
9 กรกฎาคม 2568 ที่วัดบ้านค้อ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ว่าที่ พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงความพร้อม ของการอพยพประชาชน หากเกิดเหตุปะทะกันบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า หลังจากที่ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
โดยมีทหารร่วมมือกับฝ่ายปกครอง จัดทำแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ซึ่งเราได้มีการสำรวจจัดทำพื้นที่หลุมหลบภัยเพิ่มเติม
ที่สำคัญได้มีการฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นในเขตอำเภอน้ำยืน เขตอำเภอน้ำขุ่น ซึ่งได้เตรียมความพร้อมภายใต้ความร่วมมือ และสิ่งที่สำคัญคือประชาชนไม่ได้ตกใจ พอเราได้ให้ข้อมูลข่าวสารและให้ข้อมูลจากราชการ
ซึ่งเราจะรับข้อมูลจากทหารส่งต่อให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้านเพื่อรองรับในทุกสถานการณ์
เมื่อถามถึงการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พันตรี อดิศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากเจ้าหน้าที่กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) มณฑลทหารบกที่ 22 (มทบ.22) และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แล้ว
ในส่วนของพลเรือนไม่ว่าจะเป็นทีมฝ่ายบ้านเมืองในอำเภอกำนันผู้ใหญ่บ้าน และ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ก็ได้มาร่วมกันในส่วนนี้ด้วย นี้คือการนำมาสู่การเตรียมพร้อมของประชาชนในพื้นที่
ส่วนการแบ่งระยะการซ้อมนั้น จะไล่ทีละสเต็ป โดยเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วเราได้มีการซ้อมอพยพที่ ตำบลโดมประดิษฐ์ และสัปดาห์นี้ได้มีการซ้อมอพยพที่ ตำบลโซง
ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีหลุมหลบภัยทรุดโทรม ก็ได้มีการเตรียมการ คืออย่างน้อยโรงเรียนต้องมีหลุมหลบภัยครบ และทุกหมู่บ้านก็ต้องมีหมด
เมื่อถามถึงขวัญกำลังใจของประชาชนต่อสถานการณ์ในพื้นที่
พันตรี อดิศักดิ์ กล่าวว่า ที่นี่ประชาชนคุ้นชินกับสถานการณ์อยู่แล้ว โดยตนได้ลงพื้นที่สร้างขวัญกำลังใจกับประชาชน ส่วนข้อพิพาทต่างๆ นั้นรัฐบาลก็ดูแลอยู่ และไม่ต้องห่วงเรื่องเขตแดน ทหารทำเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนของเรามีเพียงแค่เตรียมการและเตรียมตัวให้พร้อม นี่คือสิ่งที่เราบอกกับประชาชน ในส่วนของนักเรียนในโรงเรียนต่างๆ ก็ได้มีการซักซ้อมเตรียมตัวกันอยู่ตลอด
เมื่อถามว่า ต้องการอะไรจากรัฐบาลหรือไม่ หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ผู้ว่าฯ อุบลฯ กล่าวว่า ทางรัฐบาลและคณะผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมตลอดและได้สนับสนุนปัจจัยทุกอย่างซึ่งสิ่งหนึ่งคือเรารอคำสั่งจากทหารอย่างเดียว หากทหารให้สัญญาณอย่างไรอันดับแรกคืออพยพกลุ่มเปราะบางออกจากพื้นที่ก่อน