
นางสาวหญิง ถานะสุก หรือฟาง ฟาง ผู้จัดการทั่วไทยสนามกอล์ฟสากลภูกิ่วลม เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-ลาว และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากประเทศจีน กล่าวว่า อาชีพแคดดี้ที่สนามกอล์ฟ ถือว่ามีรายได้ในระดับดี เมื่อเทียบกับสนามกอล์ฟอื่นๆ โดยเฉพาะหากมีคุณสมบัติมีมนุษยสัมพันธ์ บริการดีและได้ออกรอบบ่อยๆ จะมีรายได้อยู่ที่เดือนละ 16,000-20,000 หยวน หรือ 80,000-100,000 บาท
โดยแคดดี้ที่ออกรอบ 18 หลุม จะได้ทิปขั้นต่ำ 100 หยวน หรือ 500 บาท ซึ่งลูกค้าที่มาใช้บริการสนามกอล์ฟส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเถ้าแก่ หรือกระเป๋าหนัก โดยแต่ละครั้งจะให้ถึง 300-500 หยวน เคยมีแคดดี้ที่ได้ทิปหนักสุด 2,000 หยวน หรือ 10,000 บาท “แคดดี้ที่มีหน้าตาสวย บุคลิกดี มีความรู้เรื่องกอล์ฟดี หรือหากเป็นแคดดี้ผู้ชายที่มีประสบการณ์ 8-10 ปี รายได้เดือนละ 100,000 บาท ไม่ใช่เรื่องยาก”
สาวลูกครึ่งไทย-ลาวรายนี้ กล่าวว่า ปกติแคดดี้ทั่วไปจะไม่มีเงินเดือน แต่ที่สนามกอล์ฟสากลภูกิ่วลม จะมีเงินประกันรายได้เดือนละ 800 หยวน หรือ 4,000 บาท โดยมีสวัสดิการกินฟรี อยู่ฟรี ซึ่งแคดดี้ส่วนใหญ่ จะได้รับการฝึกอบรมอย่างดีก่อน ออกปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งเธอได้รับการฝึกอบรมที่ จ.เชียงใหม่
กระนั้นก็ตาม บุคคลที่จะมาสมัครเป็นแคดดี้ที่สนามแห่งนี้จะไม่เน้นเรื่องวุฒิการศึกษา แต่จะเน้นเรื่องภาษา ซึ่งมีการฝึกอบรมภาษาจีน อังกฤษ และเกาหลีให้ด้วย นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งจะมีแคดดี้จากจีนมาให้บริการด้วย เนื่องจากระยะแรกจะมีนักกอล์ฟคนจีนมาใช้บริการเป็นส่วนใหญ่
สำหรับที่สนามขณะนี้มีแคดดี้ให้บริการอยู่ที่ประมาณ 80-100 คน แต่มีความต้องการที่ 200 คน ซึ่งอนาคตต้องการแคดดี้ 400-500 คน เพื่อรองรับการขยายสนามและการแข่งขันระดับอาเซียนในช่วงต้นปีหน้า
นายหวัง ฟู จัง ผู้จัดการสนามกอล์ฟสนามกอล์ฟสากลภูกิ่วลม กล่าวว่า สนามกอล์ฟแห่งนี้เป็นความตั้งใจของจ้าว เหว่ย ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยเฟสแรก จำนวน 18 หลุม บนพื้นที่ 1,000 ไร่ และอนาคตจะขยายเพิ่มอีก 36 หลุม บนเนื้อที่ 1,500 ไร่ โดยจะมีโรงแรม ที่พัก พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันรองรับ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณในการพัฒนาโครงการนี้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ หลังจากเปิดให้บริการได้การตอบรับอย่างดีจากโปรกอล์ฟ และนักท่องเที่ยวว่าเป็นสนามที่มีมาตรฐาน และสวยงาม ซึ่งที่ผ่านมามีการเซ็นสัญญาระหว่างไทย-ลาว ในการแลกเปลี่ยนนักกอล์ฟ และในช่วงต้นปีหน้าจะมีการจัดการแข่งขันระดับสากล ซึ่งตรงกับช่วงการจัดงานเทศกาลดอกงิ้วบาน ปี2567 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว
“แคดดี้ ส่วนใหญ่มาจาก 3 ประเทศ คือ ลาว เมียนมา และไทย และต้องได้รับการฝึกอบรมอย่างดี โดยมีการส่งไปอบรมที่ประเทศไทย ซึ่งการให้บริการสนามนี้ถือว่ามีมาตรฐานที่ดีระดับต้นๆของประเทศ”นายหวัง ฟู จัง กล่าว
ทางด้านนางสาวภูวนิดา เตชะธนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรและธุรกิจ สนามกอล์ฟซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ เชียงใหม่ คันทรีคลับ กล่าวว่า ธุรกิจกอล์ฟของไทย โดยเฉพาะภาคเหนือ กลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นนักท่องเที่ยว ดังนั้นถ้าเราสามารถเชื่อมโยงธุรกิจกอล์ฟระหว่างประเทศได้ จะเป็นโอกาสที่ดีในการขยายกลุ่มลูกค้าเพราะนักกอล์ฟโดยธรรมชาติแล้วชอบตีกอล์ฟหลายๆสนาม หากเราสามารถเชื่อมสนามที่ จ.เชียงใหม่ มาสามเหลี่ยมทองคำได้ รวมถึงการจัดกรุ๊ปทัวร์ไปที่ จ.ภูเก็ตได้ด้วย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวในภาคธุรกิจกอล์ฟได้ด้วย
นอกจากนี้ นโยบายฟรีวีซ่า จะยิ่งช่วยให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจีนเข้ามาใช้บริการมากขึ้น รวมถึงนโยบายการท่องเที่ยวที่สนามบินเชียงใหม่สามารถเปิดให้บริการได้ 24 ชั่วโมง จะช่วยภาคธุรกิจสนามกอล์ฟและการท่องเที่ยวได้อย่างดี
“ไม่ได้มองถึงการแชร์ตลาด แต่เรามองว่าต้องช่วยกัน ดังนั้นต้องรวมพลังหลายๆสนามกอล์ฟ ในเมื่อนโยบายการท่องเที่ยวของภาครัฐกระตุ้นมากขนาดนี้ เราก็อยู่เฉพาะไม่ได้ เราต้องรวมพันธมิตร และจัดแพ็กเกจทัวร์เพื่อให้เกิดแรงจูงใจดึงลูกค้าเข้ามา” นางสาวภูวนิดา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารเล็งเห็นการขยายกลุ่มลูกค้า เชื่อมโยงระหว่างประเทศ รวมถึงภายในประเทศข้ามภูมิภาคมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อสบโอกาสมีการเปิดสนามกอล์ฟสากลภูกิ่วลม จึงตั้งเป้าที่จะเข้ามาร่วมขยายฐานลูกค้า ด้วยการจัดแพ็กเกจทัวร์ หรือมาออกรอบต่างประเทศ หรือต่างภูมิภาค
ข่าวโดย สุพีร์ สังหรานนท์