ยิ่งลึกยิ่งเศร้า! พบใบขอทุนเรียน ด.ญ.10 ขวบ ไม่ทันขอ ถูกพ่อปลิดชีพเสียก่อน

4 สิงหาคม 2566 ความคืบหน้าเหตุสะเทือนใจ กรณีที่มีผู้พบศพ นายไพบูลย์ หรือ แอ๊ด โจมรัมย์ อายุ 31 ปี และ ด.ญ.ข้าวอายุ 10 ปี ลูกสาว นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ผูกคอติดกับตัวบ้าน ลักษณะศพหันหน้าเข้าหากัน ที่บ้านหลังหนึ่งใน ม.2 ต.สาวเอ้ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์

สิ่งที่ทำให้ผู้พบเห็นสลดใจ คือ ปมเหตุเกิดจากความยากจน ไม่มีเงินแม้จะให้ลูกไปโรงเรียน หลังภรรยาหนีไปแต่งงานใหม่ ต้องรื้อสังกะสีหลังคาบ้านไปขาย เอาเงินให้ลูกไปโรงเรียน ซ้ำบ้านยังโดนตัดน้ำไฟ  ต้องใช้ชีวิตอยู่ในความมืด นานกว่า 3 ปี ตามที่นำเสนอไปนั้น 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• หดหู่! หนุ่มเมียทิ้งหนีความจน ซ้ำน้ำไฟโดนตัด ฆ่าลูก 10 ขวบ ก่อนผูกคอตายตาม

ต่อมา นางปด อึกประโคน อายุ 38 ปี เพื่อนบ้าน ออกมาเปิดเผยว่า หลังจากบ้าน นายแอ๊ด ถูกตัดน้ำตัดไฟ ก็รู้สึกสงสาร เพราะไม่มีเงินไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้าน และรู้สึกสังสารเด็ก จึงต่อน้ำไปให้ใช้ แต่ยังไม่ให้ต่อไฟไปให้ใช้ เพราะเกรงว่าภาระในครอบครัวของตน จะยากลำบากอีก 

ส่วนสาเหตุการก่อเหตุ ของ นายแอ๊ด ครั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่า เป็นเพราะภรรยา หนีไปมีสามีใหม่ ทิ้งลูกให้เลี้ยงคนเดียว และยังมีโรคประจำตัว หาเงินให้ลูกไปโรงเรียนไม่ได้ ส่วนตัวคาดว่า พ่อน่าจะทำเด็กก่อน  เพราะเห็นเดินก้มหน้าก้มตา ไม่พูดจากับใคร ไม่เห็น ด.ญ.ข้าว เดินตาม หรือมาเล่นบริเวณนี้ แล้ว นายแอ๊ด ย้อนไปผูกคอตัวเองตายตาม 

 

ขณะที่ล่าสุด เจ้าหน้าที่พบแบบฟอร์ม ใบขอทุนเรียนดี ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่ ด.ญ.ข้าว ขอมาจากครู วางอยู่ภายในบ้าน แต่ยังไม่ทันกรอกข้อมูล
 

นอกจากนี้ยังพบจดหมายลาตาย คาดว่า นายแอ๊ด เป็นคนเขียนก่อนก่อเหตุ โดยเขียนข้อความว่า "มีคนคิดใหม่อยู่ไปอะไร เกิดแก่เจ็บตายก็เห็นแล้ว เห็นโลกมาหมดแล้ว ตายดีกว่า” พร้อมวาดภาพใบหน้าคน 2 คน ด้านท้ายของจำหมาย


นางสำเนียง แสงตะวัน อายุ 60 ปี แม่ของนายแอ๊ด ที่เดินทางมาดูศพลูกชาย และหลานที่บ้าน ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ปกติลูกชายและหลานเป็นคนร่าเริง น่าจะเป็นเรื่องที่สะสมมานาน โดยเฉพาะภรรยาของลูกชาย ที่หนีไปมีสามีใหม่ ทั้งที่ลูกชายไม่มีความผิด
 

ส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะเกิดจากความน้อยใจกับภรรยา ที่ไม่เคยมาเหลียวแลลูกสาว ที่กำลังกินกำลังนอน เท่าที่ทราบลูกชายโทรศัพท์ไปขอเงินกับภรรยา 200 บาท แต่ถูกปฏิเสธ ซึ่งอาจจะมีหลายเรื่องสะสม จึงมาก่อเหตุในครั้งนี้

จึงอยากจะฝากถึง นางวนาลี หรือ เป้ แม่น้องข้าว ลูกสะใภ้ที่ไปอยู่กับสามีใหม่ ที่จังหวัดอุบลราชธานี ถ้ายังคิดว่า น้องข้าว ลูกสาววัย 10 ขวบเป็นลูกอยู่ ให้มาส่งลูกเป็นครั้งสุดท้าย ที่จะมีทำการฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค.) หากไม่มาถือใจดำที่สุด