รทสช.ระดมมวลชนครึ่งหมื่นร่วมเปิดตัว “บิ๊กตู่” เข้าพรรค

6 มกราคม 2566 เนชั่นทีวีได้ข้อมูลจากแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า อีเวนท์เปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าพรรค จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจะมีประชาชนและผู้สนับสนุนมาร่วมไม่ต่ำกว่า 5,000 คน  จำนวนนี้ไม่รวม ส.ส.จากพรรคต่างๆ ที่จะมาร่วมแสดงความยินดี ซึ่งบางส่วนเป็น ส.ส.เป้าหมายที่จะย้ายมาร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปกับพล.อ.ประยุทธ์ อยู่แล้ว โดย ส.ส.ไม่จำเป็นต้องลาออกก่อน สามารถมาร่วมแสดงความยินดีได้ และแนวทางของพล.อ.ประยุทธ์ ชัดเจน ว่าจะยุบสภาหลังปิดสมัยประชุมสภา เพื่อไม่ให้กระทบกับฝ่ายนิติบัญญัติ และได้ชื่อว่าอยู่ครบวาระ ครบสมัยประชุมทั้ง 4 ปี 

ดังนั้นเส้นตายย้ายพรรคภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 จึงไม่มีความจำเป็น เนื่องจากเมื่อยุบสภา กฎหมายบังคับให้สังกัดพรรคแค่ 30 วัน ในขณะที่การกำหนดวันเลือกตั้งต้องไม่เร็วกว่า 45 วัน แต่ไม่ช้ากว่า 60 วัน 

แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยต่อว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ เข้าร่วมงานกับทางพรรคอย่างเป็นทางการแล้ว จะใช้เวลาช่วงเย็น นอกเวลาราชการ ในการลงพื้นที่หาเสียงพบปะพี่น้องประชาชน ส่วนโครงสร้างพรรคจะยังไม่มีการปรับเปลี่ยน แต่จะมี “กรรมการที่ปรึกษาพรรค” ขึ้นมา โดยนายกฯจะนั่งเป็น “ประธานพรรค” แต่กรรมการชุดนี้ก็จะไม่ได้แยกแท่งกับผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบัน ในลักษณะของ “โปลิต บูโร” ตามที่มีข่าวตอนแรก แต่ผู้บริหารพรรค เช่น หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ก็จะมีตำแหน่งเป็นกรรมการที่ปรึกษาด้วย เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และกรรมการชุดนี้จะมีแกนนำกลุ่ม ส.ส.ที่เข้าไปใหม่ เช่น “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น  “ดร.แด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ สองรัฐมนตรีในรัฐบาล เข้าไปนั่งร่วมด้วย 

ที่ผ่านมา แกนนำกลุ่ม ส.ส.ที่เข้าไปใหม่ กับคณะผู้บริหารชุดปัจจุบัน มีนัดหารือกันทุกสัปดาห์ นอกเวลาราชการ ซึ่งก็ราบรื่นดี ไม่มีปัญหาใดๆ 

ส่วนกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติถูกสบประมาทจากหลายฝ่ายว่า จะได้ ส.ส.ไม่ถึง 25 ที่นั่ง โดยล่าสุดมีการประเมินว่าจะได้ ส.ส.เพียง 15 ที่นั่งนั้น แกนนำพรรค กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่พรรคจะได้ ส.ส.น้อยขนาดนั้น เพียงแต่ทางพรรคไม่อยากตอบโต้ โดยมีเหตุผลสนับสนุนดังนี้ 

1.ว่าที่ผู้สมัครที่พรรควางตัวส่วนใหญ่ เป็น ส.ส.อยู่ในปัจจุบัน จึงมีโอกาสชนะเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.กลับเข้าสภาอีกครั้ง 

2.ว่าที่ผู้สมัครอีกส่วนหนึ่ง เป็นทีมของนายก อบจ. ที่เป็น “บ้านใหญ่ตัวจริง” ในแต่ละจังหวัด จึงมีโอกาสชนะเลือกตั้ง

3.นับเฉพาะภาคใต้ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ชุมพร ระนอง จังหวัดเหล่านี้ พรรครวมไทยสร้างชาติปักธงได้แน่ และในจังหวัดใหญ่ ก็จะได้ ส.ส.หลายคนด้วย นับแค่ภาคใต้ ก็น่าจะเกิน 15 ที่นั่งแล้ว 

แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ำว่า ขณะนี้รวมไทยสร้างชาติมี 3 ปัจจัยพร้อมในการชนะเลือกตั้ง คือ ว่าที่ผู้สมัครเกรดเอ อย่างน้อยก็ไม่ขี้เหร่ ต่อมา กระแสนายกฯ ซึ่งดีกว่าหัวหน้าพรรคอื่นเกือบทุกพรรค  และยุทธปัจจัยพร้อมที่สุด 

ดังนั้นหากนับรวม 3 ปัจจัยนี้ถือว่าพร้อมกว่าภูมิใจไทย เพราะภูมิใจไทยมีเฉพาะกระสุน แต่ไม่มีกระแส  หรือประชาธิปัตย์ ไม่มีทั้งกระแสและกระสุน โดยทางพรรคตั้งเป้าต่ำสุด แบบเป็นไปได้ ว่าจะได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 60-70 เสียงแน่นอน และอาจไหลไปมากกว่านั้น ถ้าใกล้เลือกตั้งมีกระแสหนุนลุงตู่ 

แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังเรียกร้องให้คนที่ออกมาวิจารณ์พรรค ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ฝ่ายเดียวกัน ควรจับมือกันสู้พรรคเพื่อไทย ไม่ให้แลนด์สไลด์มากกว่า เพราะนั่นคือเป้าหมายที่ควรจะไปให้ถึงของฝ่ายตรงข้ามพรรคเพื่อไทย