
16 สิงหาคม 2566 การตัดต้นสนอายุ 50 ปี ใน สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนว่ามีการตัดต้นสนขนาดใหญ่ อายุมากกว่า 50 ปี ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ห่างจากศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 500 เมตร ริมถนนสวนสน – อ่าวน้อย เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์
จากการตรวจสอบพบว่า สวนดังกล่าวมีลักษณะทรุดโทรม ไม่มีการดูแลจากส่วนราชการแห่งใด
ขณะที่การตัดโค่นต้นสนภายในสวนมีตัวแทนกลุ่มประมงเรือเล็กปากคลองบางนางรม อ้างว่า มีพระภิกษุรูปหนึ่งในวัดธรรมิการาม ต้องการให้ตัดต้นไม้ดังกล่าว เพื่อทำการปรับปรุงภูมิทัศน์
สำหรับต้นสนที่ตัดยังมีโคนสูงจากพื้นมากกว่า 1 เมตร ส่วนไม้ทั้งหมดได้มอบให้ผู้ที่นำเครื่องจักรกลมาตัดนำไปขาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นายสุวิทย์ พลเสน หัวหน้าสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สวนเฉลิมพระเกียรติฯดังกล่าว มีบันทึกการส่งมอบให้เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2551 เพื่อให้เทศบาลดูแลรักษา ในเอกสารยืนยันว่า เทศบาลได้รับไว้เป็นการถูกต้องแล้ว จากการลงนามของ รองผู้ว่าราชการจังหวัด โยธาจังหวัด นายกเทศมนตรีและปลัดเทศบาลในขณะนั้น
สำหรับการดูแลสวนในปัจจุบันเพื่อให้สมพระเกียรติ ต้องสอบถามจากผู้มีอำนาจในเทศบาลยุคปัจจุบันว่าได้ดำเนินการอย่างไร เหตุใดมีการปล่อยให้ตัดต้นไม้ หรือมีผู้ใดเข้าไปใช้ประโยชน์จากสวนแห่งนี้ ซึ่งเดิมหน่วยงานราชการได้ ขอใช้พื้นที่ธรณีสงฆ์จากวัดธรรมิการาม ที่คณะเหนือทำการจัดสร้าง
ขณะที่ จ่าอากาศเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หากมีการส่งมอบแล้วอย่างถูกต้อง ไม่ควรปล่อยให้สวนเฉลิมพระเกียรติฯแห่งนี้ทรุดโทรม หรืออนุญาตให้บุคคลใดเข้ามาใช้พื้นที่เพื่อหาประโยชน์ ซึ่งทราบว่าที่ผ่านมามีความขัดแย้งระหว่างบุคคล 2 กลุ่ม ที่หากินกับการท่องเที่ยวในคลองบางนางรม
ขณะที่ เครือข่ายฯ จะตรวจสอบว่า 15 ปี ที่ผ่านมาเทศบาลรับมอบ โดยนำไปผ่านสภาเห็นชอบใช้งบดูแลรักษาหรือไม่ นอกจากนั้นโยธาฯ ควรแสดงเอกสารขอใช้ที่ดินธรณีสงฆ์ให้ชัดเจนว่า เป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้องหรือไม่
สำหรับการจัดสร้างสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ทุกอย่างควรทำให้ถูกต้อง ไม่ควรทำเหมือนการใช้งบพัฒนาจังหวัดบนยอดเขาช่องกระจก โดยโยธาจังหวัดนำงบไปปรับปรุงภูมัศน์ เนื่องจากคิดว่าบนยอดเขาเป็นที่ดินของวัดธรรมิการาม แต่มีปัญหาหลังจากมีการตัดโค่นต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นไม้ทรงปลูกของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2561 ต่อมาจังหวัดได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยตีความให้ที่ดินบนยอดเขาเป็นที่ธรณีสงฆ์
จ่าอากาศเอกเสกสรรค์ กล่าวว่า การทำโครงการเพื่อเทิดพระเกียรติที่ถนนสวนสน-อ่าวน้อย ควรมีความชัดเจน หากไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบ ก็จะเหมือนกับโยธาจังหวัด และเทศบาล ยังไม่ไปแจ้งความดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์กับแก๊งรถกระเช้าสีส้ม ลักเสาไฟสับปะรด ต้นละ 8 หมื่นบาท จากสันเขื่อนริมหาดหน้าเขาช่องกระจกไปขายร้านขายของเก่า เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กรณีล่าสุดก็เชื่อว่าไม่สามารถแจ้งความเอาผิดในคดีอาญากับบุคคลที่ร่วมกันตัดต้นสนขนาดใหญ่ในสวนเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการทำหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ เพื่อปกป้องทรัพย์สินจากการใช้งบประมาณแผ่นดินประสบความล้มเหลว ไม่เว้นแม้แต่การทำโครงการสำคัญเพื่อเทิดพระเกียรติในระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา