9 ตุลาคม 2566 ที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มวลน้ำจากแม่น้ำมูล ที่ไหลผ่านตัวอำเภอวารินชำราบ โดยเฉพาะชุมชนท่ากอไผ่ เขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ ได้พังกระสอบทราย จนเกิดเป็นแนวฟันหลอหลายจุด
ทำให้น้ำที่อยู่ด้านนอกแนวกระสอบทรายจำนวนมาก ไหลทะลักเข้าพื้นที่ชั้นใน ของชุมชนท่าก่อไผ่ ส่งผล กระทบทำให้ชาวบ้าน ต้องเก็บสิ่งของขึ้นไว้ที่สูง เพื่อรอประเมินสถาการณ์ในช่วงเช้า ชาวบ้านบางส่วนที่ไม่ไว้ใจสถานการณ์ รีบอพยพไปยังจุดอพยพทันที
นางสาวรดารัตน์ ชัดไธสง อายุ 50 ปี กรรมการชุมชนท่ากอไผ่เปิดเผยว่า ตอนนี้ต้องลุ้นนาทีต่อนาที เพราะหลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัด มาเยี่ยมชุมชนแล้วกลับไปไม่ถึง 2 นาที กระสอบทรายก็ล้มรอบแรก แต่โชคดี ยังมีเจ้าหน้าที่เทศบาล ทหาร ชาวบ้าน อยู่กันเยอะ เลยช่วยระงับเหตุไว้ได้ แต่จุดที่ตนอยู่ตอนนี้ เป็นอีกจุดที่น้ำทะลัก เข้ามาเป็นครั้งที่ 2 ของวันนี้ ความรุนแรงเหมือนน้ำป่า ชาวบ้านเก็บของเกือบไม่ทัน
ในส่วนของชาวบ้านซอยกลาง ห่างจากจุดริมน้ำประมาณ 200 เมตร ได้เก็บทรัพย์สินขึ้นที่สูงแล้ว ในส่วนของบ้านชั้นเดียว คือย้ายชาวบ้านออกจากพื้นที่ ไปจุดอพยพแล้ว แม้ทางส่วนราชการจะบอกว่า ไม่รุนแรงเหมือนปี 65 แต่ชาวบ้านก็ยังไม่ไว้ใจ เพราะมีบทเรียนมาแล้ว
ด้าน นางสาวสุดธิชา ทัศกุล อายุ 28 ปี หนึ่งในผู้ประสบภัย เล่าว่า ช่วงที่เกิดเหตุ ตนยืนอยู่หน้าบ้าน ระดับน้ำก็สูงขึ้นมา จึงทราบว่า กระสอบทรายด้านหลังบ้านแตก จึงได้ช่วยกันเก็บของ ย้ายขึ้นไปอยู่จุดอพยพ ใต้สะพานเสรีประชาธิปไตย
ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองวารินชำราบ ยังคงเร่งเครื่องสูบน้ำออกจากชุมชน พร้อมทั้งนำกระสอบทรายเข้าซ่อมจุดที่พังลงมา เพื่อชะลอน้ำทะลักเข้าชุมชนชั้นใน ซึ่งเป็นการต้านมวลน้ำกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะจากการคาดการณ์ของ สทนช. ในสัปดาห์นี้ น้ำน่าจะเพิ่มอีกไม่มากไม่เหมือนปี 65 แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด