
15 กันยายน 2566 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ร.ต.อ.วิรุฬห์กิจ ตันตระกูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุ มีคนผูกคอเสียชีวิต ภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง ม.7 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จึงประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ ภายในแคมป์คนงาน ลักษณะปลูกด้วยสังกะสี แบ่งเป็นห้องจำนวนหลายห้อง และบริเวณหน้าห้องพักไม่มีเลขที่ พบศพ นางหนูพร ไชยสอน อายุ 48 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ ใช้สายอากาศทีวี ผูกคอโยงกับขื่อหลังคาห้องพักใน ลักษณะคุกเขากับพื้ เสียชีวิต ตรวจสอบตามร่างกาย ไม่พบร่องร่อยการต่อสู้ หรือถูกทำร้าย ส่วนบริเวณหน้าห้องพัก พัดลม และไฟ ยังเปิดอยู่
นายธนทรัพย์ ไชยสอน อายุ 42 ปี หลานชาย ของผู้เสียชีวิต ทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีภาวะเครียด เรื่องปัญหาครอบครัว ทั้งนี้ ก่อเหตุเกิด ตนเเตรียมตัวจะเดินทางกลับบ้านเกิด ที่จังหวัดชัยภูมิ จึงได้แวะมาหาผู้ตาย เพื่อพาไปทำบุญใส่บาตร และไหว้พระที่วัด เพื่อให้เกิดความสบายใจ และเมื่อกลับมาที่แคมป์ที่พักคนงาน
ระหว่างที่ตนไปพูดคุย กับสามีของผู้เสียชีวิต ก็ทราบว่า ผู้ตายกำลังมีปัญหากับสามี โดยตนได้มาพูดคุยกับสามี เพื่อให้ทั้งสองพูดจากัน สักพักจึงเดินกลับมาดูที่ห้อง ก็พบว่า ผู้ตายได้ผูกคอเสียชีวิตไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ลูกชาย กับสามีเก่าของผู้เสียชีวิต ก็เพิ่งจะผูกคอตาย ที่แคมป์คนงานเดียวกัน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ขณะที่ นายทองสุก สดสะอาด อายุ 46 ปี สามีใหม่ผู้เสียชีวิต ระบุว่า ตนเพิ่งจะแยกกันอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน โดยได้พักกันคนละห้อง เนื่องจากมีปัญหาเรื่องภายในครอบครัว และได้บอกกับผู้เสียชีวิตว่า จะขอแยกกันอยู่ เพราะผู้เสียชีวิตมีลูกชายมาอยู่ด้วย ถ้ามีอะไรก็มาพูดคุยกันได้ ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจผูกคอตาย น่าจะมาจากที่ผู้เสียชีวิต มีความเครียด และน้อยใจตนเอง ที่ไม่ยอมง้อขอคืนดีด้วย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา นายวรากร ภูษาวิโสตร์ อายุ 25 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต เพิ่งผูกคอเสียชีวิต ที่ห้องพัก ภายในแคมป์คนงานแห่งนี้เช่นกัน และแคมป์คนงานนี้ ก็มีผู้ผูกคอเสียชีวิต มาอย่างต่อเนื่องแล้ว 3 ราย
"แปลกใจมาก ๆ ทำไมแคมป์ที่พักคนงานแห่งนี้ ถึงได้เฮี้ยนจริง ๆ ซึ่งจนถึงขณะนี้มีคนผูกคอตายไปแล้ว 3 ราย"
นายสันติสุข โสวรรณขจร เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้ง จากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีหญิงสาวผูกคอเสียชีวิต อยู่ภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง หลังรับแจ้งจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อเดินทางมาถึง ก็พบว่าได้เสียชีวิตไปแล้ว สำหรับแคมป์ที่เกิดเหตุ เคยมีผู้เสียชีวิตแล้ว เป็นการผูกคอตายมากถึง 3 ราย และนอนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ อีก 1 ราย ในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน
มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจและแพทย์ที่มาชันสูตรศพ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัย ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แคมป์คนงานก่อสร้างแห่งนี้ ได้เดินทางเข้ามาเก็บศพ มาแล้วหลายครั้ง และเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต จึงได้มอบศพให้ทางญาติ และครอบครัว นำไปดำเนินการตามประเพณี ทางศาสนาต่อไป