
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2567 "กัน จอมพลัง" ได้พาเด็กหญิง อายุ 12 ปี นักเรียน ป.6 พร้อมพี่สาว เข้าแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี หลังได้รับเรื่องขอความช่วยเหลือ จากแม่ของเด็กหญิงรายนี้ ว่าถูกทรชน 13 คน ออกอุบายหลอกล่ออ้างว่าจะพาไปกินโรตี แต่กลับพาเข้ารีสอร์ท และใช้กำลังข่มขืน จากนั้นโทรชวนเพื่อนมาร่วมรุมโทรม เหตุการณ์เกิดในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แต่ทางครอบครัวไม่กล้าแจ้งความในพื้นที่ เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของกลุ่มทรชนดังกล่าว
วันที่ 6 สิงหาคม 2567เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก "กันจอมพลัง ช่วยสู้" ได้โพสต์รูปภาพ พร้อมข้อความ ระบุว่า นราธิวาสเละเทะไม่หยุด 1 ใน 13 เดนทรชนโทรมน้อง ป.6 มีเอเย่นต์ ย บ้าร่วมด้วย แถมน้องเล่าว่าเคยมีคนในพื้นที่นราธิวาสให้น้องไปส่งยาบ้าด้วย หลังเกิดเหตุเดนทรชนโทรมาเย้ย ถ้าคิดจะแจ้งความ ตำรวจไม่ต้องเหนื่อย จะรวมตัวกันไปหาตำรวจเอง ไม่พอตอนนี้มีครูสาวในตากใบมาเมนต์หลังน้องถูกโทรม "น้องยอมไปกับเค้ารึเปล่า5555" น้อง ป.6 ถูกโทรม คุณตลกมากหรอ ชวนเด็กไปกินโรตี แล้วมีสิทธิ์อะไรไปโทรมเค้านี่เป็นครูได้ยังไง
ทั้งนี้ ภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป "กัน จอมพลัง" ได้สอบถามว่า "ใครอยากให้ผมดำเนินการร้องเรียนครูคนนี้บ้าง" ต่อมา ชาวโซเชียลต่างเข้ามาคอมเมนต์สนับสนุน "กัน จอมพลัง" เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งช่วยกันตรวจสอบข้อมูลพบว่า ครูสาวที่มาคอนเมนต์ เป็นครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จึงอยากเรียกร้องให้โรงเรียนต้นสังกัด และสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นราธิวาส เขต 2 ดำเนินการทางวินัยกับครูคนดังกล่าว
นอกจากนี้ มีรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 6 ราย จากทั้งหมด 13 ราย ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.ตากใบ ส่วนที่เหลือชุดสืบอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวน
และจากที่ปรากฏบนสื่อโซเชียลว่ามีครู สังกัด สปพ.เขต2 นราธิวาส เข้าไปคอมเมนต์ซ้ำเติมนักเรียนที่ถูกกระทำนั้น น.ส.สุธิภรณ์ ขนอม ผอ.สปพ.เขต2 นราธิวาส เปิดผยว่า สำหรับครูที่ออกมาวิพากวิจารณ์เกี่ยวกับกรณีเด็กอายุ 12 ปี ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ด้วยการถูกกลุ่มวันรุ่น จำนวน 13 คน กระทำการรุมโทรม ซึ่งเมื่อตนเองทราบเรื่อง จึงได้เดินทางไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อไปพบกับครูที่โพสต์ข้อความดังกล่าว โดยพบว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา ครูที่เป็นต้นเหตุได้เดินทางมาทำงานตามปกติ และตนได้ทำการซักถามถึงความเป็นมา และเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งครูรายนี้ได้แสดงความเสียใจต่อการกระทำดังกล่าว ดังนั้น ตนจึงให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน เพื่อตรวจสอบและหาข้อเท็จจริงทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบ พบว่า ครูรายนี้เป็นพนักงานราชการของโรงเรียน ทั้งนี้ เมื่อเรื่องราวการโพสต์ข้อความดังกล่าว ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ครูรายนี้เกิดความเครียด และได้พยายามติดต่อผู้เสียหาย เพื่อทำการขอโทษ ซึ่งทราบมาว่ายังไม่สามารถติดต่อได้
ทั้งนี้ ภายหลังการสอบถามข้อมูลทั้งหมด และตั้งกรรมการสอบสวน ทางโรงเรียนฯ จึงให้ครูคนดังกล่าวเดินทางกลับบ้านทันที อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทาง สปพ.เขต2 นราธิวาส จะเพิ่มมาตราการ และเข้มงวดกวดขันให้มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของจริยะธรรม และความเห็นอก-เห็นใจ ต่อผู้ถูกระทำที่ตกเป็นเหยื่อ