รู้ตัวแล้วเจ้าของคาร์บอมกลางปัตตานี คาดเป็นการก่อเหตุเอาคืนเจ้าหน้าที่

9 สิงหาคม 2567 ความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิด 3 ลูกกลางเมืองปัตตานี เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ล่าสุดพบเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณถนนท่าเทียบเรือปัตตานี ภายในเขตพื้นที่ตลาดสะพานปลา และบริเวณกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดปัตตานี ในพื้นที่ บ้านยูโย ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี จำนวน 3 จุด 


โดยจุดที่ 1 คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณถังขยะที่ตั้งอยู่ริมถนน จุดที่ 2 คนร้ายลอบวางระเบิด บริเวณเกาะกลางถนน เส้นทางเดียวกัน ห่างกันจากจุดที่ 1 ประมาณ 200 เมตร จุดที่ 3 ได้เกิดเหตุคาร์บอมบ์ บริเวณระหว่างจุดที่ 1 และ 2 และจากการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดพบเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน รุ่น นาวาร่า สีเทา ทะเบียนสงขลา สถานภาพปกติ 



 

เบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม และทราบชื่อผู้ครอบครองรถยนต์ คือ นายสิทธิพร อายุ 26 ปี ชาวบ้าน ต.องครักษ์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี โดยก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้นำรถยนต์ที่ใช้เป็นคาร์บอมมาจอดอำพราง ลักษณะตั้งสิ่งของบริเวณในกระบะ คล้ายรถเตรียมขายของบนถนนริมกำแพง กก.สส.ภ.จว.ปัตตานี ห่างจากจุดที่ 2 ประมาณ 50 เมตร 

 

ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณจุดเกิดเหตุและจุดใกล้เคียง เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่ ได้รายงานประเด็นและเหตุจูงใจคาดว่า การก่อเหตุดังกล่าว คนร้ายต้องการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ และการก่อเหตุดังกล่าว เพื่อตอบโต้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในห้วงที่ผ่านมา 

กรณีเจ้าหน้าที่เข้าพิสูจน์ทราบแหล่งหลบซ่อนพักพิงของกลุ่ม ผู้ก่อการร้ายเกิดการปะทะ และวิสามัญสมาชิกกลุ่มเสียชีวิต 3 ราย เมื่อ 27 ก.ค. -1 ส.ค. 67 ในพื้นที่ ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เนื่องจากการเสียชีวิตเป็นประเด็นในกลุ่มผู้เห็นต่างและสื่อโซเชียล ที่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุ อีกทั้ง กลุ่มเห็นต่างเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยให้ล่วงเลยมาหลายวัน ถึงนำศพออกมา ซึ่งผิดตามหลักศาสนา ซึ่งกลุ่มมีความไม่พอใจเป็นอย่างมาก 


ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังคงปิดพื้นที่โดยรอบ เพื่อเคลียร์เส้นทางให้ละเอียดเพื่อความปลอดภัย ขณะที่​แม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งลงพื้นที่เกิดเหตุพร้อมกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ระบุว่า คนร้ายปรับแผนหันมาใช้รถหลุดจำนำหรือหลุดไฟแนนซ์มาก่อเหตุ เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการตั้งข้อสังเกต เกี่ยวกับพฤติกรรมและรูปแบบที่คนร้ายก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งระเบิด 3 ลูก เกิดขึ้นในพื้นที่โซนเดียวกันทั้งหมด  

จากการตรวจสอบไทม์ไลน์ เหตุระเบิดลูกแรกเกิดขึ้นเวลา 13:05 น. โดยระเบิดถูกซ่อนไว้ในถังขยะ บริเวณทางเข้าตลาดสะพานปลา จากนั้น 10 นาทีต่อมา เกิดระเบิดลูกที่ 2 บริเวณเกาะกลางถนนสายเดียวกันห่างกันประมาณ 100 เมตร โดยทั้ง 2 จุดเป็นระเบิดแบบแสวงเครื่อง ซึ่งทันทีที่ระเบิดเจ้าหน้าที่สั่งปิดถนนโดยรอบทันที กระทั่งผ่านไปนานถึง 40 นาที ก็เกิดเหตุคาร์บอมขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งคนร้ายได้นำรถคาร์บอมมาจอดไว้ที่บริเวณกำแพง ตำแหน่งหลังแฟลตตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี

พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ตั้งข้อสังเกตุว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบระเบิดอยู่นั้น มีการนำโดรนขึ้นบินสำรวจพื้นที่โดยรอบ ก็ยังพบรถต้องสงสัยสีขาวจอดอยู่ข้างกำแพง โดยไม่มีใครคาดคิดว่า รถคันนั้นจะเป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุคาร์บอม เนื่องจากท้ายกระบะมีถังน้ำแข็งวางอยู่ด้วย ซึ่งปกติแล้วพื้นที่แถวนี้ก็มักจะเห็นรถลักษณะแบบเดียวกันนี้จอดอยู่ทั่วไป

นอกจากนี้ประเด็นที่น่าสนใจ ที่พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ให้ความสนใจเป็นพิเศษขณะเข้าตรวจสอบพื้นที่ คือเรื่องที่คนร้ายนำรถมาซุกซ่อนระเบิดหรือคาร์บอมนั้นพบว่า ระยะหลังมักจะหันมาใช้รถที่หลุดจำนำหรือว่าหลุดจากไฟแนนซ์มาก่อเหตุ เช่นเดียวกับครั้งนี้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน รุ่น นาวาร่า สีเทา ก็เป็นรถที่หลุดมาจากที่ไฟแนนซ์ยึดมา หลังจากนี้จึงต้องเฝ้าระวังให้มากขึ้น โดยเฉพาะตามเต็นท์รถต่างๆ

อย่างไรก็ตามสำหรับพื้นที่ที่คนร้ายก่อเหตุนั้น แม้จะเป็นถนนทางเข้าท่าเทียบเรือประมงจังหวัดปัตตานี แต่เป็นถนนเส้นหลักและเส้นเดียว ที่อยู่ด้านหลังแฟลตตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี และเป็นถนนที่มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียว ซึ่งเป้าหมายในการก่อเหตุหนีไม่พ้น “แฟลตตำรวจ” ที่สามารถเข้าถึงตัวอาคารได้ง่ายที่สุด แม้จะไม่ใช่การเกิดเหตุภายในแฟลตตำรวจ แต่ประเด็นที่คนร้ายต้องการคือ การดิสเครดิตเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อลดความน่าเชื่อถือ และหากมองจากความเสียหาย นอกเหนือจากรถยนต์คาร์บอม และถังขยะที่ถูกซ่อนระเบิดแล้ว สถานที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดก็คือ แฟลตตำรวจนั่นเอง