที่นั่ง
นั่นหมายความว่า พื้นที่เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย เชียงราย-เชียงใหม่ มี ส.ส.หายไป 2 คน 2 เขต ทำให้กระทบแผนแลนด์สไลด์ภาคเหนือตอนบน ของพรรคเพื่อไทย
ก่อนหน้านี้ "ยงยุทธ ติยะไพรัช" บ้านใหญ่แม่จัน เพิ่งดันลูกสาว โฮม ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช มีชื่อเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรค พท. เมื่อต้นเดือน ก.พ.2566 คงต้องกุมขมับ หลังทราบผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
"ยงยุทธ" ตั้งใจจะให้ "โฮม" ปิยะรัฐชย์ ลงสมัคร ส.ส.เชียงราย เขต 2 (อ.เมืองเชียงราย ,อ.แม่ลาว และ อ.เวียงชัย) ซึ่งเป็นเขตใหม่ ที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 7 เขต
อย่างไรก็ตาม แกนนำ พท. ได้เตรียมการไว้ระดับหนึ่ง อาจต้องขยับผู้ได้รับผลกระทบจากการแบ่งเขตใหม่ขึ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ
"คอลัมน์ท่องยุทธภพ" โดย "ขุนน้ำหมึก" คมชัดลึกออนไลน์ในเครือเนชั่น ให้ข้อมูลถึงความเคลื่อนไหว บ้านใหญ่ติยะไพรัช ไว้อย่างน่าสนใจ โดยระบุว่า เมื่อปลายปีที่แล้ว "ยงยุทธ" ประกาศแยกทางกับ ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พร้อมกับดันลูกสาวคนเล็ก "ฮาย" ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ประธานสโมสรฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ด เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อชาติคนใหม่
ผู้คนแถวแม่จัน ก็สงสัยว่า "โฮม" ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ จะไปอยู่ตรงไหน เนื่องจากพื้นที่เชียงราย พรรค พท.ก็จัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ไปแล้ว
กลางปี 2566 พรรค พท.ประกาศส่ง "ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธานามณี" ลูกชายของรัตนา จงสุทธานามณี ลงสมัคร ส.ส.เชียงราย เขต 1 ปรากฏว่าได้เกิดแผ่นดินไหวเล็กๆ แถวสนามฟุตบอลสิงห์เชียงราย
ใครก็ทราบดีว่า ยงยุทธ ติยะไพรัช ขับเคี่ยวกับรัตนา จงสุทธานามณี ในศึกเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย มาหลายรอบ กระทั่งต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ถือว่าเป็นบาดแผลในใจของทั้งสองฝ่าย
กระทั่งวันที่ 7 ส.ค.2565 "อุ๊งอิ๊งค์" แพทองธาร ไปเปิดเวทีปราศรัยที่เชียงราย ตอนหนึ่งได้กล่าวขอบคุณ"ยงยุทธ ติยะไพรัช" ว่า เป็นน้องรักคุณพ่อ เป็นหลักทางภาคเหนือ ทำให้เรามีที่พึ่งพิง และเป็นผู้แทนที่ก้าวข้ามผ่านความขุ่นเคืองในใจของตัวเอง
ช่วงต้นปี 2566 คนแถวเชียงราย ได้ข่าวว่า "ยงยุทธ" จะส่งลูกสาว "โฮม" ปิยะรัฐชย์ ลงสนามเขต 2 ในสีเสื้อพท. ซึ่งเป็นเขตใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา โดยการสนับสนุนของคนแดนไกล
เมื่อสนามเชียงราย ส.ส.ลดกลับไปเท่าเดิม 7 เขต "ค่ายอุ๊งอิ๊งค์"จะเอาลูกสาวบ้านใหญ่แม่จัน ไปไว้ตรงไหน ถ้าเป็นบัญชีรายชื่อ "ยงยุทธ"คงดูว่า ลำดับที่เท่าไหร่
แบ่งเขตใหม่ อาฟเตอร์ช็อก ถึง"เชียงใหม่"
กรณี ส.ส.ลดลง 1 คน ไม่กระทบแค่ "ยงยุทธ" บ้านใหญ่เชียงราย ทางฝั่งเชียงใหม่ หลายคนจับตาอนาคต "หมอไกร ดาบธรรม"
แกนนำพรรค พท. ตามจีบ "นพ.ไกร ดาบธรรม" อดีต ส.ส.เชียงใหม่ อยู่นานกว่าจะได้คำตอบ และเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายของผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ 11 เขต
"หมอไกร" มีฐานเสียงหนาแน่นอยู่ใน อ.แม่อาย เพราะเคยเป็น ผอ.รพ.แม่อาย เคยได้รับรางวัลแพทย์ชนบทดีเด่นมูลนิธิแพทย์ชนบท ปี 2537 และแพทย์ชนบทดีเด่น ศิริราชพยาบาล ปี 2540
ปี 2549 หมอไกร ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ว.เชียงใหม่ และปี 2550 ได้ลงสมัคร ส.ส.เชียงใหม่ สังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ปรากฏว่า "หมอไกร"แหกด่านค่ายทักษิณเข้าสภาฯ ได้สำเร็จ
สมัยที่แล้ว "หมอไกร" ลงสนามเชียงใหม่ สวมเสื้อภูมิใจไทย แต่สอบตก ก่อนจะย้ายมา"เพื่อไทย" เมื่อสนามเชียงใหม่ ส.ส.ลดลงเหลือ 10 เขต ย่อมกระทบผู้สมัคร ส.ส.เขต11 ซึ่ง"หมอไกร"จะยอมขึ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือไม่