svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"คอร์รัปชัน"มะเร็งร้ายเกาะกินภาวะเศรษฐกิจไทย โดย "รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ"

08 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คอร์รัปชันในระบบราชการ ฉุดภาวะเศรษฐกิจ เสนอใช้ภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ ตั้งกองทุนแก้วิกฤติคอร์รัปชัน  สร้างความเข้มแข็งภาคประชาสังคมสู้ปัญหาทุจริตในระบบราชการ  ติดตามในเจาะประเด็นโดย "รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ"

"รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ" นักเศรษฐศาสตร์ และ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความเข้มแข็งของภาคประชาสังคม ภาคสื่อมวลชน ภาควิชาการ ภาคธุรกิจ จะช่วยทำให้การแก้ไขปัญหาวิกฤติทุจริตคอร์รัปชันเป็นจริง เพื่อให้การขับเคลื่อนของภาคส่วนต่างๆตามที่กล่าวมาสามารถต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันได้อย่างเต็มที่ มีความต่อเนื่องและหวังผลได้ จำเป็นต้องมีระบบสนับสนุนทางงบประมาณ

 

จึงขอเสนอให้มีการเก็บภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ (Earmarked Tax) ขึ้นมาเพื่อจัดตั้งกองทุนต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เช่นเดียวกับ กองทุน สสส ของ ขบวนการปฏิรูประบบสุขภาพแห่งชาติ และ องค์การกระจายเสียงและเผยแพร่ภาพแห่งประเทศไทย หรือ ไทยพีบีเอส ในการทำหน้าที่สื่อสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนและสังคมโดยปราศจากอิทธิพลของอำนาจทุนและอำนาจทางการเมืองแทรกแซงในการทำหน้าที่

หรือนำเอานำเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกยึดจากกรณีทุจริตมาเป็นงบประมาณสนับสนุนก็ได้กองทุนต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันจะเป็นกลไกในการบูรณาการการทำงานระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสื่อมวลชน ภาควิชาการ และ ภาคประชาสังคม ได้ดีกว่า กลไกของ ปปช ที่มีอิทธิพลของการเมืองและราชการครอบงำอยู่ ไม่เป็นอิสระ หรือ เป็นกลางอย่างแท้จริง การดำเนินการของ ป.ป.ช. อาจเกิดการเลือกปฏิบัติได้เสมอ

 

นอกจากนี้ระบบการประเมินผล ITA ของ ป.ป.ช. ยังขาดความน่าเชื่อถืออย่างมาก โดย กองทุนต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันนี้ต้องอยู่นอกสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นองค์กรที่ต้องเป็นอิสระจากอิทธิพลทางการเมือง มีความเป็นกลางทางการเมือง และ สามารถให้ความเป็นธรรมต่อทุกคนได้  หรือหากเกรงว่า การใช้เก็บภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะจะเกิดความสุ่มเสี่ยงต่อประเด็นวินัยทางการคลัง ก็ขอเสนอให้นำเอานำเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกยึดจากกรณีทุจริตคอร์รัปชันมาเป็นส่วนหนึ่งมาจัดตั้งกองทุน ความจริงแล้ว ภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะนั้น หากออกแบบให้ดีตั้งแต่แรก จะทำให้เกิดความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการใช้เงินภาษีและเงินสาธารณะ

"รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ" กล่าวต่อว่า ต้องใช้พลังความรู้ ข้อมูลและความจริงเป็นแกนกลางในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทยโปร่งใสขึ้น ระบบการเมืองและระบบราชการมีธรรมาภิบาลมากขึ้น ต้องสร้างให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันของเครือข่ายทางสังคมอย่างกว้างขวางโดยผ่านการเคลื่อนไหวทางปัญญาที่ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมด้วยกระบวนการประชาธิปไตย

 

การเคลื่อนไหวขับเคลื่อนนี้ต้องนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงในระดับจิตสำนึกและวัฒนธรรมของสังคม โดยเฉพาะในสังคมของข้าราชการและนักการเมือง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงจากระบบรวมศูนย์เป็นระบบกระจายอำนาจ ทำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนจากแนวดิ่งมาเป็นแนวราบ การผลักดันการต่อต้านการทุจริตต้องนำไปสู่การเอาจริงเอาจังทางนโยบาย 


"รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ" นักเศรษฐศาสตร์ ได้ให้ความเห็นต่อว่า การกระจายอำนาจต้องทำอย่างครอบคลุมทุกประเภท ทั้งกระจายอำนาจทางการเมือง (Political Decentralization) การกระจายอำนาจทางการบริหาร (Administration Decentralization) การกระจายอำนาจทางการคลัง (Fiscal Decentralization)

 

นอกจากนี้ ต้องมีการกระจายอำนาจที่มีลักษณะเข้มข้นสูงสุดจึงลดปัญหาคอร์รัปชันในระดับกรม (อธิบดี) ในระดับกระทรวง (ปลัดกระทรวงหรือรัฐมนตรี) ได้ ต้องไม่ใช่แค่แบ่งอำนาจ (Deconcentration) หรือไม่ใช่แค่การมอบหมายให้ทำแทน (Delegation) แต่ต้องเป็นการถ่ายโอนอำนาจให้จริงๆ (Devolution)

 

ค่อนข้างประจักษ์ชัดว่า รัฐธรรมนูญปี 60 นั้นเป็นอุปสรรคต่อการกระจายอำนาจ รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงปี 60 นอกจากไม่สามารถปราบโกงได้แล้ว ยังทำให้เกิดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันมากกว่าเดิมดั่งที่ปรากฎเป็นข่าวอยู่เป็นระยะๆ องค์กรอิสระภายใต้รัฐธรรมนูญก็ไม่มีความเป็นกลางทางการเมืองและยังไม่ยึดโยงกับประชาชน ไม่มีที่มาจากประชาชน แตกต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 และ ปี 50

 

"รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ"  นักเศรษฐศาสตร์ และ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า หากเราไม่มีการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและใสสะอาด ไม่สามารถหยุดการซื้อ ส.ส. เข้าพรรค หรือใช้เงินจำนวนมากในการซื้อเสียงและการรณรงค์เลือกตั้ง เราย่อมไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในปัญหาวิกฤติคอร์รัปชันได้ การเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมืองแนวใหม่ต้องนำไปสู่เครือข่ายที่กว้างขวางมากพอจนเกิดกระแส การลงโทษต่อข้าราชการระดับสูงและนักการเมืองผู้ทุจริตได้จึงนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า

 

"เครือข่ายประชาสังคม"ต้องสามารถสร้างกระแสกดดันให้สามารถถอดถอนข้าราชการระดับสูง ตำรวจหรือผู้นำกองทัพผ่านกระบวนการทางกฎหมายได้ หรือ สามารถเปลี่ยนแปลงผู้นำทางการเมืองโกงผ่านระบบเลือกตั้งอย่างสันติ และ ต้องไม่กลายเป็นเงื่อนไขสร้างความชอบธรรมให้มีการรัฐประหาร   


"ดร. อนุสรณ์" กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวต่อเนื่อง กระแสเม็ดเงินการลงทุนและการท่องเที่ยวจากต่างชาติกำลังอยู่ในช่วงแรกของภาวะขาขึ้น โครงการลงทุนขนาดใหญ่กำลังเดินหน้า ความโปร่งใสในการทำสัญญาสัมปทาน การจัดซื้อจัดจ้างจัดหาเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมากต่อนักลงทุนระยะยาวในโครงการขนาดใหญ่ รวมทั้งการย้ายฐานการผลิตของบรรษัทข้ามชาติ

 

หากประเทศไทยทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ที่นี่ไม่มีการเรียกเก็บเงินซ้ำซ้อนด้วยการคอร์รัปชันนอกเหนือจากภาษีที่เก็บเข้ารัฐแล้ว ประเทศไทยย่อมเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนสำคัญและนำมาสู่ความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจอันเป็นพื้นฐานสำคัญในการกระจายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจสู่ประชาชนส่วนใหญ่และธุรกิจรายเล็กรายย่อยรายกลางอย่างทั่วถึง การเติบโตที่เน้นการกระจายรายได้จำเป็นต้องมีการปฏิรูประบบเศรษฐกิจให้มีความเป็นธรรมมากขึ้นด้วยการกระจายทรัพยากรและรายได้เสียใหม่ คือ ใช้ Redistribution Policy ที่ไม่ไปลดประสิทธิภาพการทำงานของตลาด 


"ดร. อนุสรณ์" กล่าวต่อว่า กระแสเม็ดเงินไหลเข้าในช่วงนี้ทั้งจากภาคการท่องเที่ยว ภาคการลงทุนและตลาดการเงินทำให้เงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วและมีความเป็นไปได้ที่ค่าเงินบาทอาจทดสอบระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีนี้ อย่างไรก็ตาม หุ้นกู้ของภาคเอกชนจะครบอายุจำนวนสูงถึง 1.64 แสนล้านบาทในไตรมาสแรก โดยทั้งปี 2566 มีหุ้นกู้ครบกำหนดชำระ 6.51 แสนล้านบาท หากอัตราดอกเบี้ยในประเทศปรับตัวขึ้นมากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินได้ หรือ ทำให้บริษัทบางแห่งประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินหรือความสามารถในการยืดการชำระหนี้และอาจเกิดสถานการณ์ผิดนัดชำระหนี้ได้

 

แต่สถานการณ์ไม่น่าจะรุนแรงมากนัก เพราะภาพรวมทางเศรษฐกิจยังมีการทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การผิดนัดชำระหนี้เกิดขึ้นกับบริษัทจดทะเบียน จะส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปรับฐานลดลงครั้งใหญ่ได้ โดยกลุ่มบริษัทในตลาด MAI มีความเสี่ยงมากที่สุดหากดอกเบี้ยเข้าสู่ภาวะขาขึ้นเต็มที่ช่วงไตรมาสสามปีนี้    
 

logoline