
10 สิงหาคม 2566 จากกรณี "กอนช." ออกประกาศ ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง พบว่า ฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง รวมถึงบริเวณแขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่ กรมชลประทาน สั่งเฝ้าระวัง 8 จังหวัดเสี่ยง น้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เนื่องจากระดับน้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 10 – 15 สิงหาคม 2566 โดยในหลายจังหวัดภาคอีสานเริ่มได้รับผลกระทบ น้ำในลำน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้น จ่อทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชั้นใน ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
หนองคาย น้ำขึ้นต่อเนื่อง เทศบาลเตรียมพร้อมรับมือ
สถานการณ์ระดับน้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคาย ยังคงมีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทะลุ 11 เมตร ทำสถิติสูงสุดในรอบปี 2566 อีกวัน เทศบาลเมืองหนองคายเตรียมความพร้อมรับมือ ปิดประตูระบายน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ไว้เพื่อสูบน้ำออกจากตัวเมืองหนองคายที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจทันที หากน้ำโขงล้นตลิ่งหรือซึ่งเข้าตัวเมือง
ระดับน้ำโขงวัดที่ ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 11.35 เมตร ทำสถิติระดับน้ำโขงสูงสุดในรอบปี 2566 อีกครั้ง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของเมื่อวานนี้ถึง 1.13 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 85 ซม.เท่านั้น ขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 3 – 5 ซม.
ระดับน้ำโขงที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีระดับสูง ได้ทำให้พื้นที่การเกษตรที่บ้านปากมาง ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ พื้นที่กว่า 1 พันไร่ ที่น้ำโขงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ จนต้องมีการระดมขนย้ายผลิตผลทางการเกษตร ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ก็มีระดับน้ำที่ท่วมเพิ่มสูงขึ้นอีก ส่วนโป๊ะแพ และเรือที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ก็ยังคงมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อคอยปรับให้เหมาะสมกับระดับน้ำโขงที่เพิ่มขึ้น หากไม่ปรับก็จะถูกน้ำท่วมเสียหาย
เทศบาลเมืองหนองคาย ได้มีการเตรียมความพร้อมน้ำโขงเข้าท่วมในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองหนองคาย โดยเฉพาะพื้นที่ตัวเมืองที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและอยู่ติดกับแม่น้ำโขง ล่าสุดได้มีการปิดประตูระบายน้ำที่มีอยู่ 7 แห่ง พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ที่บริเวณปากประตูระบายน้ำ รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ตัวเมืองตอนในอีก 3 จุด ไว้เพื่อสูบน้ำออกจากตัวเมืองหนองคายที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจทันทีหากน้ำโขงล้นตลิ่งหรือซึ่งเข้าตัวเมือง
รวมไปถึงสูบน้ำฝนออกจากตัวเมืองลงแม่น้ำโขง มีการจัดเตรียมพื้นที่ในการอพยพ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังในพื้นที่และจากจังหวัดอุดรฯ ไว้ช่วยเหลือและอพยพประชาชนทันที หากเกิดสถานการณ์น้ำโขงล้นตลิ่งเข้าท่วมในตัวเมืองหนองคาย
นครพนมน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นนาทีต่อนาที
ล่าสุด วันที่ 10 สิงหาคม 2566 เวลา 10.00 น. ระดับน้ำในแม่น้ำโขงวัดที่สถานีวัดน้ำเขตเทศบาลเมืองนครพนม วัดได้ที่ 10.90 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติเพียง 1.60 เมตร. เท่านั้น โดยระดับวิกฤติที่น้ำโขงจะล้นตลิ่งที่จังหวัดนครพนม อยู่ที่ 12.50 เมตร ทำให้ต้องจับตาเฝ้าระวังต่อสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่ ผู้ว่าฯนครพนม สั่งเฝ้าระวัง 4 อำเภอริมโขง เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน โดย นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าฯนครพนม เปิดเผยว่า เนื่องจากว่าในวันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ใกล้จุดวิกฤตเหลือเพียงแค่เมตรกว่า ๆ เท่านั้น จึงเชิญหน่วยงานทหาร พลเรือน ชลประทาน และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องประชุมอย่างเร่งด่วน เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำร่วมกับนายอำเภอทั้ง 12 อำเภอ ผ่านระบบ VDO Conference
ตอนนี้ปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมในพื้นที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยคาดการณ์ว่า มวลน้ำทางตอนเหนือยังคงไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่องภายใน 1 สัปดาห์นี้ จึงขอให้ทุกภาคส่วนยกระดับเตรียมความพร้อมเพื่อเฝ้าระวังและเตรียมช่วยเหลือผู้ประสบภัยในด้านต่าง ๆ ให้ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
ในเบื้องต้นจะได้มีการแจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ทั้ง 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านแพง อำเภอท่าอุเทน อำเภอเมืองนครพนม และอำเภอธาตุพนม ขอให้ระมัดระวังและสังเกตุระดับน้ำโขงตลอดเวลา ซึ่งคาดว่าอาจสูงอีกอย่างต่อเนื่อง และหากเป็นไปได้ขอให้เคลื่อนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในที่สูงไว้ก่อน
ส่วนการเตรียมการณ์ในด้านต่างๆนั้น ทางจังหวัดนครพนมได้มีการบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อให้การช่วยเหลือไว้พร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ นรข. โดยพร้อมที่จะนำเครื่องมือ ยานพาหนะ เครื่องจักรกล เรือยนต์ และยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ออกไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่และสุดความสามารถตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้ว่าฯบึงกาฬ พร้อมประกาศเขตพื้นที่ประสบภัย
นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผวจ.บึงกาฬ ลงพื้นที่พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร อปท. จนท.ฝ่ายปกครอง เทศบาลเมืองบึงกาฬ ปภ.บึงกาฬ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจดูระดับน้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่ อ.เมืองบึงกาฬ , อ.ปากคาด, ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง ของโครงการพัฒนาผังเมืองรวม หรือโครงการแลนด์มาร์ค
เช้าวันนี้ระดับน้ำโขงพุ่งสูงขึ้นอีก อยู่ที่ 11.50 เมตร เพิ่มขึ้นจากว่านี้ 80 ซม. ต่ำกว่าตลิ่ง 2.50 เมตร สูงสุดในรอบ 3 ปี ใกล้จุดวิกฤติที่ระดับ 12 เมตร และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
ผู้ว่าฯ ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ มาเป็นระยะเวลา 16 วัน ติดต่อกันแล้ว จึงลงพื้นที่มาดูจุดสำคัญต่างๆ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.พรเจริญ อ.บึงโขงหลง อ.โซ่พิสัย อ.เซกา และ อ.ศรีวิไล คาดว่าอาจเกิดผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรประมาณ 17,000 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกข้าว
"ล่าสุดได้ออกประกาศเป็นเขตประสบภัยน้ำท่วมแล้ว 4 อำเภอ คือ อ.เซกา อ.โซ่พิสัย อ.บุ่งคล้า และ อ.บึงโขงหลง"
นอกจากนี้ ขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ขณะนี้ขอให้ผู้ที่มีพื้นที่อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขา ได้เฝ้าระวัง และเตรียมการให้พร้อมในการอพยพเคลื่อนย้ายไปอยู่ในพื้นที่สูง ตามที่ได้ดำเนินการตามแผนป้องกันภัยน้ำท่วมที่เราได้เตรียมการไว้ในทุกพื้นที่อยู่แล้ว หากเกิดเหตุน้ำท่วมเข้ามาในพื้นที่
ขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจ ไม่ตื่นตระหนก ไม่ไม่ตั้งอยู๋ในความประมาท ที่สำคัญให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนอย่างใกล้ชิด
เชียงคานน้ำโขงเริ่มลด ปลากระชังน็อคน้ำตาย
ขณะที่ อ.เชียงคาน จ.เลย น้ำโขงเริ่มลด แต่ยังคงเฝ้าระวัง ผู้เลี้ยงปลากระชังเศร้าปลาน็อคตายเกลี้ยงกว่า 50 กระชัง โดยสถานการณ์น้ำโขง ระดับน้ำหน้าสถานีอุทกวิทยาที่ 2 เลย อ.เชียงคาน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ถึง เวลา 7.00 น. วันนี้ (10 ส.ค.) ระดับน้ำ 13.73 ม. ลดลง 0.37 ม. ต่ำกว่าตลิ่ง 2.27 ม. แต่ระดับน้ำยังคงท่วมเอ่อร้านค้าตามแหล่งท่องเที่ยว อย่างเช่นหาดนางคอย แก่งคุดคู้ รวมทั้งยังสร้างความเสียหายกับเกษตรกรผู้เลี้ยงกระชังปลาในแม่น้ำโขง ปลาน็อกน้ำตายกว่า 50 กระชัง
นายอภินันต์ สุวรรณโค นายอำเภอเชียงคาน เผยว่า ระดับน้ำน้ำโขงตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. อำเภอเชียงคานเริ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนถึงวันที่ 9 ระดับน้ำในช่วงเที่ยงขึ้นสูงถึงระดับ 14.14 ม. ซึ่งจุดวิกฤตน้ำโขงจะอยู่ที่ 14.50 ม. ต่อมาช่วงช่วงเย็นน้ำได้เริ่มลดระดับลง ในช่วงเช้านี้ระดับน้ำโขง 13.73 ม. ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.27 ม.
อย่างไรก็ตาม จากประกาศของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ วันที่ 10-15 ส.ค. สถานีเชียงคาน ที่ได้คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2.50-3.50 ม. ทางอำเภอเชียงคานยังคงประกาศ ให้ชาวบ้านที่อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขา ให้ยกของขึ้นที่สูงรวมทั้งแหล่งท่องเที่ยว ทั้งหาดนางคอย แก่งคุดคู้ ที่ร้านอาหารถูกน้ำท่วมตั้งแต่เช้าเมื่อวานนี้ ในส่วนบ้านที่อยู่ริมตลิ่ง ตำบลเชียงคาน ตำบลบุฮม ยังต้องเฝ้าระวังรวมทั้งบ้านที่ติดตลิ่งลำห้วย ลำน้ำสาขา ที่น้ำโขงอาจย้อนกลับทำให้เกิดผลกระทบได้