
จากกรณี Facebook ชื่อว่า "ข่าวเด็ดชลบุรี" ได้โพสต์ข้อความว่า "รวบทันควัน !! หนุ่มเมียนมาร์ขโมยเด็ก 3 ขวบจากบ้าน จนชาวบ้านตามหามาเจอที่วัดหนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี จึงช่วยกันจับตัวไว้ แล้วส่งเด็กคืนพ่อแม่ ส่วนผู้ก่อเหตุได้กินขนมตุบตับก่อนส่งตำรวจ สภ.พานทอง จ.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป" พร้อมกับรูปภาพที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกู้ภัยช่วยกันจับตัวหนุ่มชาวพม่าสวมใส่เสื้อเหลือง นั่งอยู่หลังรถกระบะของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พานทอง ควบคุมตัวไปยังโรงพัก
ทั้งนนี้ จากภาพกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านหลังที่เกิดเหตุ พบชายชาวเมียนมาร์ อายุประมาณ 40 ปี สวมเสื้อสีเหลือง ขี่รถจักรยานมาจอดบริเวณหน้าบ้าน จากนั้นก็ได้นั่งอยู่หน้าบ้านเป็นระยะเวลานาน และมีเด็กวัยสามขวบ เพิ่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ในจังหวะที่พ่อและแม่ของเด็กเก็บของอยู่หลังบ้าน ผู้ก่อเหตุสบโอกาสจูงมือเด็กออกจากบ้าน และเดินเข้าไปในวัดที่มีการจัดงานวัด หนองตำลึง จนกระทั่งพ่อแม่เด็กออกตามหา แล้วไปพบตัวอยู่ในงานวัดหน้าโรงลิเก
30 มกราคม 2568 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังที่เกิดเหตุ พื้นที่หมู่ 2 ตำบลหนองตำลึง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี พบกับนายกิตติ บุญรามอ้น อายุ 37 ปี พ่อของ ด.ช.นวมินทร์ หรือ "น้องนาวา" อายุ 3 ขวบ กำลังอุ้มน้องนาวาอยู่หน้าบ้าน
จากการสอบถามนายกิตติ เล่าว่า เมื่อวาน ( 29 ม.ค.2568) ช่วงหัวค่ำ ตนได้เก็บของอยู่หลังบ้าน เป็นจังหวะที่ลูกชายวิ่งเล่นอยู่หน้าบ้านคนเดียว ตนเห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานปั่นมาจอดหน้าบ้านแล้วนั่งเล่นอยู่ที่กระเบื้องหน้าบ้าน ทีแรกตนคิดว่าเป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ที่มานั่งพักผ่อนหลังจากตั้งร้านเสร็จ แต่พอตนเก็บของเสร็จออกมาที่หน้าบ้านก็ไม่เห็นลูก จึงไปเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่ามีชายชาวเมียนมา จูงแขนลูกไปจากบ้านแล้วเดินเข้าไปในงานวัด ตนจึงได้ออกตามหาพร้อมกับญาติ ซึ่งพากันหาจนทั่วงานวัด แต่ก็ไม่เจอ จนกระทั่งเดินไปบริเวณหน้าโรงลิเก ซึ่งมีหลานมองเห็นลูกชายนั่งอยู่กับคนแปลกหน้า โดยชายดังกล่าวโอบอุ้มเอาไว้แน่นนั่งอยู่กับหญิงชราอีกคน พอตอนไปถึงจึงได้สอบถามหญิงชราว่า รู้จักกับผู้ก่อเหตุหรือเปล่า ทางหญิงชราก็ได้บอกว่าไม่รู้จักว่าเป็นใครมาจากไหน อยู่ๆ ก็พาเด็กมานั่ง จากนั้นจึงได้เอาลูกออกมาจากตัวก่อเหตุ แล้วรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ และมีเจ้าหน้าที่ สห.เข้ามาล็อกตัวระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง
และจากการสอบถามชายผู้ก่อเหตุ ก็ไม่รู้เรื่อง เนื่องจากพูดภาษาไทยไม่ได้ และเป็นชาวเมียนมา พอขอดูพาสปอร์ตติดตัวก็ไม่มี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปยัง สภ.พานทอง ตนก็อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะถ้าปล่อยออกมาก็ไม่รู้จะไปก่อเหตุอะไรอีก และอีกอย่าง เขาไม่มีพาสปอร์ตติดตัว น่าจะเป็นต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาหรือไม่
ทั้งนี้ อยากฝากถึงผู้ปกครองที่มีเด็กเล็ก ไม่ควรทิ้งให้คลาดสายตา เพราะเด็กเล็กวัยกำลังดื้อ ใครชวนไปไหนก็ไป ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ตนมีกล้องวงจรปิด สามารถจับกุมตัวของผู้ก่อเหตุได้ทัน และออกตามหาจนพบตัวลูกชาย ถ้าไม่เจอน้อง ตนอาจจะเสียลูกไป
ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยั งสภ.พานทอง พบว่าผู้ก่อเหตุยังอยู่ในห้องขังของ สภ.พานทอง จึงได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลว่า เบื้องต้นยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ ตำรวจได้แจ้งข้อหา เมาอาละวาดสร้างความเดือดร้อนรำคาญ และจะต้องรอตรวจสอบว่ามีพาสปอร์ตเดินทางเข้ามาในประเทศประเทศไทยหรือไม่ หากญาติเด็กประสงค์จะเอาความก็สามารถเดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติมได้เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป