มทภ.4 สั่งระดมทหาร เร่งเหลือผู้ประสบเหตุ "โกดังเก็บพลุ ดอกไม้ไฟระเบิด"

30 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้าเหตุ โกดังประทัดระเบิด ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ล่าสุดเมื่อ 19.30 น. สวท.สุไหงโก-ลก รายงานยอดผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 118 ราย เสียชีวิต จำนวน 10 ราย บ้านเรือนเสียหาย จำนวน 200 หลังคาเรือน

ซึ่งเบื้องต้นพบว่า โกดังแห่งนี้ใบอนุญาตก่อสร้าง แต่กลับลักลอบเก็บ "พลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ" โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยขณะนี้ทราบตัวเจ้าของแล้ว อยู่ระหว่างติดตามมาสอบสวนดำเนินคดี 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• ผู้ว่าฯ นราธิวาส เผยเจ้าของลักลอบเก็บประทัดในโกดัง เร่งเอาผิดตามกฎหมาย
• เช็กรายชื่อผู้เสียชีวิต เหตุโกดังประทัดระเบิด ยืนยัน 10 ศพ บ้านพัง 200 หลัง
• นายกฯ ย้ำทุกฝ่ายเร่งดูแลผู้ได้รับผลกระทบ โกดังเก็บประทัดตลาดมูโนะระเบิด

ทั้งนี้ภายหลังเกิดเหตุ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ โดย พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งระดมกำลังทหารในพื้นที่รับผิดชอบเขต ต.มูโน๊ะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เข้าช่วยเหลือ ประชาชน ผู้ประสบเหตุ โกดังเก็บพลุ ดอกไม้ไฟระเบิด  ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
 

มีกองพลทหารราบที่ 15 ได้จัดโรงครัวพระราชทาน และทหารจิตอาสา จากกรมทหารราบที่ 151 เข้าช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้นเป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะอาหาร  น้ำดื่ม และที่พักอาศัย 


ขณะที่จังหวัดนราธิวาส ได้ใช้ สนามกีฬาเทศบาลมูโนะ เป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุพลุไฟระเบิด เป็นศูนย์อพยพชั่วคราว ซึ่งสามารถบรรจุยอดคนได้ 100 คน 

 

สำหรับความเสียหายในขณะนี้ สรุปได้ดังนี้ 
ผู้บาดเจ็บ
-บาดเจ็บเล็กน้อย 106 ราย
-รักษาตัวที่ รพ.9 ราย
-บาดเจ็บสาหัส 15 ราย

ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บหลายราย ภายหลังได้รับการรักษาพยาบาลเบื้องต้น สามารถกลับบ้านได้ ยังคงมีผู้บาดเจ็บที่สาหัส และต้องดูอาการ และยังรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลสุไหงโกลก และโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

ยอดผู้เสียชีวิต จำนวน  10 ราย เป็น ชาย 7 ราย เด็กชาย 1 ราย เด็กหญิง 1 ราย  อีก 1 ราย ยังไม่สามารถระบุเพศได้ เนื่องจากถูกไปไหม้อย่างหนัก และยังพบมีผู้สูญหายรวมด้วย 1 ราย
 

ขณะที่ บ้านเรือนได้รับความเสียหาย จากการสำรวจเบื้องต้น จำนวน 200 หลัง โดยพื้นที่รอบระยะ 500 เมตร ได้รับความเสียหายหนัก ระยะ 1 กม. ได้รับความเสียหายบางส่วน ทุกภาคส่วน ต่างเร่งเข้าให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน