หมอ รพ.ตะกั่วป่า ไม่ทน ร้องผู้ว่าฯ ตรวจสอบเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน P4P

8 สิงหาคม 2566 ที่ศาลากลางจังหวัดพังงา มีกลุ่มแพทย์โรงพยาบาลตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า นำโดย นายแพทย์สมชาย บัวสด ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ , นายแพทย์พีระวัฒน์ ศรีงาม อายุรแพทย์โรคไต และ นายแพทย์จิรวัฒน์ สฤษดิสุข ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ เป็นเป็นตัวแทนแพทย์ในสังกัด โรงพยาบาลตะกั่วป่า เข้ายื่นเอกสารร้องขอความเป็นธรรม จากนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา 

เพื่อขอให้ตรวจสอบรายละเอียด และความถูกต้อง ของการดำเนินการเบิกจ่าย ค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน (P4P) ของโรงพยาบาลตะกั่วป่า หลังจากเคยทำหนังสือร้องเรียน มาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา มาแล้วครั้งหนึ่ง  แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทางกลุ่มแพทย์ที่ร้องเรียน และผู้บริหารโรงพยาบาลตะกั่วป่า เพื่อให้ความเป็นธรามกับทุกฝ่าย 

 

นายแพทย์จิรวัฒน์ สฤษดิสุข เปิดเผยว่า เงินค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน P4P ที่มีเจตนารมณ์จ่ายค่าตอบแทนให้เจ้าหน้าที่เพิ่ม ตามภาระงานและปริมาณงาน ที่เกินกว่าภาระงานปกติตามเกณฑ์ที่กำหนด ต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า ความเสมอภาค และความเป็นธรรม รวมทั้งมีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ 

ซึ่งค่าตอบแทน P4P ที่ รพ.ตะกั่วป่า ขออนุมัติจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา ประจำปีงบประมาณ 2566 กรอบวงเงินในส่วนของแพทย์ จำนวน 37 คน แพทย์ควรได้รับเฉลี่ยคนละ 7,906.00 บาท/คน/เดือน ทางโรงพยาบาลหัก 20% ไว้เพื่อจ่ายตามเกณฑ์คุณภาพ แพทย์ก็ควรได้รับเฉลี่ยคนละ 6,324.80 บาท/คน/เดือน แต่จากข้อเท็จจริงทางโรงพยาบาลจ่ายค่าตอบแทน P4P ยอดประจำเดือน พ.ย. 65 ถึง เดือน ก.พ. 66 ได้รับเพียงเดือนละ 4,703 บาท/คน/เดือน เท่านั้น เท่ากับแพทย์ถูกหักเพิ่มอีก 1,621.80 บาท/คน/เดือน

ที่ผ่านมาเคยทำหนังสือสอบถาม กับทางโรงพยาบาลตะกั่วป่า และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนว่า ค่าตอบแทนที่หายไปนั้น ทางโรงพยาบาลนำไปไหนอย่างไร ทั้งที่เงินค่าตอบแทนตามผลปฏิบัติงาน P4P ดังกล่าว มีเจตนารมณ์เพื่อใช้บำรุงขวัญและกำลังใจแพทย์ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 

 

นายแพทย์สงกรานต์ จันทร์มุณี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตะกั่วป่า ชี้แจงว่า ค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน P4P ระเบียบกำหนดไว้ว่า โรงพยาบาลขนาด M1 จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ตามผลการปฏิบัติงานเป็นส่วนที่ 1 ส่วนที่ 2 ก็คือตามเกณฑ์คุณภาพ ซึ่งกำหนดให้อยู่ที่ร้อยละ 10 - 40

โดยโรงพยาบาลตะกั่วป่า ผ่านมติที่ประชุมสรุปกันว่า จะใช้เกณฑ์แบบ 80 - 20 โดย 80 ก็คือตามผลการปฏิบัติงาน ในส่วนของ 20 ก็คือตามหลักเกณฑ์คุณภาพ ซึ่งในส่วนของ 20 เราจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือ 10% จะเป็นภาพรวมโรงพยาบาลในส่วนที่ 2 อีก 10% อยู่ในกลุ่มวิชาชีพถ้าเป็นแพทย์ก็ 10% ของกลุ่มแพทย์ด้วยกัน 

ส่วนประเด็นค่าตอบแทน ที่มีการเปลี่ยนแปลง น่าจะเกิดจาก 2 สาเหตุ ประการที่ 1 ก็คือวงเงินในแต่ละปีมีความต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับ label cost ซึ่งก็จะมีการคิดคำนวณออกมา ประการที่ 2 ก็คือปริมาณหรือจำนวนของแพทย์ในแต่ละเดือน จะมีความแตกต่างกัน ถ้าเกิดว่าแพทย์มาก ตัวหารมากเงินก็จะได้น้อย แต่ถ้าเกิดว่าแพทย์น้อยลง ตัวหารน้อยลงก็จะได้รับเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนนี้ก็จะมีความแตกต่างกันอยู่

ทางโรงพยาบาลตะกั่วป่าได้สรุปกันว่า ถ้าเกิดว่าแพทย์มีจำนวนที่น้อยลง เนื่องจากว่ามีการเกษียณอายุราชการ หรือว่ามีการลาออกหรืออะไรก็ตาม แล้วทำให้ตัวหารน้อยลง เงินมันได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่แพทย์ทำงานเท่าเดิม จึงคิดว่าตรงอย่างส่วนนี้ อาจจะไม่ได้เป็นประโยชน์กับทางราชการ

คณะกรรมการโรงพยาบาล เลยมองว่า ให้ใช้เป็นแบบการันตีไว้ว่า พื้นฐานปี 65 ได้อยู่เท่าไหร่ ปี 66 ก็ได้เท่านั้น แต่ส่วนที่ต่างก็จะไปอยู่ใน 10% ของวิชาชีพแพทย์ ซึ่งถ้าทำเกณฑ์คุณภาพ ที่สอดคล้องกับจุดเน้นของโรงพยาบาล ก็จะได้เงินเพิ่ม

ในส่วนของแพทย์ ที่มีความไม่เข้าใจตรงส่วนนี้ ทางโรงพยาบาลจะเชิญเข้ามาชี้แจงทำความเข้าใจกัน คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของความไม่เข้าใจ หรือการสื่อสารอาจจะไม่ถูกต้อง ยืนยันทุกอย่างทำผ่านมติของกรรมการ ผ่านในรูปของกรรมการ และเงินทั้งหมดก็เป็นเงินบำรุงโรงพยาบาล ที่ใช้จ่ายถูกต้องตามระเบียบ