
26 พฤศจิกายน 2566 ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงกลางดึกวานนี้ (25 พ.ย.) พ.ต.ต.มติชน วงษ์เบ้ากูล สารวัตรสอบสวน สภ.วังน้ำเขียว รับแจ้งมีเหตุยิงกัน ที่บ้านหลังหนึ่ง ในบ้านศาลเจ้าพ่อ ม.1 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว มีการกางเต็นท์จัดงานมงคลสมรส พบสิ่งของซึ่งเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และโต๊ะ เก้าอี้ ตกหล่นกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น บรรดาผู้มาร่วมงานมีอาการตื่นตกใจ
ภายในงาน พบร่างผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ราย คือ นายจาตุรงค์ สุขสุข หรือแจ็ค อายุ 29 ถูกยิงบริเวณศีรษะ 1 นัด , น.ส.กาญจนา ปาจันทึก หรือ ปู อายุ 38 ปี ถูกยิงตามร่างกายหลายแห่ง , นางกิ่งทอง กล้าจอหอ อายุ 60 ปี และ น.ส.กรนิดา มานะต่อ อายุ 37 ปี
นอกจากนี้ ยังมีผู้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายธง นนขุนทด อายุ 50 ปี และ นายบำรุง ชาเทราช อายุ 28 ปี อาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ฮุก.31 นครราชสีมา จุด อ.วังน้ำเขียว ได้นำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลวังน้ำเขียว แต่นายธง ได้เสียชีวิตเป็นรายที่ 5
พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ตังอำนวย ผกก.สภ.วังน้ำเขียว เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นผู้มาร่วมงานมงคลสมรส ระหว่าง นายจาตุรงค์ และ น.ส.กาญจนา โดยนายจาตุรงค์ อดีตรับราชการเป็นทหาร แต่ถูกขบวนรถไฟทับขาขวาขาด จึงกลายเป็นผู้พิการด้านความเคลื่อนไหว และเป็นนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย (นักกีฬาพาราไทย) ว่ายน้ำประเภทฟรีสไตล์ เคยคว้าเหรียญเงิน การแข่งขันว่ายน้ำ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ประเทศอินโดนีเซีย
และมีรายชื่อลงแข่งขัน ในมหกรรมกีฬาคนพิการทางด้านร่างกาย และการเคลื่อนไหว ชิงแชมป์โลก หรือ 2023 World Abilitysport Games ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1 – 9 ธันวาคม นี้ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา รวมถึงยังชื่นชอบการเล่นอาวุธปืน
ช่วงเช้ามีการจัดพิธี และจัดเลี้ยงช่วงเย็น ก่อนเกิดเหตุ ทั้งหมดได้นั่งดื่มฉลองในโต๊ะเดียวกัน เจ้าบ่าวและเจ้าสาว มีปากเสียงทะเลาะกันในเรื่องส่วนตัว จากนั้น นายจาตุรงค์ ที่มีอาการมึนเมา ได้ล้มโต๊ะกวาดข้าวของตกแตกเกลื่อนกระจาย ทุกคนต่างแยกย้ายเดินหนี
แต่นายจตุรงค์ กลับไปหยิบอาวุธปืนออโตเมติก CZ ขนาด 9 มม. ภายในรถ ออกมากระหน่ำยิง วิถีกระสุนถูก นางกิ่งทอง และ น.ส.กรนิดา ที่เป็นแม่และน้องสาวของเจ้าสาวเสียชีวิต นายจตุรงค์ ยังได้ยิง น.ส.กาญนา เจ้าสาวเสียชีวิตอีกด้วย
นอกจากนี้ วิถีกระสุนยังไปถูก นายธง และ นายบำรุง จนได้บาดเจ็บสาหัส หลังก่อเหตุ นายจตุรงค์ ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกัน จ่อยิงศีรษะตัวเองเพื่อหนีความผิด ในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน และปลอกกระสุนปืน ตกหล่นจำนวน 11 ปลอก สาเหตุที่แท้จริงจะมีการสอบสวนต่อไป
นายวชิรวิทย์ ศรีพนม อายุ 23 ปี หลานของนายธง ผู้เสียชีวิต เล่านาทีเฉียดตายว่า ได้เข้าร่วมงานและดื่มฉลองด้วย ไม่ทันสังเกตเจ้าบ่าวไปหยิบปืนมาตอนไหน แต่ทราบอีกทีได้ยินเสียงปืน ตนตกใจจึงพุ่งหลบลงใต้โต๊ะ จึงรอดชีวิตมาได้