
4 กรกฎาคม 2566 กรณีการหายตัวปริศนา ของ นางดารัณ แพลอย อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี หลังเดินทางออกจากที่ทำงานเพื่อจะไปหาหมอ ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2566 ซึ่งครอบครัวได้นำภาพพร้อมข้อความประกาศตามหานางดารัณ ลงตามเพจต่างๆ เพื่อหาเบาะแส แต่ยังไม่พบตัว
จากการตรวจสอบภาพวีดิโอจากกล้องวงจรปิดภายในมหาวิทยาลัย พบว่าเมื่อเวลา 12.48 นาฬิกา วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน นางดารัณ ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ บริเวณประตู 2 มุ่งหน้าไปทางบ้านพุเลียบ ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี ก่อนจะขาดการติดต่อไป
เพื่อนร่วมงานให้ข้อมูลว่า ก่อนจะหายตัวไป นางดารันบอกกับเพื่อนร่วมงานว่าจะไปหาหมอที่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นคนละทางกับที่นางดารัณ ขี่รถออกจากมหาวิทยาลัยไปตามวงจรปิด
กระทั่งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ บ้านท่าพะเนียด ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี ว่า มีผู้พบบัตรประจำตัวประชาชนของนางดารัณ รวมถึงทรัพย์สินอีกหลายรายการถูกเผา บริเวณท่าน้ำบ้านท่าเพนียด
หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงครอบครัวของนางดารัน เดินทางไปตรวจสอบ ซึ่งครอบครัวของนางดารัณ ยืนยันว่าบัตรประชาชนและสิ่งของต่างๆ ที่พบเป็นของนางดารันจริง
สำหรับหลักฐานที่พบอยู่ริมท่าน้ำบ้านท่าเพนียด ประกอบด้วย กระเป๋าสะพาย น้ำหอม แป้ง ไม้บรรทัด และแฟลชไดร์ฟ ส่วนบัตรประชาชนถูกไฟเผาเสียหายบางส่วน ทั้งยังมีเหรียญบาทจำนวนหนึ่ง และมีดคัตเตอร์ ซึ่งไม่ทราบว่าใครเป็นคนเผา
นอกจากนี้ยังพบกระป๋องน้ำมันถูกวางทิ้งไว้ใกล้กับจุดพบทรัพย์สินของผู้สูญหายถูกเผาด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้เก็บเอาไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนตัวของนางดารัณและรถจักรยานยนต์ที่ขี่ไป ยังไม่พบ
น.ส.พนัชกร ม่วงงาม อายุ 38 ปี ผู้ที่พบบัตรประชาชนของผู้สูญหาย บอกว่า ช่วงเย็นของวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.30 น. ตนเองและลูกชาย อายุ 9 ขวบ มาเล่นน้ำที่ท่าน้ำบ้านท่าเพนียด ซึ่งตนเองมากับกับลูกชายเป็นประจำ ระหว่างที่เล่นน้ำอยู่สังเกตุเห็นบัตรประชาชนวางอยู่ในน้ำ ซึ่งระดับน้ำตอนนั้นไม่สูงมาก สามารถมองเห็นบัตรประชาชนได้อย่างชัดเจน ตนเองจึงบอกลูกชายให้ไปหยิบมาดูว่าเป็นของใคร
เมื่อนำบัตรประชาชนมาดูและพบว่าเป็นคนที่ไม่รู้จัก จึงไม่ได้สนใจอะไร หลังจากนั้นลูกชายจึงนำบัตรนั้นโยนลงในกองไฟที่ยังมีควันอยู่ เป็นจุดเดียวกันกับที่พบทรัพย์สินของผู้สูญหาย หลังจากนั้นจึงเดินทางกลับบ้าน
กระทั่งมาเห็นการแชร์ตามหานางดารัณในเฟซบุ๊ก จึงนึกขึ้นได้ว่า บัตรประชาชนที่พบในน้ำอาจเป็นคนเดียวกันกับผู้สูญหายที่กำลังตามหากัน เมื่อกลับมาดูและพบว่าชื่อตรงกัน จึงรีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว
ด้าน น.ส.แตง ซึ่งเป็นคนในครอบครัวของนางดารัน ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตามปกตินางดารัน จะอาศัยอยู่ที่บ้านพักพร้อมกับสามีและแม่ เมื่อนางดารันหายตัวไป ตนเองมาทราบข่าวในวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม จึงรีบเดินทางพากันไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่านางดารันหายไปไหน จึงอยากฝากไปถึงผู้ที่รับชมข่าวและทราบเบาะแสของนางดารัน ช่วยติดต่อแจ้งเบาะแสเข้ามาให้ด้วย