เปิดขุนพล! “บิ๊กตู่” สู้ศึกเลือกตั้ง 66 โจทย์ใหญ่ “นายกฯ” อีกสมัย

ถือฤกษ์งามยามดี “บิ๊กตู่” เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ไปแล้วยิ่งใหญ่อลังการ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ชื่อ “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” ประชาชนนับหมื่นแห่ร่วมงานถือป้ายให้กำลังใจ “เรารักลุงตู่ ลุงตู่สู้ๆ อย่างคึกคัก 

มีบรรดาแกนนำร่วมให้การต้อนรับเช่น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. / นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค  / นายชัชวาลล์ คงอุดม / นายชื่นชอบ คงอุดม / นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี /  นายสุชาติ ชมกลิ่น  / นายธนกร วังบุญคงชนะ / นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ / นายสายันต์ ยุติธรรม / พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง

ไฮไลต์พุ่งเป้าไปที่ “บิ๊กตู่” กล่าวสุนทรพจน์ Mission และทิศทางก้าวต่อไป เพื่อคนไทยทั้งชาติ  ประกาศลั่นพร้อมสู้ในกระบวนการประชาธิปไตย ยืนยันจะทำเพื่อควาเจริญก้าวหน้าของประเทศ ประเทศไทยต้องไปต่อ โยนประชาชนตัดสิน พร้อมการเปิดตัวทีมสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ “คนรุ่นใหม่” และ “คนรุ่นใหญ่” 

โดยมีนักการเมืองมาร่วมงาน แบ่งเป็นกลุ่มที่สนับสนุน “บิ๊กตู่” ที่เป็นทั้งอดีตพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต กปปส. มีทั้ง น.ส.รังสิมา รอดรัศมี  / นายเจือ ราชสีห์  / นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู / นายสุพล จุลใส  / นายชุมพล จุลใส / นายถาวร เสนเนียม  / นายวิทยา แก้วภราดรัย  /

ซึ่งการเปิดตัวของ “บิ๊กตู่” ครั้งนี้ จะเป็นย่างก้าวโจทย์ใหญ่ทำให้คนอยากรู้ว่า “บิ๊กตู่” จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหรือไม่ บรรดากองเชียร์ก็อยากให้กลับมาเป็นใหม่ ส่วนฝ่ายที่ไม่เชียร์ก็บอกว่าควรหยุดได้แล้ว 

หากตรวจสอบเบื้องต้น ส.ส. ที่เดินทางให้กำลังใจ คาดว่าจะขุนพลเคียงบ่าเคียงไหล่  “บิ๊กตู่” สู้ศึกเลือกตั้งหนีไม่พ้น “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน  ส.ส. ชลบุรี ซึ่งถูกวางตัวให้เป็นแม่ทัพคุมพื้นที่ภาคตะวันออก และพื้นที่ภาคกลาง ยกทีม ส.ส. ในกลุ่ม 15 คน มาให้กำลังใจ “บิ๊กตู่”  พกความมั่นใจเต็มเปี่ยม จะนำทุกคนกลับมาเป็น ส.ส.อีกสมัย  เพราะเชื่อในเรตติ้ง “บิ๊กตู่” 

ส.ส.กทม.อีก 2 คนคือ ประสิทธิ์ มะหะหมัด ส.ส. กทม /  ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม. พ่วงมากับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พิชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ส่วน ส.ส.ซุ้มของ “หิมาลัย ผิวพรรณ” ก็มี สัญญา นิลสุพรรณ  ส.ส.นครสวรรค์ / สุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร / มานัส อ่อนอ้าย ส.ส.พิษณุโลก

ขณะที่ ส.ส.ภาคใต้ซึ่งอยู่ในการดูแลของ “ธนกร วังบุญคงชนะ” ได้แก่ พยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา / ศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา / ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา / อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช / สายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช / อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา 

ส่วนสายของ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ก็จะดึง ส.ส. จากค่าย “ประชาธิปัตย์” มาคือ พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช / วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฏร์ธานี / สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม / รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม

รวมถึง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 คนคือ ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู และเจือ ราชสีห์ ส่วนอดีต ส.ส.พรรคเก่าแก่ที่เปิดตัวไปแล้วก็มีมากกว่า 5 คน

นอกจากนี้ สุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรครวมพลัง ก็แสดงตัวชัดเจนมานานแล้วว่าหนุนพรรค “บิ๊กตู่” พร้อมกับทีมงานบ้านใหญ่ปักษ์ใต้

ขณะที่พรรคพลังท้องถิ่นไท อย่าง ชัชวาลล์ คงอุดม / นพดล แก้วสุพัฒน์ ลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อเรียบร้อยแล้ว และยังมี ส.ส.อีก 3 คน ดูเหมือนจะตามมาสมทบที่ รทสช. อีก

ขณะเดียวกัน ยังมีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอย่างน้อย 5 จังหวัด ตามมา จะมีส่วนสำคัญขับเคลื่อนเลือกตั้ง เพราะนายก อบจ. เป็นคนทั้งจังหวัดเลือกมา หากมาอยู่กับ รทสช. ก็มีโอกาสได้เป็น ส.ส. แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะคนที่เลือกให้เป็น นายก อบจ. กับเลือกให้เป็น ส.ส. ประชาชนอาจมีแนวคิดไม่เหมือนกัน 

เมื่อนับรวมแล้ว รทสช. อาจมี ส.ส. มากกว่า 30 คน และยังมี ส.ส. อีกจำนวนหนึ่งยังไม่เปิดตัว เพราะรอจังหวะที่เหมาะสม บวกกับนักการเมืองท้องถิ่น ทำให้การคาดการณ์ที่จะได้ ส.ส. อย่างน้อย 25 ที่นั่ง ไม่ไกลเกินเอื้อม ถึงจะมีโอกาสเสนอชื่อ “บิ๊กตู่” เป็นนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง

แต่ตัวเลข ส.ส. 25 ที่นั่งคงไม่พอ เพราะตัวเลข ส.ส. ที่ รทสช. ได้ต้องไม่ขี้เหร่ ต้องสง่างาม ถึงจะเสนอชื่อ “บิ๊กตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี ได้อย่างชอบทำไร้ข้อกังขา

ซึ่งต้องดูว่า ส.ส.ที่ย้ายไปอยู่ รทสช. เดิมได้เป็น ส.ส. เพราะชาวบ้านเลือกพรรคหรือเลือกคน ขณะที่แกนนำใน รทสช. ก็ประเมินไว้เยอะ ว่าจะได้ ส.ส. เกิน 100 ที่นั่ง เหตุผลเพื่อสร้างความฮึกเหิม  สร้างความมั่นใจให้ และเพื่อเป็นการตัดไม้ข่มนาม ให้คนที่คิดย้ายเข้ามา มีความคึกคักมีพลังที่จะสู้ และประเมินให้สูงไว้เพื่อจะสร้างความมั่นใจให้บรรดานายทุน ให้มาสนับสนุนพรรค ว่ามีโอกาสได้เป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง  ขณะที่คอการเมืองฝ่ายตรงข้ามก็ประเมินว่าได้ ส.ส. 30 ที่นั่งก็เก่งแล้ว

นี่คือวัฏจักรการเมืองไทย ความฝันของนักการเมืองหวังจะได้เป็นผู้แทน สุดท้ายแล้วต้องรอพิสูจน์วันเข้าคูหาเลือกตั้ง ประชาชนทั่วประเทศจะเป็นคนกำหนด