
2 สิงหาคม 2566 ความคืบหน้า กรณีที่มีแชร์คลิป เรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยว จำนวน 3 ลำ ประสบกับคลื่นลมแรง 2 - 3 เมตร ขณะเดินทางกลับจาก เกาะพีพี จ.กระบี่ ไปยัง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (1 ส.ค.) สร้างความหวาดเสียวแก่นักท่องเที่ยว ที่โดยสารอยู่บนเรือเป็นอย่างมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ซึ่งเบื้องต้น ทางเจ้าท่ากระบี่ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมสั่งคุมเข้ม ห้ามบรรทุกน้ำหนักเกิน ผู้โดยสารต้องสวมเสื้อชูชีพ ขณะอยู่บนเรือ พร้อมแจ้งเตือน 1 - 2 วันนี้ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องได้มอบหมายให้เจ้าพนักงานตรวจเรือ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยผลการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า เรือที่กำลังฝ่าคลื่นลมในภาพข่าว ชื่อ เรือณัฐทิชา 555 หมายเลขทะเบียน 615101134 ขนาด 12.89 ตันกรอส ประเภทเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้บรรทุกคนโดยสาร (เรือเร็ว) ใบอนุญาตใช้เรือ มีอายุถึงวันที่ 20 ต.ค. 66 ได้ผจญคลื่นลมแรง ในระหว่างทางกลับจากเกาะพีพี จ.กระบี่ เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วันที่ 1 ส.ค. 66
เป็นการให้บริกาเรือเช่าเหมาลำ มีผู้โดยสาร 8 ราย และคนประจำเรือ 2 ราย รวมคนบนเรือ 11 ราย ผู้ควบคุมเรือ มีประกาศนียบัตรนายท้ายเรือกลเดินทะเลชั้นหนึ่ง เช่นเดียวกับผู้ควบคุมเครื่องจักร ประกาศนียบัตรคนใช้เครื่องจักรยนต์ชั้นหนึ่ง
ส่วนเรืออีกลำชื่อเรือ ที เอส เค 6 หมายเลขทะเบียน 605100673 ขนาด 18.37 ตันกรอส ประเภทเรือเดินกลเเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้ บรรทุกคนโดยสาร (เรือเร็ว) ใบอนุญาตใช้เรือมีอายุถึงวันที่ 30 พ.ค. 67 ได้ผจญคลื่นลมแรง คลื่นมีความสูงประมาณ 3 เมตร ในวันเดียวกัน (1 ส.ค.)
ขณะนั้นมีผู้โดยสาร 44ราย ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวจำนวน 42 รายไกด์ 2 รายและคนประจำเรือ 3 นาย รวม 47 ราย โดยมีผู้ควบคุมเรือ ถือประกาศนียบัตร นายท้ายเรือกลเดินทะเลชั้นหนึ่ง ส่วนผู้ควบคุมเครื่องจักร ถือประกาศนียบัตรคนใช้เครื่องจักรยนต์ชั้นหนึ่งพิเศษ ชำนาญงาน
นายณชพงศ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบเรือทั้ง 2 ลำดังกล่าว พบว่า ตัวเรือและเครื่องจักรยนต์ มีสภาพพร้อมใช้งาน ตามที่ระบุในใบอนุญาตใช้เรือ มีอุปกรณ์เดินเรือ สัญญาณไฟเดินเรือ อุปกรณ์ดับเพลิง และเสื้อชูชีพครบตามจำนวน ที่ได้รับอนุญาต พร้อมทำการสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น และได้แจ้งลักษณะการกระทำความผิด ของผู้ควบคุมเรือ เข้าข่ายตาม มาตรา 291 วรรคแรก
มีสาระสำคัญว่า ผู้นำร่อง นายเรือ ต้นหน สรั่ง ไต้ก๋ง นายท้าย คนถือท้าย ต้นกล หรือคนใช้เครื่อง ที่ได้รับประกาศนียบัตร หรือใบอนุญาต ผู้ใดหย่อนความสามารถ หรือประพฤติไม่สมควรแก่หน้าที่ ละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือข้อบังคับเกี่ยวแก่การเดินเรือหรือหน้าที่ของตน
ให้เจ้าท่ามีอำนาจที่จะสั่งงด ไม่ให้ใช้ประกาศนียบัตร หรือใบอนุญาต มีกำหนดไม่เกินสองปี แต่ไม่เป็นการลบล้างโทษอย่างอื่น ซึ่งผู้นั้นจะพึงได้รับ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งนัดหมาย เชิญผู้ควบคุมเรือและผู้เกี่ยวข้องฯ เข้าไปให้ถ้อยคำและชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ได้มีประกาศ ที่ 32/2566 เรื่องให้ระมัดระวังการเดินเรือ ลงวันที่ 2 ส.ค. 66 ระบุว่า ในระหว่างวันที่ 2 - 3 ส.ค. นี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ตอนบน ประกอบกับมีพายุดีเปรสชั่นกำลังแรง ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนมากขึ้น และมีฝนตกหนักในบางพื้นที่
เพื่อความปลอดภัย ขอให้นายเรือและผู้ควบคุมเรือ เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือห่างฝั่ง และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ควรงดออกจากฝั่ง และเรือที่มีขนาดความยาวน้อยกว่า 10 เมตร ห้ามออกจากฝั่งไปยังทะเลเปิด โดยจะต้องมีการตรวจสอบความพร้อมของตัวเรือเครื่องยนต์เรือ พร้อมจัดอุปกรณืด้านความปลอดภัยให้พร้อมให้งาน