โบราณว่า "จิ้งจกทัก" ต้องพึงระวัง ขนาดจะก้าวเท้าออกจากบ้านยังคำนึง จะก้าวเท้าขวาหรือซ้ายก่อนกัน ยิ่งสำหรับคนที่จะก้าวไปสัมผัสสิ่งใหม่ๆให้เป็นไปด้วยความราบรื่น
ฉันใดก็ฉันนั้น "พรรครวมไทยสร้างชาติ" ออกมาประกาศผ่านสื่อ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐนตรีและรมว.กลาโหม เตรียมเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพร้อมเปิดตัวใน"วันที่ 9 มกราคม" ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตรงนี้หล่ะจึงเป็นอะไรที่ฝ่ายตรวจสอบออกมาทำนายทายทักซ่อนแทรกด้วยการตรวจสอบ "พล.อ.ประยุทธ์" แบบเก็บรายละเอียดทุกเม็ดทุกวินาที
"วันจันทร์ที่ 9 มกราคมนี้ นายกฯก้าวเท้าออกจากทำเนียบรัฐบาลก่อน 16.30 น. หรือไม่ มิฉะนั้นจะเข้าข่ายใช้เวลาของทางราชการไปหาเสียง การเดินทางไปศูนย์สิริกิติ์ มีรถตำรวจนำหรือไม่ และในงานที่มีมวลชนมาร่วมจำนวนมาก มีเลี้ยงน้ำ เลี้ยงอาหาร ถือว่าเป็นการจัดเลี้ยงหรือไม่"
"สมชัย ศรีสุทธิยากร" อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความเตือนไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน
ไม่เพียงแต่"สมชัย ศรีสุทธิยากร"ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวเป็นสมาชิกพรรคเสรีรวมไทย พรรคขั้วตรงข้าม"ลุงตู่" เท่านั้น
ล่าสุด "จอมแฉ" ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาแถลงกรณีที่ "พล.อ.ประยุทธ์" จะเปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้วยการตั้งข้อสังเกตทำไมถึงไปเปิดตัวที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 50 ปี เป็นการเอื้อเจ้าสัวกลุ่มทุนหรือไม่
"พล.อ.ประยุทธ์ เช่าสถานที่หรือใช้สถานที่ฟรี จึงมองว่านายกฯ อาจมีอะไรกับเจ้าสัวหรือไม่ พร้อมฝากกกต. ดำเนินการตรวจสอบด้วย เพราะอาจมีการเลี้ยงอาหารเครื่องดื่ม ซึ่งตอนนี้นักการเมืองก็ยังไม่กล้าทำเลย"
"ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร" ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงเมื่อ 8 มกราคม 2566
เพราะด้วยความเป็นข้าราชการการเมือง เพราะด้วยสถานะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วงคาบเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่กำลังมาถึง จังหวะก้าวของคนชื่อ"ประยุทธ์" จึงต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวัง
เมื่อสภาพการณ์ในวันที่ 9 มกราคม สถานะของพล.อ.ประยุทธ์ จะเปลี่ยนไป เป็นนักการเมืองเต็มตัว เป็นนักการเมืองที่อยู่ภายใต้การสังกัด"พรรครวมไทยสร้างชาติ"
ทุกอย่างมีได้ย่อมมีเสีย "พล.อ.ประยุทธ์" ได้พรรคการเมืองมาเป็นของตนเองมีทีมงานที่สั่งได้ (ไม่เหมือนพี่ใหญ่ และพลพรรคพลังประชารัฐ) แต่ "พล.อ.ประยุทธ์"จะเสียสถานะการลอยตัวอยู่เหนือการเมืองไปเลย และต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากฝ่ายตรงข้าม
การปรับเกมตาม "สไตล์ประยุทธ์" จึงเกิดขึ้น เรื่องนี้ "เอกนัฏ พร้อมพันธุ์" เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ถึงกับออกมาย้ำว่า ไฮไลต์สำคัญของการเปิดตัวอยู่ในช่วงเวลา 17.30-18.00 น. (นอกเวลาราชการแน่นอน)โดย "พล.อ.ประยุทธ์" จะขึ้นเวทีพูดคุยกับสมาชิกพรรค และบรรดาแฟนคลับ ถึงเหตุผลและความในใจต่อการตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ
ยืนยันว่า วันที่ 9 มกราคม "พล.อ.ประยุทธ์" จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคเท่านั้น และยังไม่มีการประกาศในตำแหน่งอื่นๆ เพราะยังไม่มีการประชุมพรรค
ข้อมูลจาก "เอกนัฏ" สอดคล้องกับที่ทีมข่าวเนชั่นสืบทราบมาว่า การใช้"ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์" เป็นสถานที่เปิดตัว เพราะจะมีมวลชนไปเชียร์นายกฯกว่า 5,000 คน โดยพล.อ.ประยุทธ์ จะกล่าวสุนทรพจน์ โดยในจำนวนนี้ ไม่รวม ส.ส.ที่จะไปร่วมแสดงความยินดี แต่จะยังไม่ลาออก เพราะยังไม่จำเป็น
ไทม์ไลน์ของ"พล.อ.ประยุทธ์"จะเป็นแบบนี้
1. วันที่ 9 มกราคม จะมี ส.ส.ไปร่วมงานจำนวนมาก แต่จะยังไม่ลาออกเพื่อเปิดตัวเข้ารวมไทยสร้างชาติอย่างเป็นทางการ เพราะนโยบายของนายกฯ คือ ให้เปิดตัวหลังสิ้นสมัยประชุมสภา 28 กุมภาพันธ์เท่านั้น เพื่อให้สภาทำงานได้ สภาไม่ล่ม หวังต้องการสะท้อนภาพออกไปในความเป็นผู้นำฝ่ายบริหารมีความห่วงใยงานนิติบัญญัติ
2.นายกฯจะยุบสภาราวๆ เดือนมีนาคม โดยไม่เลือกราชาฤกษ์ 14 กุมภาพันธ์
3.จากข้อ 2 บรรดา ส.ส.ที่จะย้ายพรรคมาร่วมงานกับ"รวมไทยสร้างชาติ" จึงไม่ต้องกลัวเส้นตาย 7 กุมภาพันธ์ กรณีอยู่ครบวาระ เพราะนายกฯยุบสภาแน่ เพื่อให้ย้ายเข้า"พรรครวมไทยสร้างชาติ"ได้ในช่วงเดือนมีนาคม และไม่กระทบกรอบเวลาการสังกัดพรรคเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง
4.ไม่มียุบสภาหนีอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติของฝ่ายค้าน เพราะนายกฯไม่เคยกลัว แถมจะถือโอกาสใช้เวลาชี้แจงแถลงผลงานให้ประชาชนทราบ
นอกจากนั้น กลางเดือนมกราคม หลังสมัครเป็นสมาชิก"พรรครวมไทยสร้างชาติ" นายกฯ จะไปตรวจราชการที่จังหวัดสกลนคร แต่ได้สั่งห้ามไลฟ์สดผ่านเพจไทยคู่ฟ้า และไม่มีการไลฟ์สดแบบพูลอีกแล้ว เพราะต้องระวังไม่ให้ถูกร้องเรียน
สะท้อนว่าทีมงานของ"พล.อ.ประยุทธ์" ระมัดระวังกันเต็มที่
ในเมื่อ "พล.อ.ประยุทธ์ "ประกาศลั่น พร้อมจะเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนทำงานเพื่อประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญ
ฉะนั้น นับจากนี้ไป ทุกย่างก้าวต้องพร้อมเผชิญด่านตรวจสอบอย่างเข้มข้นในสนามเลือกตั้ง66 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้