13 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง ที่ บริเวณจุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ ม.2 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เช้าวันนี้วัดได้ 10.70 เมตร ลดลงจากวานนี้ 0.65 ซม. และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ แต่ยังส่งกระทบต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้านพื้นบ้านที่อาศัยอยู่ตามริมแม่น้ำโขง ทั้งชาวไทย และพี่น้องชาว สปป.ลาว โดยเฉพาะชาวประมงพื้นบ้าน ที่ต้องปรับเปลี่ยนวิถีหาปลาในแม่น้ำโขง เนื่องจากยังมีเศษไม้ เศษขยะไหลปะปนมากับสายน้ำ โดยหยุดการไหลมอง หันมาใส่ลอบดักปลา และใส่เบ็ดราว (เบ็ดเผือก) ตามริมแม่น้ำโขงแทน
นอกจากนี้ เกษตรกรที่เลี้ยงโคกระบือ บ้านหนองแวง ม.3 ต.วิศิษฐ์ บ้านดอนยม ม.2 ตไคสี อ.เมืองบึงกาฬ ต้องนำควายขึ้นมาเลี้ยงในพื้นที่สูง หรือตามริมข้างทาง ที่มีหญ้าให้ควายกินไปพลางก่อน โดยพื้นที่บ้านดอนยม บ้านโนนแพง และบ้านหนองแวง ที่อยู่ติดกับหนองกุดเบ็น และหนองกุดจับ ถูกน้ำโขงไหลหนุนเข้าลำห้วยท่วมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง จนไม่มีทุ่งหญ้าให้สัตว์เลี้ยงได้หากิน
สำหรับสถานการ์น้ำท่วมโดยรวมของจังหวัดบึงกาฬ ขณะนี้ได้ประกาศเป็นเขตประสบภัยน้ำท่วมแล้ว 4 อำเภอ คือ อ.เซกา อ.โซ่พิสัย อ.บุ่งคล้า และ อ.บึงโขงหลง ครอบคลุม 20 ตำบล 212 หมู่บ้าน เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา และวานนี้ 12 ส.ค.ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม(เพิ่มเติม) ใน 3 อำเภอ คือ อำเภอบุ่งคล้า(เดิม) ทำให้เกิดดินโคลนถล่ม ส่งผลให้ถนนระหว่างบ้านภูสวาท ม.6 เชื่อมต่อกับบ้านเทพมีชัย ม.7 ต.หนองเดิ่น ได้รับความเสียหาย ชาวบ้านสัญจรไป-มาลำบาก /อำเภอบึงโขงหลง(เดิม)น้ำท่วมนาข้าวอีก ใน 4 ตำบล 9 หมู่บ้าน / และอำเภอศรีวิไล(ใหม่)น้ำท่วมในพื้นที่การเกษตรใน 8 ตำบล 31 หมู่บ้าน รวมพื้นที่การเกษตร(นาข้าว)กว่า 20,000 ไร่