"ดิจิทัลวอลเล็ต" ไม่เอื้อคนพิการ แนะปรับปรุงเงื่อนไข

วันที่ 2 สิงหาคม 2567 ภายหลังโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เปิดให้ประชาชนกลุ่มใช้สมาร์ทโฟน ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ตั้งแต่เวลา 08.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567 ประชาชนทุกคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วน สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งรัฐบาลได้ประมาณการไว้จำนวน 45-50 ล้านคน หนึ่งในนั้นคือกลุ่มผู้มีความพิการทางสายตา ก็ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน 

ทีมข่าวเนชั่นทีวี ได้ไปพูดคุย กับเจ้าหน้าที่ และผู้พิการทางสายตา มูลนิธิธรรมมิกชน เพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนการศึกษาคนตาบอด จังหวัดขอนแก่น เพื่อสอบถามถึงปัญหาอุปสรรคในการลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ในครั้งนี้ 

โดยนางสาวอัญธิฌา สอนแวว พนักงานตรวจและประเมินมาตรฐานสื่อการเรียนการสอน และ นางสาวสกุลนา ใจทา ผู้ช่วยฝ่ายบริหารสื่อ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา ยอมรับว่า การลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตมีอุปสรรคหลายอย่าง โดยเฉพาะการสแกนใบหน้า ซึ่งผู้พิการทางสายตาจะมองไม่เห็นว่ากรอบในโทรศัพท์ที่ต้องสแกนตรงกับใบหน้าของตัวเองหรือไม่ ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่คอยบอก หันซ้าย หันขวา ก้มหน้า จึงจะสามารถลงทะเบียนได้สำเร็จ เพราะในระบบเสียงบอกแค่ว่าให้ขยับหน้า ตรงกับกรอบ แต่ไม่ได้บอกว่ากรอบอยู่ตรงไหน ซ้าย หรือขวา ซึ่งก็เป็นอุปสรรค  ส่วนอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งที่ผู้พิการทางสายตากังวล และสร้างความยุ่งยากนั่นคือต้องกลับไปใช้เงินตามภูมิลำเนาของตัวเอง 

ซึ่งนางสาวอัญธิฌา มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ต้องกลับไปใช้จ่ายที่นั่น เธอบอกว่าจะใช้จ่ายเพียงครั้งเดียวให้หมด เพื่อไม่ต้องเดินทางไปมาหลายครั้ง เพราะมีปัญหาเรื่องการจองตั๋ว และใช้ชีวิตลำบากอยู่แล้ว  ถ้าหากรัฐบาลจ่ายเป็นเงินสดโอนเข้าบัญชี ก็จะง่ายและเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการทางสายตาด้วย  

ขณะที่ นางสาวธนวันต์ วรินทร์ปกรณ์ พนักงานบริหารสื่อการเรียนการสอน โรงเรียนการศึกษาคนตาบอด จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ผู้พิการทางสายตาส่วนใหญ่ ใช้สมาร์ทโฟนลงทะเบียนผ่านระบบเสียงแล้วทำตามขั้นตอน โดยโรงเรียนการศึกษาคนตาบอด จ.ขอนแก่น มีทั้งเจ้าหน้าที่ และนักเรียน ที่มีสิทธิ์เกือบทุกคน ซึ่งทุกคนก็ดีใจและได้วางแผนการใช้เงิน เช่น เงินดิจิตอล wallet 10,000 บาทที่ได้มาก็จะนำไปใช้จ่ายเป็นค่าครองชีพ ส่วนเงินเดือนของผู้พิการ ที่ได้รับอยู่แล้ว ก็จะนำไปซื้ออุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ไม้เท้า หรืออุปกรณ์เฉพาะของคนตาบอด ซึ่งไม่มีขายในร้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั่วไป 

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี มีประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม แต่อยากให้ปรับปรุงเงื่อนไข หรือรูปแบบ ที่เหมาะสมกับคนพิการ เช่นอาจจะเปลี่ยนจากการสแกนใบหน้า มาเป็นการสแกนลายนิ้วมือหรือรหัส PIN น่าจะง่ายกว่า  หรืออาจจะมีฟังก์ชันเสริมอย่างอื่น ที่อำนวยความสะดวกเรื่องการลงทะเบียน