svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

สุดเศร้า สาวไทยถูกน้ำป่าดินถล่มเสียชีวิต ที่เกาหลีใต้ ลูกสาว 3 คนต้องกำพร้าแม่

16 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สุดเศร้า แรงงานสาวไทย ถูกน้ำป่าดินถล่มเสียชีวิต ที่เกาหลีใต้ ลูกสาว 3 ชีวิต กลายเป็นเด็กกำพร้าแม่ ครอบครัววอนช่วยเร่งพากลับบ้าน มาบำเพ็ญกุศลโดยเร็ว

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก “สะใภ้เกาหลีใต้มาดามลี”  ได้โพสต์แชร์เหตุการณ์ มีหญิงสาวชาวไทยภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมาถูกน้ำป่าดินถล่มพัดจนเสียชีวิต 1 ราย หลังพายุถล่มเกาหลีใต้ที่เมืองมุลคย็องชี  

16 กรกฎาคม 2566 ญาติของแรงงานหญิงไทย ทราบว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านหนองแคทราย หมู่ที่ 8 ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านเกิดของหญิงสาวที่เสียชีวิต ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.ลำเพียก พบว่าบริเวณหน้าบ้านมีบรรดาญาติพี่น้องของผู้ที่มีรายงานเสียชีวิตจากเหตุน้ำป่าดินถล่มที่ประเทศเกาหลีใต้ กำลังนั่งจับกลุ่มพูดคุยให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย ทราบชื่อผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ คือ น.ส.พชรมน อายุ 33 ปี 

น.ส.พชรมน ผู้เสียชีวิต
โดย น.ส.พชรมน เดินทางไปทำงานเป็นคนสวนและโกดังผลิตน้ำผลไม้ เพื่อทำไวน์ให้กับนายทุนคนหนึ่งที่เมืองมุคย็องชี กับสามีคือนายสุพิชา อายุ 33 ปี มานานกว่า 4 ปีแล้ว โดยถูกกระแสน้ำป่าพัดจนเสียชีวิตและทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถเก็บกู้ร่างกลับคืนมาได้แล้ว  ขณะที่ทางนายสุพิชา สามี ยืนยันตัวตนศพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการประสานงานตามระเบียบขั้นตอนของทางประเทศเกาหลีใต้ เพื่อที่จะดำเนินการในขั้นตอน

จากการสอบถาม น.ส.มินตรา อายุ 25 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 09.00 น.ของวันที่ 15 ก.ค.66 มีข้อความทางเฟซบุ๊กจากคนที่ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้แจ้งเข้ามาให้รีบติดต่อกลับด่วน เมื่อติดต่อกลับปลายทางก็เป็นเสียงของพี่เขย คือนายสุพิชา บอกว่าพี่สาวเสียชีวิตแล้วจากเหตุน้ำป่าไหลหลากพัดเอาพี่สาวเข้าไปในโกดังเก็บของ แม้ว่าจะพยายามหาทางช่วยเหลือจนสุดความสามารถแล้ว แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ค.66 เวลาประมาณ 06.00 น.ตามเวลาที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการค้นพบศพและพี่เขยก็ได้ยืนยันตัวตน  ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆเพื่อที่จะให้ดำเนินการนำพี่สาวและพี่เขยกลับบ้าน 

เบื้องต้นคาดว่าน่าจะต้องทำการเผาที่ประเทศเกาหลีใต้ แล้วน่าจะนำเอาเถ้ากระดูกของพี่สาวกลับมาบ้าน ซึ่งน่าจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เพราะเหตุการณ์นี้มีผู้สูญหายเป็นจำนวนมาก  ขณะที่พี่สาวและพี่เขยไม่ได้เดินทางไปทำงานตามระบบ  แต่อาศัยวีซ่านักท่องเที่ยวเข้าไปทำงาน ดังนั้นเมื่อมีการแจ้งความผู้เสียชีวิตแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องทำเรื่องไปยังสถานทูต เพื่อให้พิจารณาขั้นตอนการดำเนินการตามระเบียบต่อไป   จึงอยากวิงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือใครก็ตามที่พอจะช่วยเหลือได้ ให้ช่วยดำเนินการนำพี่สาวและพี่เขยกลับบ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่จะได้พาพี่สาวกลับมาบำเพ็ญกุศลตามพิธีกรรมทางศาสนาเป็นครั้งสุดท้าย
นางสมพงษ์ แม่ผู้เสียชีวิต

ด้านนางสมพงษ์ อายุ 51 ปี แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อได้ยินข่าวว่าลูกสาวเสียชีวิตนั้นตัวเองแทบช็อก ใจจะขาด ทำใจไม่ได้ ลูกสาวถือเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นคนดี กตัญญูรู้คุณ ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว เมื่อก่อนทำไร่ ทำสวน รับจ้างนานาชนิด เพื่อนำเงินมาใช้หนี้สินและเลี้ยงครอบครัว เมื่อมีโอกาสอยากไปทำงานต่างประเทศเพื่อที่จะหาเงินให้ได้โดยเร็ว 

ลูกสาวไปอยู่เกาหลีมาแล้วนานกว่า 4 ปี เก็บเงินส่งเสียทางบ้านจนไถ่ถอนที่ดินของแม่ที่ไปจำนองเอาไว้ 17 ไร่ กลับคืนได้ทั้งหมด และสร้างต่อเติมบ้านเพิ่มขึ้นมาเป็น 3 หลัง เพื่อให้ครอบครัวทั้งแม่ ลูกสาวของตัวเองที่จำใจต้องทิ้งไปอยู่ต่างแดนอีก 3 คน คนโตอายุ 13 ขวบ คนรองอายุ 10 ขวบ และคนเล็ก อายุ 7 ขวบโดยที่ไม่มีโอกาสได้กอดลูก ได้อยู่สบาย  และตั้งใจว่าของทำงานเก็บอีก 2 ปี จะกลับมาตั้งตัวที่บ้านเกิด   แต่สุดท้ายก็ต้องมาเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้  

"หากเป็นไปได้อยากให้ตัวเองเป็นตัวแทนลูกดีกว่า เพราะอยากให้ลูกสาวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวอีกครั้ง สงสารหลานสาว 3 คน ที่ตอนนี้ต้องกลายเป็นกำพร้าแม่ไปแล้ว" นางสมพงษ์ กล่าว
 

logoline