
กรณีเพจเฟซบุ๊ก CSILA นำเอาภาพชายคล้ายพระในลักษณะเปลือยเปล่าภายในห้องส่วนตัวหลายท่าทางภายในห้องส่วนตัว คล้ายกับ หลวงพ่อมหา... พระนักเทศน์ชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ และเป็น เจ้าอาวาสที่พักสงฆ์แห่งหนึ่ง ตำบลโนนดินแดง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งก่อนหน้านี้หลวงพ่อมหา....ซึ่งยังอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และมีการชี้แจงผ่านทางญาติว่าภาพที่ถูกเผยแพร่เป็นภาพ AI ที่มีคนจงใจจะกลั่นแกล้งให้เสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมให้ทนายความไปแจ้งความเอาผิด เพจเฟซบุ๊ก CSILA ตามที่เสนอข่าวก่อนหน้านี้
ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก CSILA
9 กรกฎาคม 2568 ล่าสุดวันนี้เป็นวันที่มีการนัดหมายกัน ได้มีเจ้าคณะอำเภอโนนดินแดง,คณะสงฆ์อำเภอโนนดินแดง ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ,ตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบุรีรัมย์ และตำรวจ สภ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เดินทางมาที่ สำนักสงฆ์ธรรมวารี อ.โนนดินแดง
แต่ปรากฏว่าไม่พบพระนักเทศน์ดังกล่าว ทั้งที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.แล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ติดต่อก็ไม่ได้รับสาย ยังไม่มั่นใจว่าจงใจจะไม่รับสายหรือติดภาระกิจ
ด้าน พระครูนิเทศก์ธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดโนนดินแดงใต้ และเจ้าคณะอำเภอโนนดินแดง เปิดเผยว่า ตามที่ตกลงกันกับพระรูปดังกล่าวทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ว่าจะมีการนัดชี้แจงข้อเท็จจริงกันในวันที่ 9 ก.ค.คือวันนี้ แต่กลับไม่เห็นตัว ติดต่อไปแล้วอ้างว่ายังอยู่ต่างประเทศ
ทั้งนี้ทางคณะไม่รอให้เรื่องมันยืดเยื้อจึงได้มีมติ ออกคำสั่งปลดพระรูปดังกล่าว ออกจากหัวหน้าที่พักสงฆ์แห่งหนึ่ง ออกจากตำแหน่งทันที แล้วแต่งตั้งให้ พระมหาอานนท์ วิสุทธิสัมปัณโณ พระที่จำอยู่ในที่นี้อยู่แล้ว ให้มาเป็นหัวหน้าที่พักสงฆ์ดังกล่าว สังกัดการปกครองคณะสงฆ์ แทนพระนักเทศน์ที่ถูกปลดในทันทีนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
หากพระนักเทศน์ดังกล่าว ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่ภาพของตนเอง และไม่ขอชี้แจง เพราะเรื่องอยู่กับทนายแล้ว จะให้ความเป็นธรรมกับพระรูปดังกล่าว หากมาชี้แจง
เพจ CSI LA เตรียมตั้ง "ทนายอั๋น" ฟ้องกลับ "พระนักเทศน์ชื่อดังบุรีรัมย์" ข้อหาแจ้งความเท็จ
นอกจากนี้ ทางเพจ CSILA ได้ประสานไปยัง ทนายอั๋นบุรีรัมย์ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร เพื่อเตรียมแต่งตั้งเป็นทนายความ ในการต่อสู้คดี ที่ถูกทนายของเจ้าอาวาสแจ้งความ พร้อมฟ้องกลับเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว ฐานแจ้งความเท็จ
เพราะหลังจากที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวก็ยอมรับว่าภาพที่มีการโพส์ตเป็นรูปจริง เนื่องจากรอยสักที่แผ่นหลักตรงกัน ไม่ใช่ภาพตัดต่อ
โดยทาง เพจ CSILA ยืนยันผ่านการพูดคุยทางโทรศัพท์ ว่า มีตัวตนผู้ที่ส่งภาพมาร้องเรียนจริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเรื่องความปลอดภัย โดยผู้ร้องได้ให้ข้อมูลว่า
เจ้าอาวาสมีพฤติกรรมชอบจ้างผู้ชายไปมีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดวินัยสงฆ์ นอกจากนั้นยังมีพฤติกรรมไม่โปร่งใสในการใช้เงินบริจาค หรืออาจจะเข้าข่ายการฟอกเงินด้วย อาทิ
มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ แล้วทุบทิ้งสร้างใหม่ เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินบริจาค ทั้งมีการทำคอนเทนต์ว่าช่วยเหลือญาติโยมที่ยากไร้
แต่บางเคสก็ไม่ได้มีการช่วยเหลือจริง แต่มีการรับบริจาค จึงได้เรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวด้วย
ด้าน ทนายอั๋นบุรีรัมย์ ระบุว่า ได้รับการติดต่อจาก เพจ CSI LA ให้ช่วยเป็นทนายความในการต่อสู้คดี กรณีที่ถูกทนายของเจ้าอาวาสวัดดังที่ภาพเปลือยหลุด และมอบหมายให้ประสานกับหน่วยงานภาครัฐ ตรวจสอบเส้นทางการเงินบริจาคของเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวด้วย
เพราะมีคนให้ข้อมูลว่าเจ้าอาวาสรูปนี้ใช้ผ้าเหลืองหากินกับเงินบริจาค มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างแล้วทุบทิ้ง มีการทำคอนเทนจะช่วยเหลือคนนั้นคนนี้ แต่ไม่ได้มีการช่วยเหลือจริง แต่อาจมีพฤติกรรมการฟอกเงินด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวก็จะมีการลงพื้นที่ไปดูข้อเท็จจริงด้วยตัวเองด้วย
หากท่านเดินทางกลับมาถึงวันไหน ก็อยากแนะนำให้ท่านศึกมาในสภาพที่เป็นคนธรรมดา และมาทำในสิ่งที่อยากทำ เช่น เปิดคณะหมอลำ วงดนตรีต่างๆ ตามที่ใจปรารถนาจะดีกว่า
โดยเฉพาะหากชอบรสนิยมทางเพศซึ่งมันเป็นเรื่องของคนธรรมดา แต่ท่านเป็นพระไม่สามารถกระทำได้ กิเลสมีในมนุษย์ทุกคนแต่หากละซึ่งกิเลสไม่ได้ก็ไม่ควรไปบวชเป็นพระ เพราะจะทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย
ส่วนภาพเปลือยที่หลุดออกมา แม้ท่านจะอ้างว่าถ่ายเก็บไว้เองฐานะที่ท่านอยู่ในผ้าเหลือง ก็ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ที่สำคัญภาพนี้ถูกส่งไปร้องทางเพจก็ต้องมีคนส่งไปแน่นอน ส่วนเรื่องเส้นเงินบริจาคก็จะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบตามขั้นตอน