svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

กัปตันเรือสปีดโบ๊ท แจงเหตุผลขับฝ่าคลื่นยักษ์ ชี้ เลี้ยวหัวกลับอันตรายกว่า

03 สิงหาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กัปตันเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยว ขอความเป็นธรรมพร้อมแจงเหตุผลขับฝ่าคลื่นจากเกาะพีพีกลับภูเก็ต ระบุ เช็กสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง แต่คลื่นลมฝนมาเร็วกว่ากำหนด ชี้ ขับเกาะกลุ่มตามเรือลำใหญ่ไม่อันตรายเท่าเลี้ยวหัวเรือกลับ

ความคืบหน้ากรณีที่มีแชร์คลิป เรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยว ขับฝ่าคลื่นลมแรงสูง 2-3 เมตร ขณะเดินทางกลับจาก เกาะพีพี จ.กระบี่ ไปยัง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (1 ส.ค.) สร้างความหวาดเสียวแก่นักท่องเที่ยว ที่โดยสารอยู่บนเรือเป็นอย่างมาก โดยเจ้าท่าฯ ภูเก็ต สั่งเอาผิดเรือท่องเที่ยว ฝ่าฝืนคำสั่งเดินเรือช่วงคลื่นลมแรง ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

กัปตันเรือสปีดโบ๊ท แจงเหตุผลขับฝ่าคลื่นยักษ์ ชี้ เลี้ยวหัวกลับอันตรายกว่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 


3 สิงหาคม 2566 นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอเมืองภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต, นายอดูลย์ ระลึกมูล เจ้าพนักงานตรวจเรือชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวเรือณัฐทิชา 555 และเรือ ที เอส เค 6, กัปตันเรือ และมัคคุเทศก์ ร่วมชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวออกไป เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 

กัปตันเรือสปีดโบ๊ท แจงเหตุผลขับฝ่าคลื่นยักษ์ ชี้ เลี้ยวหัวกลับอันตรายกว่า

นายจิรทีปต์ ประโมงกิจ กัปตันเรือณัฐทิชา 555 ซึ่งเป็นเรือที่ถูกถ่ายคลิป ชี้แจงว่า ก่อนเดินทางได้มีการตรวจเช็กสภาพอากาศ พบว่าจะมีคลื่นลมแรงช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. จึงแจ้งไปยังบริษัทฯ ให้ทราบ และได้นำเรือออกจากเกาะพีพี เวลาประมาณ 13.50 น. เพราะใช้เวลาเดินทางไปภูเก็ต ประมาณ 1 ชั่วโมง มั่นใจว่าจะถึงที่หมายก่อนสภาพอากาศจะเปลี่ยนแน่นอน แต่หลังจากออกเรือมาได้ประมาณ 20-30 นาที ปรากฎว่าได้เกิดคลื่นลมแรง รวมทั้งมีฝนตกด้วย

กัปตันเรือสปีดโบ๊ท แจงเหตุผลขับฝ่าคลื่นยักษ์ ชี้ เลี้ยวหัวกลับอันตรายกว่า

ขณะเดียวกันมีเรือที่ออกเวลาไล่เลี่ยกันประมาณ 10 ลำ เป็นเรือบริษัทตนเอง 2 ลำ ซึ่งตนได้ขับตามเรือลำใหญ่ เหมือนเป็นเรือนำร่องช่วยฟันคลื่นให้ และยังมีเรือลำอื่น ๆ ขับตามมาด้วย และมองว่าการเลี้ยวหัวเรือกลับไปยังเกาะพีพี มีโอกาสพลาดและพลิกคว่ำได้ 

นายจิรทีปต์ กล่าวอีกว่า การขับตามกันมาเป็นวิธีการของคนเดินเรือที่รู้กัน เมื่อเจอคลื่นจะต้องให้เรือที่มีขนาดใหญ่นำหน้าเพื่อช่วยฟันคลื่น และเกาะกลุ่มกันไป เพื่อความปลอดภัย ซึ่งภาพที่ออกไปอาจดูน่ากลัว เพราะมุมกล้องถ่ายเสย เมื่อเทียบกับการควบคุมเรือ ครั้งนี้ถือว่าคลื่นยังไม่สูงมาก และอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้

ส่วนที่เห็นภาพว่าเรือไปทางซ้ายทีขวาที เป็นลักษณะของการเดินเรือเมื่อเจอคลื่น เพราะหากให้เรือปะทะกับคลื่นโดยตรงจะทำให้เรือแตกได้ จำเป็นต้องวิ่งแนวเฉียงเป็นการเล่นคลื่นเพื่อลดแรงกระแทก ซึ่งในวันนั้นคลื่นสูงประมาณ 3-4 เมตร

กัปตันเรือสปีดโบ๊ท แจงเหตุผลขับฝ่าคลื่นยักษ์ ชี้ เลี้ยวหัวกลับอันตรายกว่า

ผู้ประกอบการของเรือทั้ง 2 ลำ ยืนยันว่า ก่อนออกเรือทุกครั้งจะมีการตรวจสอบสภาพเรือ ความพร้อมของเรือ อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ชูชีพ ตลอดจนความพร้อมของคนขับเรือแลควบคุมเรือ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยที่หน่วยงานภาครัฐกำหนดทุกประการ และเมื่อเรือออกจากท่าก็จะมีการประสานกับทางกัปตันเรือตลอด รวมทั้งจะมีการแจ้งสภาพอากาศ สอบถามความเห็นขอกัปตันเรือ เพราะบางครั้งตอนขาไปสภาพคลื่นลมสงบ แต่เมื่อไปถึงกลางทะเลก็อาจจะมีคลื่นลมได้ ซึ่งในระหว่างนั้นก็ต้องให้กัปตันช่วยประเมิน ซึ่งเราให้ความสำคัญมากในเรื่องของความปลอดภัย

กัปตันเรือสปีดโบ๊ท แจงเหตุผลขับฝ่าคลื่นยักษ์ ชี้ เลี้ยวหัวกลับอันตรายกว่า

ส่วนกรณีที่เห็นนักท่องเที่ยวบางคนไม่สวมเสื้อชูชีพขณะที่อยู่บนเรือนั้น ทางมัคคุเทศก์แจ้งว่า ก่อนออกจากท่าฯ นั้นนักท่องเที่ยวทุกคนที่ลงเรือสวมเสื้อชูชีพทุกคน แต่เมื่อนั่งไปได้ระยะหนึ่งปรากฎว่าเมาคลื่น และอาเจียน จึงถอดเสื้อชูชีพออก และเป็นช่วงที่กล้องจับภาพได้ มีเพียง 2 คน แต่หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อยนักท่องเที่ยวก็ใส่เสื้อชูชีพกลับเหมือนเดิม 

นายอดูลย์ ระลึกมูล เจ้าพนักงานตรวจเรือ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเรือทั้ง 2 ลำดังกล่าว พบว่าตัวและเครื่องจักรยนต์มีสภาพพร้อมใช้งานตามที่ระบุในใบอนุญาตใช้เรือ หลังจากนี้จะเก็บข้อมูล เเละรับฟังความเป็นธรรมของทุกฝ่าย เเต่จะพิจารณาว่าจะเข้าข่ายตาม มาตรา 291 หรือไม่ หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อบังคับเกี่ยวแก่การเดินเรือหรือหน้าที่ของตน ให้เจ้าท่ามีอำนาจที่จะสั่งงดไม่ให้ใช้ประกาศนียบัตรหรือใบอนุญาตมีกำหนดไม่เกินสองปี โดยจะพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

กัปตันเรือสปีดโบ๊ท แจงเหตุผลขับฝ่าคลื่นยักษ์ ชี้ เลี้ยวหัวกลับอันตรายกว่า

ทั้งนี้ เน้นย้ำขอให้ติดตามประกาศของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต และให้ผู้ประกอบการกวดขันเพื่อรักษาตามมาตรการความปลอดภัยในช่วงมรสุมนี้ และขอให้นายเรือและผู้ควบคุมเรือเพิ่มความระมัดระวังเดินเรือ หลีกเลี่ยงการเดินเรือห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ควรงดออกจากฝั่ง และเรือที่มีขนาดความยาวน้อยกว่า 10 เมตร ห้ามออกจากฝั่งไปยังทะเลเปิด

ชมคลิป

logoline