ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา เปิดเที่ยวได้อีกครั้ง 12 ก.ย.นี้

ชลบุรี วันที่ 9 กันยายน 2566 ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ภายใน ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา สร้างความโกลาหลให้กับกลุ่มผู้ประกอบการของตลาดที่ต้องช่วยกันขนของอพยพหนีไฟ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนรวมกว่า 300 คน ได้นำกำลังมาช่วยเหลือ จนกระทั่งเพลิงสงบลง ทิ้งความเสียหายไว้จำนวนมาก
 

ล่าสุดวันนี้ (9) น.ส.สุมาพร ศรีเมือง ผู้จัดการทั่วไป และฝ่ายกฎหมาย ของตลาดน้ำสี่ภาค แถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีนายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบางละมุง รวมถึงสื่อมวลชนหลายสำนักเข้าร่วมรับฟัง โดยตัวแทนตลาดน้ำได้เล่าถึงวันเกิดเหตุว่ามีพนักงานรักษาความปลอดภัยสังเกตเห็นกลุ่มควันและเปลวไฟ ซึ่งทีมรักษาความปลอดภัยนั้นมีการฝึกซ้อมดับเพลิงในเบื้องต้นทุกคนอยู่แล้ว

แต่ด้วยขณะเกิดเหตุมีลมแรง ประกอบกับโครงสร้างเป็นไม้เก่า ที่ทางตลาดน้ำนำไม้จากบ้านเก่าในจังหวัดอยุทธยามาสร้าง และมุงด้วยหลังคาจาก ซึ่งเป็นวัสดุไวไฟ ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ขณะที่ทีมดับเพลิง อาสากู้ภัยฯ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็นำกำลังเข้าพื้นที่ช่วยเหลือในเวลาที่รวดเร็ว

โดยทีมผจญเพลิงได้แบ่งรถน้ำดับเพลิงเข้าทั้งทางด้านหลัง ด้านข้าง และด้านหน้า  ทั้งยังถือเป็นความโชคดีที่ในตลาดมีแหล่งน้ำ จึงสามารถดูดแล้วฉีดสกัดได้เลย จนเวลาประมาณ 22.00 น. เพลิงเริ่มอยู่ในวงจำกัดและดับลง เจ้าหน้าที่จึงถอนกำลังกลับ จากนั้นทีมรักษาความปลอดภัยของตลาดน้ำได้ฉีดน้ำเลี้ยงบริเวณที่ยังเกิดกลุ่มควันอยู่จนกระทั่งเช้า ทั้งนี้ทางตลาดน้ำคิดว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือมิตรแท้ที่เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือ



ต่อมาในวันที่ 8 กันยายน ทางตลาดน้ำต้องล้อมสแลนปิดไว้เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ขณะที่ผู้เกี่ยวของทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน วิศวกรโยธา ได้เข้าพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานในการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งทางตลาดน้ำยังไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ต้องรอผลตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานเท่านั้น

สำหรับความเสียหาย ประมาณ 30 เปอร์เซ็นของพื้นที่ทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นโซนจำหน่ายสินค้าพื้นที่ภาคเหนือ ร้านอาหาร ประเมินมูลค่าอยู่ที่ 70 ล้านบาท ไม่รวมของผู้ประกอบการ ส่วนเรื่องประกันนั้นทางตลาดน้ำมีประกันอยู่แล้ว แต่เป็นประกันเรื่องโครงสร้าง ทุนประกันก็ไม่ได้สูงมากพอจะนำมาแลกกับชื่อเสียง ชีวิตของผู้ประกอบการ ซึ่งมันไม่คุ้มอย่างแน่นอน และหากเสร็จสิ้นขั้นตอนได้เงินมาแล้ว ก็จะนำมาชดเชยให้กับผู้ประกอบการต่อไป 



 

ส่วนผลกระทบที่ตามมาหลังเกิดเหตุนั้น มีทั้งการจองโปรแกรมของนักท่องเที่ยวที่ต้องยกเลิกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ได้รับกำลังใจจากนักท่องเที่ยว ไม่ได้รับการตำหนิตอกย้ำแต่อย่างใด รวมถึงความเดือดร้อนสูญเสียของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ทั้งทรัพย์สิน สินค้าที่ถูกไฟไหม้ โครงสร้างที่ต้องทุบทำลาย สินค้าสูญหายต่างๆ ทางตลาดน้ำยืนยันไม่ทอดทิ้งแน่นอน ก็จะต้องให้ผู้ประกอบการเข้ามาแจ้งรายรายเอียดเพื่อช่วยเหลือเยียวยา โดยจะใช้เงินที่ได้จากประกันของทางตลาดน้ำช่วยเหลือต่อไป
 

ทั้งนี้ทางตลาดน้ำสี่ภาคไม่อยากที่จะปิดตัวนาน เพราะมีโปรแกรมทัวร์เข้าใช้บริการตลอด และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำลูกค้าเกิดความกังวล กลัวว่าจะไม่สามารถมาเปิดให้ใช้บริการได้อีก ขณะที่ทางตลาดน้ำมีโครงการที่จะเปิดโซนใหม่เพิ่มในเดือนกันยายนนี้ แต่มาเกิดเหตุเพลิงไหม้เสียก่อน จึงมีแนวคิดว่าจะย้ายมาเปิดในโซนใหม่ก่อน แล้วปิดปรับปรุงเฉพาะโซนที่เกิดเพลิงไหม้ เนื่องจากเป็นห่วงหลายด้าน ทั้งผู้ประกอบการร้านค้า พนักงาน โดยจะให้พ่อค้าแม่ค้าที่ได้รับผลกระทบไปจองพื้นที่ได้เลย รวมถึงไม่อยากจะให้ตลาดน้ำสี่ภาค ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอยู่แล้ว เป็นสถานที่ที่ถูกลืมไป จึงตัดสินใจจะเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 12 กันยายนนี้