"ศึกเลือกตั้ง66" ปิดดีล "พรรคตระกูลสร้าง" เล็งชื่อ "ไทยสร้างอนาคต"
เพราะกฎกติกาเลือกตั้งใหม่บีบให้พรรคการเมืองเกิดใหม่ต้องประเมินแล้วว่าไปไม่รอด จึงต้องปรับกลยุทธ์ ควบรวมเกิดชื่อใหม่ นั่นคือ สิ่งที่"พรรคตระกูลสร้าง"กำลังดำเนินการ ดูเหมือนจะปิดดีลแล้วด้วย ติดตามในเจาะประเด็นร้อน
เป็นอีกความเคลื่อนไหวของ"พรรคการเมือง"ที่ตั้งขึ้นใหม่ลงสู้"ศึกเลือกตั้ง66" แต่ทว่าเมื่อกฎกติกาเลือกตั้งด้วยสูตรหาร 100 ย่อมสร้างความลำบากในการปรับกลยุทธ์ เพื่อให้ได้มาซึ่งจำนวนส.ส. เข้าสภา
ท่ามกลางข่าวที่หลายคนลุ้น นั่นคือ"การควบรวมพรรคไทยสร้างไทย" กับ "สร้างอนาคตไทย" สองพรรคตั้งใหม่ที่มี "บิ๊กเนม" อยู่เต็มพรรค แต่เจอกติกาการเมือง บัตร 2 ใบ หารร้อย และบรรยากาศการเมืองแบบเลือกข้าง จึงต้องหาทางควบรวม เพื่อรักษาสถานะของพรรคไม่ให้เล็กจนเกินไป
ดีลควบรวม มีการแสดงเจตนาอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
จากนั้นมีการนัดหารือคณะทำงาน เพื่อพิจารณาว่าที่ผู้สมัครรายเขตไม่ให้ทับซ้อนกัน นัดกันวันที่ 2 มกราคม 2566 แต่ข่าวรั่ว ต้องขยับเป็นวันที่ 3 และย้ายสถานที่ สุดท้ายคุยกันจริงๆ จบวันที่ 4 มกราคม แต่ข่าวเงียบหายไป
ล่าสุด "เนชั่นทีวี" สืบเสาะข้อมูลความคืบหน้ามาได้ดังนี้
-ดีลควบรวมขณะนี้ เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนแล้ว จะดำเนินการให้จบภายในเดือนมกราคม เพื่อเดินหน้าเรื่องกฎหมายพรรคการเมือง และเตรียมเลือกตั้งอย่างเต็มรูปแบบ
-ทั้งสองพรรคยอมถอยคนละก้าว โดยมีการตกลงแบ่งตำแหน่งกันเกือบจะลงตัวทั้งหมด เช่น
แคนดิเดตนายกฯ น่าจะมี "นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์" อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย
แต่ตอนจบของการควบรวม ทั้งสองพรรคจะตั้งชื่อพรรคใหม่ด้วยกัน โดยก่อนหน้านี้ "เนชั่นทีวี" รายงานไปแล้วว่า น่าจะใช้ชื่อพรรค "สร้างไทย" เพราะสั้น กระชับ ได้ใจความ นำไปรวมกับคำอื่น สร้างม็อตโต้หาเสียงได้ง่าย แต่ทั้งสองพรรคไปตรวจสอบแล้วพบว่า ชื่อพรรคสร้างไทย มีคนจดทะเบียนไว้แล้ว และเจรจาขอใช้ชื่อนี้ไม่ได้ จึงต้องพับแผนไป
ชื่อที่มีการเสนอล่าสุด คือ "ไทยสร้างอนาคต" แต่ยังไม่ลงตัว ยังไม่เคาะ
ส่วนโครงสร้างผู้บริหารพรรคจะสลับกัน ตามที่แต่ละฝ่ายยอมถอยคนละก้าว เช่น "นายอุตตม" อาจขยับเป็นประธานพรรค เพื่อให้"คุณหญิงสุดารัตน์" เป็นหัวหน้าพรรคใหม่ เพราะยอมถอยให้"นายสมคิด" เป็นแคนดิเดตนายกฯชื่อแรก ส่วนเลขาธิการพรรค อาจจะวางตัว"นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" ซึ่งมีคอนเนคชั่นกว้างขวาง โดยเฉพาะในซีกกลุ่มทุนการเมือง แถมยังมีประสบการณ์เป็นเลขาธิการพรรคใหญ่อย่างพลังประชารัฐมาแล้ว
สำหรับปัญหาเขตทับซ้อน ซึ่งทั้ง 2 พรรคเตรียมผู้สมัครไว้แล้ว และมีผู้สมัครชนกัน ยังเคลียร์ไม่หมด แต่ฝั่ง"สร้างอนาคตไทย" แย้มว่า ฝ่ายตัวเองมี ส.ส.เขตเกรด A+ ราวๆ 15 คน และหวังได้ ส.ส.นราธิวาสถึง 3 คน หลังจาก "บ้านใหญ่ กูเซ็ง ยาวอหะซัน" ไม่เปลี่ยนใจย้ายค่าย
แม้สร้างอนาคตไทยควบรวมพรรค โดย"นายสนธิรัตน์" เพิ่งลงพื้นที่ไปร่วมงานแต่งงาน "ลูกสาวนายวัชระ ยาวอหะซัน" ซึ่งเป็นหลานสาวของ "บ้านใหญ่ กูเซ็ง" เพื่อตอกย้ำความสัมพันธ์ และคำมั่นสัญญา ส่วนภาคอื่นๆ ที่มั่นใจว่าปักธงแน่เช่น อุดรธานี เขต 1 (ซึ่งทุกพรรคใหญ่ๆ ก็มั่นใจว่าจะพักธง ทั้งเพื่อไทย ก้าวไกล พลังประชารัฐ)
ส่วนฝ่าย"ไทยสร้างไทย" คุณหญิงหน่อย หวังได้ ส.ส.เขตในกรุงเทพฯ จำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะดอนเมือง กับสายไหม ซึ่งทำพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง และอาจมี "หลักสี่" อีกเขตหนึ่งด้วย นอกจากนั้นก็มีหวังที่ภาคอีสานหลายจังหวัด และหวังคะแนนปาร์ตี้ลิสต์จากภาคอีสาน รวมทั้งเครือข่ายบำนาญ 3 พันบาท
ต้องรอดูว่าหลังการควบรวม พรรคใหม่ของ"ตระกูลสร้าง"จะสร้างการจดจำให้พี่น้องประชาชนเข้าคูหา ไปกาผู้สมัคร และเทคะแนนให้พรรคนี้ได้อย่างไร ในห้วงเวลาที่เหลือเพียงสั้นๆ ในขณะที่พรรคการเมืองก็มีมากหลากหลาย ถือเป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายเลย