สำหรับ นครสวรรค์ เป็นอีกจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง ที่มีส.ส.ได้ทั้งหมด 6 คน โดยผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคพลังประชารัฐกวาดมาได้จำนวน 4 ที่นั่ง คือ นายภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.นครสวรรค์ เขต1 ,นายวีระกร คำประกอบ เขต 2 ,นายสัญญา นิลสุพรรณ เขต 3 ,นายนิโรธ สุนทรเลขา เขต 6
ขณะที่ เขต 4 ตกเป็นของ นายมานพ ศรีผึ้ง จากพรรคภูมิใจไทย และเขต 5 เป็นของนายทายาท เกียรติชูศักดิ์ จากพรรคเพื่อไทย
นายวีระกร คำประกอบ ได้ประกาศกลางสภา ขอลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. พร้อมกับให้ข้อมูลด้วยว่า ทราบมาว่า นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ เขต 6 ประธานวิปรัฐบาล และนายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 3 จะย้ายไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ
เท่านั้นยังไม่พอ มีรายงานว่า "นายภิญโญ นิโรจน์" ส.ส.นครสวรรค์ เขต 1 พรรคพลังประชารัฐมีแนวโน้มสูงที่จะวางมือทางการเมือง โดยจะส่งบุตรสาวลงสมัครรับเลือกตั้งแทน แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น "นายภิญโญ" ต้องการส่งบุตรสาว สวมเสื้อ"พรรคภูมิใจไทย"
นั่นหมายความว่า 4 ส.ส.พลังประชารัฐเมืองปากน้ำโพ กระจายแยกย้ายไปสังกัดพรรคอื่นหมดเกลี้ยง แบ่งเป็น รวมไทยสร้างชาติ จำนวน 2 คน คือ นายนิโรธ สุนทรเลขา และ นายสัญญา นิลสุพรรณ และ พรรคภูมิใจไทย จำนวน 2 คน ได้แก่ นายวีระกร คำประกอบ และนายภิญโญ นิโรจน์ (ส่งบุตรสาว)
พร้อมกันนี้ นายวีระกร คำประกอบ มีกำหนดการเปิดตัวเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย ในวันพรุ่งนี้ ( 11 มกราคม 2566 ) ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย
บนถนนการเมืองเลือกตั้ง 66 นับเป็นความยากลำบากของ “ลุงป้อม” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะต้องเฟ้นหาผู้สมัครระดับพรีเมียมลงประชันกับบรรดา “บิ๊กเนม” เจ้าของพื้นที่ที่ย้ายไปสวมเสื้อพรรคอื่น “รทสช.-ภท.” หากพิจารณา ส.ส.รุ่นเก๋า “วีระกร คำประกอบ” เข้าสังกัด พรรคภูมิใจไทย หรือ “ภิญโญ นิโรจน์” เล็งส่ง “บุตรสาว” สวมเสื้อพรรคภูมิใจไทย ย่อมเท่ากับ “พรรคภูมิใจไทย” ได้ “บิ๊กเนม” รวมกับ “มานพ ศรีผึ้ง” เจ้าของพื้นที่เขต 4 จากพรรคภูมิใจไทย เติมเต็มเป็นสามผู้สมัครแกร่ง 3 เขต จาก ทั้งหมด 6 เขต ในศึกเลือกตั้ง 66 บนสมรภูมิปากน้ำโพ